วิธีใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง ป้องกันโรคได้ ( โปรดแชร์ต่อ เผื่อคนไม่รู้ )
ผ้าปิดจมูก หรือ หน้ากากอนามัย คือ ผ้าที่ใช้ปิดปากหรือจมูก มีทั้งแบบคล้องหูและคาดหัว โดยมากสายที่ใช้คล้องหูจะเป็นยางยืด ใช้ในการแพทย์ กันฝุ่นควัน รวมถึงเกสรดอกไม้ในคนที่เป็นภูมิแพ้ หรือ โรคคาฟึนโช
ผ้าปิดจมูก สามารถป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่ติดต่อทางเดินหายใจง่ายและ ได้ผลมากกว่าวิธีอื่น ๆ ( อ้างอิงจาก th.wikipedia.org )
ในต่างประเทศโดยเฉพาะในญี่ปุ่น เป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนในประเทศนั้นที่มีความเคยชินและมีพฤติกรรมในการป้องกันโรคติดต่อไปติดคนอื่นผ่านระบบทางเดินหายใจที่ปฏิบัติกันจนเป็นวัฒนธรรมแล้ว แต่ประเทศไทยพฤติกรรมนี้เป็นเรื่องแปลกประหลาดและถูกมองไปในทางลบ ถ้าใครสวมผ้าปิดจมูกจะถูกจ้องมองด้วยสายตาที่สงสัยและแสดงอาการรังเกียจ
*เห็นยังมีแชร์ผิดๆกันอยู่
บางคนที่แชร์เป็นพยาบาลวิชาชีพด้วย ให้รู้สึกเป็นห่วง
ดูนี่ค่ะ จากกองควบคุมโรค ของจริง*
สรุปเอาด้านใดออกก็ได้ แต่เขาออกแบบให้เอาด้านสีออก ก็มีเหตุผล อ่านเสียนะ
วิธีการใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง
หน้ากากอนามัยหันด้านไหนออก
1. หันตามผู้ผลิต
-ส่วนมากเอาด้านสีออก
-เหตุผล คือ รอยพับของผ้าด้านที่ไม่มีสี มักจะพับในแบบที่สามารถกักเอาน้ำลายที่เกิดจากการไปจามได้
-สีพื้นผิว ด้านที่มีสี ในบางยี่ห้อสาก บางยี่ห้อกันน้ำ เวลาไอหรือจาม ถ้าเอาด้านนี้เข้า น้ำลายจะไหลเปื้อนซึมออกมาข้างนอกง่าย แถมใส่แล้วเจ็บหน้า
-ตัวสายรัดที่เกี่ยวกับใบหู เค้าออกแบบมาแล้ว ว่าเกาะด้านใน .. ไปใส่อีกด้านมันก็ ไม่ตรงกับที่เค้าตั้งใจให้ใส่
2. ใส่สลับด้าน การกรองต่างกันไหม
– ไม่ต่างกันเลย เพราะ ตัวชั้นกรองอยู่ตรงกลาง ไม่ได้อยู่ด้านใดด้านหนึ่ง ดังนั้น คนที่ป่วย หรือ ไม่ป่วย ก็ใส่เหมือนกัน ด้านไหนก็ได้
3.ข้อสำคัญกว่าการใส่ด้านไหน
-กดเหล็ก คือ ให้ใส่แนบชิดจมูกด้วย ลมจะได้ไม่รั่ว ไม่งั้นจะไม่ป้องกัน
-เวลาถอดออก ควรล้างมือ เพราะมือไปจับหน้ากากที่ผ่านการกรองเชื้อโรค
-ควรใช้วันเดียวทิ้ง ไม่ควรใช้ติดต่อกัน เพราะเป็นที่สะสมเชื้อโรค
ขอบคุณ ภาพจาก สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ข้อมูลจาก saraupdate