เเชร์สูตรไว้ได้เลย เทคนิคชงกาแฟสำเร็จรูปขั้นเทพ อร่อยไม่แพ้กาแฟสด!
กาแฟที่หลายคนชื่นชอบส่วนใหญ่คือกาแฟสด ด้วยรสชาติและกลิ่นหอมที่ดีกว่ากาแฟสำเร็จรูป แต่ด้วยราคาของกาแฟสดที่แพงกว่ากาแฟสำเร็จรูป และความเร่งรีบในการใช้ชีวิตที่ต่างกัน ทำให้หลายคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ หันมาดื่มกาแฟสำเร็จรูปกันมากขึ้น
แต่การชงกาแฟสำเร็จรูปให้อร่อยลงตัวนั้น ใช่ว่าจะชงกันง่ายๆ สำหรับใครที่ชอบดื่มกาแฟสำเร็จรูปแต่ชงยังไงก็ไม่อร่อยสักที ลองมาดูเทคนิคที่ ลูกหมี ได้นำมาฝากกัน โดยเทคนิคขั้นแอดวานซ์นี้ มาจากคุณ polpris สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม รับรองว่าชงตามสูตรนี้ รสชาติกาแฟสำเร็จรูปของคุณอร่อยขึ้นเป็นไหนๆ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย
เชื่อหรือไม่ว่าการชงกาแฟสำเร็จรูปไม่ใช่ของง่าย บางคนชงแล้วมีรสเหมือนผงชอล์คละลายน้ำ
หรือมีกลิ่นกะทิจากคอฟฟี่เมต ผสมผสานกับกลิ่นขี้เลื่อยจากกาแฟราคาถูก
ผมขอเสนอสองแนวทางอันจะนำไปสู่กาแฟรสเทพ
โดยสมมุติฐานง่ายๆ คือกาแฟดีต้องร้อน ต้องมีการละลายจนไม่รู้สึกว่ากำลังกินชอล์ก ต้องมีฟองมากๆ
ฟองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อทำให้กาแฟร้อนนาน และเวลาสัมผัสลิ้นเกิดรสนุ่ม
แบบเปอร์เฟคท์
1. เริ่มตั้งแต่กาแฟต้องเก็บอย่างดี ไม่ให้อัดแน่นและชื้น เพราะมันจะทำให้ขมและเปรี้ยวหนักมาก
ดังนั้นกาแฟต้องเก็บโดยการคว่ำเอาปากขวดลงดังขวดซ้ายในภาพ
2.เตรียมอุปกรณ์คือแก้วสองใบ ตะเกียบหนึ่งอัน เตาไมโครเวฟ(ถ้าใช้นม) หรือน้ำร้อนถ้าใช้คอฟฟี่เมต
แต่วันนี้ผมเลือกใช้แลคตาซอย
3.อุ่นนมให้ร้อน หรือเทน้ำร้อน
4.ใส่กาแฟลงไปเท่าที่ต้องการ +-คอฟฟี่เมตและน้ำตาล
5.ชงด้วยตะเกียบประมาณ 100 ครั้ง โดยไม่ใช่ชงแบบทวนเข็มหรือตามเข็ม แต่ให้ชงเป็นสโตรคซ้ำที่เดิมคล้ายๆเวลาตีไข่ จนขึ้นฟอง เคยมีเพื่อนในพันทิปถามว่าต้องเป็นตะเกียบหรือ ใช้ช้อนได้เปล่า ผมพยายามทำซ้ำดูทั้งสองแบบ พบว่าใช้ตะเกียบดีกว่า เพราะเราต้องชงด้วยความถี่สูงมากๆ ครู่เดียวก็ได้ร้อยครั้ง ถ้าใช้ของแบนๆ เช่นช้อนมันจะหกกระจาย
การชงแบบถูกต้อง
โปรดสับเกตฟองหลังชงด้วยตะเกียบเสร็จ
6.ชักแบบชาชัก โดยไม่ต้องอลังการแบบชาชัก เริ่มด้วยการเทจากแก้วหนึ่งไปอีกแก้วหนึ่งที่ระยะประมาณหนึ่งนิ้ว
จากนั้นยืดออกเป็น 6-10 นิ้ว ก่อนหมดแก้วให้รีบเอามาชนกันดังคลิ๊ก แล้วปาดกัน(ไม่อย่างนั้นมันจะหยดเยอะมากกก)
ชักจนเสียงของมันซอฟต์ (ผมเรียกว่าสุกแล้ว) ก็พอ
คล้ายชาชัก
จะได้กาแฟที่มีฟองเยอะมากๆ ทำให้รสมันซอฟต์ ขจัดกลิ่นกะทิ กลิ่นถั่วเหลือง ที่มากับคอฟฟี่เมต กลิ่นขี้เลื่อยของกาแฟราคาถูกเข้าใจว่ากลิ่นจะระเหยไปตอนตีฟองกับชัก และฟองจะช่วยกันไม่ให้กาแฟเย็นลงเร็ว เพราะมันจะป้องกันไม่ให้โมเลกุลที่ร้อนจัด ซึ่งมีความเร็วสูงวิ่งทะลุออกไปในอากาศ (หลักการคล้าย Laser cooling ที่ทำให้สตีเวน ไวน์เบิร์ก ได้รางวัลโนเบล)
ถามว่าตีฟองอย่างเดียวโดยตะเกียบ หรือชักเฉยๆได้ไหม มันต่างกันการตีด้วยตะเกียบเหมาะกับตอนที่ผงกาแฟยังละลายได้ไม่ดี การชักจะช่วยให้ละลายได้ดีขึ้นจนไม่มีความรู้สึกเหมือนกินผงชอล์ค
ส่วนการชงแบบง่ายๆ เช่นเวลาคอฟฟีเบรคที่ไม่มีเวลามาก คือชงด้วยช้อนเล็กๆ หรือด้ามช้อนให้ได้ 100 ครั้ง โดยชงด้วยความถี่สูงมากๆ และไม่ใช่ชงแบบวน ถ้าเป็นถ้วยกาแฟกระดาษคุณสามารถชักได้(ดีด้วย) แต่ถ้วยกาแฟแบบก้นเตี้ยทำไม่ได้ครับหกกระจาย
ใครที่ชอบดื่มกาแฟสำเร็จรูป คงต้องลองแล้วล่ะ เทคนิคเทพๆแบบนี้ช่วยชูรสกาแฟแก้วโปรดของคุณให้อร่อยขึ้นอีกเยอะ ไม่เชื่อลองดูนะ
ขอขอบคุณที่มาและรูปภาพจาก : คุณ polpris สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
กาแฟที่หลายคนชื่นชอบส่วนใหญ่คือกาแฟสด ด้วยรสชาติและกลิ่นหอมที่ดีกว่ากาแฟสำเร็จรูป แต่ด้วยราคาของกาแฟสดที่แพงกว่ากาแฟสำเร็จรูป และความเร่งรีบในการใช้ชีวิตที่ต่างกัน ทำให้หลายคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ หันมาดื่มกาแฟสำเร็จรูปกันมากขึ้น
แต่การชงกาแฟสำเร็จรูปให้อร่อยลงตัวนั้น ใช่ว่าจะชงกันง่ายๆ สำหรับใครที่ชอบดื่มกาแฟสำเร็จรูปแต่ชงยังไงก็ไม่อร่อยสักที ลองมาดูเทคนิคที่ ลูกหมี ได้นำมาฝากกัน โดยเทคนิคขั้นแอดวานซ์นี้ มาจากคุณ polpris สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม รับรองว่าชงตามสูตรนี้ รสชาติกาแฟสำเร็จรูปของคุณอร่อยขึ้นเป็นไหนๆ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย
หรือมีกลิ่นกะทิจากคอฟฟี่เมต ผสมผสานกับกลิ่นขี้เลื่อยจากกาแฟราคาถูก
ผมขอเสนอสองแนวทางอันจะนำไปสู่กาแฟรสเทพ
โดยสมมุติฐานง่ายๆ คือกาแฟดีต้องร้อน ต้องมีการละลายจนไม่รู้สึกว่ากำลังกินชอล์ก ต้องมีฟองมากๆ
ฟองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อทำให้กาแฟร้อนนาน และเวลาสัมผัสลิ้นเกิดรสนุ่ม
แบบเปอร์เฟคท์
1. เริ่มตั้งแต่กาแฟต้องเก็บอย่างดี ไม่ให้อัดแน่นและชื้น เพราะมันจะทำให้ขมและเปรี้ยวหนักมาก
ดังนั้นกาแฟต้องเก็บโดยการคว่ำเอาปากขวดลงดังขวดซ้ายในภาพ
2.เตรียมอุปกรณ์คือแก้วสองใบ ตะเกียบหนึ่งอัน เตาไมโครเวฟ(ถ้าใช้นม) หรือน้ำร้อนถ้าใช้คอฟฟี่เมต
แต่วันนี้ผมเลือกใช้แลคตาซอย
3.อุ่นนมให้ร้อน หรือเทน้ำร้อน
4.ใส่กาแฟลงไปเท่าที่ต้องการ +-คอฟฟี่เมตและน้ำตาล
5.ชงด้วยตะเกียบประมาณ 100 ครั้ง โดยไม่ใช่ชงแบบทวนเข็มหรือตามเข็ม แต่ให้ชงเป็นสโตรคซ้ำที่เดิมคล้ายๆเวลาตีไข่ จนขึ้นฟอง เคยมีเพื่อนในพันทิปถามว่าต้องเป็นตะเกียบหรือ ใช้ช้อนได้เปล่า ผมพยายามทำซ้ำดูทั้งสองแบบ พบว่าใช้ตะเกียบดีกว่า เพราะเราต้องชงด้วยความถี่สูงมากๆ ครู่เดียวก็ได้ร้อยครั้ง ถ้าใช้ของแบนๆ เช่นช้อนมันจะหกกระจาย
การชงแบบถูกต้อง
โปรดสับเกตฟองหลังชงด้วยตะเกียบเสร็จ
6.ชักแบบชาชัก โดยไม่ต้องอลังการแบบชาชัก เริ่มด้วยการเทจากแก้วหนึ่งไปอีกแก้วหนึ่งที่ระยะประมาณหนึ่งนิ้ว
จากนั้นยืดออกเป็น 6-10 นิ้ว ก่อนหมดแก้วให้รีบเอามาชนกันดังคลิ๊ก แล้วปาดกัน(ไม่อย่างนั้นมันจะหยดเยอะมากกก)
ชักจนเสียงของมันซอฟต์ (ผมเรียกว่าสุกแล้ว) ก็พอ
คล้ายชาชัก
จะได้กาแฟที่มีฟองเยอะมากๆ ทำให้รสมันซอฟต์ ขจัดกลิ่นกะทิ กลิ่นถั่วเหลือง ที่มากับคอฟฟี่เมต กลิ่นขี้เลื่อยของกาแฟราคาถูกเข้าใจว่ากลิ่นจะระเหยไปตอนตีฟองกับชัก และฟองจะช่วยกันไม่ให้กาแฟเย็นลงเร็ว เพราะมันจะป้องกันไม่ให้โมเลกุลที่ร้อนจัด ซึ่งมีความเร็วสูงวิ่งทะลุออกไปในอากาศ (หลักการคล้าย Laser cooling ที่ทำให้สตีเวน ไวน์เบิร์ก ได้รางวัลโนเบล)
ถามว่าตีฟองอย่างเดียวโดยตะเกียบ หรือชักเฉยๆได้ไหม มันต่างกันการตีด้วยตะเกียบเหมาะกับตอนที่ผงกาแฟยังละลายได้ไม่ดี การชักจะช่วยให้ละลายได้ดีขึ้นจนไม่มีความรู้สึกเหมือนกินผงชอล์ค
ส่วนการชงแบบง่ายๆ เช่นเวลาคอฟฟีเบรคที่ไม่มีเวลามาก คือชงด้วยช้อนเล็กๆ หรือด้ามช้อนให้ได้ 100 ครั้ง โดยชงด้วยความถี่สูงมากๆ และไม่ใช่ชงแบบวน ถ้าเป็นถ้วยกาแฟกระดาษคุณสามารถชักได้(ดีด้วย) แต่ถ้วยกาแฟแบบก้นเตี้ยทำไม่ได้ครับหกกระจาย
ใครที่ชอบดื่มกาแฟสำเร็จรูป คงต้องลองแล้วล่ะ เทคนิคเทพๆแบบนี้ช่วยชูรสกาแฟแก้วโปรดของคุณให้อร่อยขึ้นอีกเยอะ ไม่เชื่อลองดูนะ
ขอขอบคุณที่มาและรูปภาพจาก : คุณ polpris สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม