สะเทือนใจ! จนท.เรือนจำเล่าซึ้ง! 2หนูน้อยกตัญญู ปั่นจักรยาน50กิโลฯ_มาเยี่ยมพ่อ-เพราะคิดถึง
เมื่อวันที่ (16 ก.ค. 60) ได้มีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อว่า Apichai Manthong ได้แชร์โพสต์เรื่องราวของเด็กชาย 2 คนพี่น้อง ที่ปั่นจักรยานมาเยี่ยมพ่อที่เรือนจำแต่เช้า เพราะคิดถึงพ่อเลยพากันปั่นจักรยานมา ซึ่งจากระยะทางจากบ้านมาถึงเรือนจำดังกล่าวประมาณ 50 กิโลเมตร แต่ที่น่าเศร้าก็คือเด็กชายทั้ง 2 คน กลับไม่ได้พบพ่อเพราะวันดังกล่าวเป็นวันปิดทำการของเรือนจำ
ทั้งนี้สมาชิกเฟซบุ๊กดังกล่าวได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “#มีเรื่องความกตัญญูของลูก..มาเล่าสู่กันฟังครับ.วันนี้เข้าเวรป้อมหน้าเรือนจำฯ มีเด็ก2คนปั่นจักรยานมา เลยสอบถาม หนูๆมาทำอะไรคับ.เด็ก2คนพี่กะน้อง ก็ได้เล่าให้ฟังว่า ปั่นจกรยานมาจากแถว #บ้านโนนคูณ ต.โนนค้อ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เพื่อมาเยี่ยมพ่อที่เรือนจำอำกันทรลักษ์
ด้วยความรักและคิดถึงพ่อ จากบ้านมาเรือนจำฯเป็นระยะทางกว่า50 กม…ออกเดินทางมาตั้งแต่เวลาประมาณ07.30 น. มาถึงเรือนจำฯเวลา12.10 น.(และทีซวยสุดของน้องเขาคือโทรศัพย์น้องเขาหล่นแตก ระหว่างเดินทางมาด้วย..แต่น้องก็บอกว่าไม่เป็นไรยังโทรได้อยู่)..แต่ก็เสียใจกับน้องเขาอยู่ ที่มาเยี่ยมพ่อเป็นวันหยุดปิดทำการ..แต่ก็ได้พาน้องเขาเดินดูรอบๆ และพาน้องไปที่ห้องงานทะเบียน พอดีมี จนท.เวรฯหมายอยู่พอดี คือ หน.วิยาพงษ์ ขอให้ หน.เขาอนุเคราะห์ช่วยเช็คประวัติ และเด็กได้เห็นภาพพ่อ และได้รู้วันพ้นโทษ เด็กๆ ต่างก็ดีใจและปลื้มใจ
ผมถึงกับอึ้งในความรักกตัญญูที่มีแต่พ่อ เสร็จละได้พูดคุยสอบถาม เด็กว่า แม่ไปไหน เด็กบอกแม่ไปทำงานที่กรุงเทพ อยู่กับยาย วันหยุดไม่ได้ไป รร.เลยอยากมาเยี่ยมพ่อ ฟังละน้ำตาจะไหล และถามเด็กว่า กินข้าวเที่ยงหรือยัง เด็กบอกว่ายัง น้าเองก็เอาเงินติดตัวมา200 บาท งั้นแบ่งคนละครึ่งเรา.น้อง2คนเอาไป100 นะค่ากินข้าวเที่ยง และได้กรอกน้ำใส่ขวดเล็กๆให้คนเด็ก คนละขวด (ขวดน้ำเด็กกรอกมาแต่บ้านดื่มตามทางมาจนน้ำหมด)ก่อนให้เขากลับ บอกน้องเขาว่าตอนปั่นรถกลับบ้าน ว่าให้ดูน้องด้วย และระมัดระวังนะ #ด้วยอำนาจแห่งศีลแห่งธรรม ขอให้เด็ก2คน #ถึงบ้านอย่างปลอดภัย สาธุ (อยากฝากถึงผู้นำชุมชนหรือคนใกล้เคียงที่พอช่วยน้องได้ วันหลังถ้าเด็กอยากมา ให้พาเด็กมาหน่อย ไม่อยากให้เด็กปั่นรถมาเองไกล และอันตรายครับ) “
เมื่อวันที่ (16 ก.ค. 60) ได้มีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อว่า Apichai Manthong ได้แชร์โพสต์เรื่องราวของเด็กชาย 2 คนพี่น้อง ที่ปั่นจักรยานมาเยี่ยมพ่อที่เรือนจำแต่เช้า เพราะคิดถึงพ่อเลยพากันปั่นจักรยานมา ซึ่งจากระยะทางจากบ้านมาถึงเรือนจำดังกล่าวประมาณ 50 กิโลเมตร แต่ที่น่าเศร้าก็คือเด็กชายทั้ง 2 คน กลับไม่ได้พบพ่อเพราะวันดังกล่าวเป็นวันปิดทำการของเรือนจำ
ทั้งนี้สมาชิกเฟซบุ๊กดังกล่าวได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “#มีเรื่องความกตัญญูของลูก..มาเล่าสู่กันฟังครับ.วันนี้เข้าเวรป้อมหน้าเรือนจำฯ มีเด็ก2คนปั่นจักรยานมา เลยสอบถาม หนูๆมาทำอะไรคับ.เด็ก2คนพี่กะน้อง ก็ได้เล่าให้ฟังว่า ปั่นจกรยานมาจากแถว #บ้านโนนคูณ ต.โนนค้อ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เพื่อมาเยี่ยมพ่อที่เรือนจำอำกันทรลักษ์
ด้วยความรักและคิดถึงพ่อ จากบ้านมาเรือนจำฯเป็นระยะทางกว่า50 กม…ออกเดินทางมาตั้งแต่เวลาประมาณ07.30 น. มาถึงเรือนจำฯเวลา12.10 น.(และทีซวยสุดของน้องเขาคือโทรศัพย์น้องเขาหล่นแตก ระหว่างเดินทางมาด้วย..แต่น้องก็บอกว่าไม่เป็นไรยังโทรได้อยู่)..แต่ก็เสียใจกับน้องเขาอยู่ ที่มาเยี่ยมพ่อเป็นวันหยุดปิดทำการ..แต่ก็ได้พาน้องเขาเดินดูรอบๆ และพาน้องไปที่ห้องงานทะเบียน พอดีมี จนท.เวรฯหมายอยู่พอดี คือ หน.วิยาพงษ์ ขอให้ หน.เขาอนุเคราะห์ช่วยเช็คประวัติ และเด็กได้เห็นภาพพ่อ และได้รู้วันพ้นโทษ เด็กๆ ต่างก็ดีใจและปลื้มใจ
ผมถึงกับอึ้งในความรักกตัญญูที่มีแต่พ่อ เสร็จละได้พูดคุยสอบถาม เด็กว่า แม่ไปไหน เด็กบอกแม่ไปทำงานที่กรุงเทพ อยู่กับยาย วันหยุดไม่ได้ไป รร.เลยอยากมาเยี่ยมพ่อ ฟังละน้ำตาจะไหล และถามเด็กว่า กินข้าวเที่ยงหรือยัง เด็กบอกว่ายัง น้าเองก็เอาเงินติดตัวมา200 บาท งั้นแบ่งคนละครึ่งเรา.น้อง2คนเอาไป100 นะค่ากินข้าวเที่ยง และได้กรอกน้ำใส่ขวดเล็กๆให้คนเด็ก คนละขวด (ขวดน้ำเด็กกรอกมาแต่บ้านดื่มตามทางมาจนน้ำหมด)ก่อนให้เขากลับ บอกน้องเขาว่าตอนปั่นรถกลับบ้าน ว่าให้ดูน้องด้วย และระมัดระวังนะ #ด้วยอำนาจแห่งศีลแห่งธรรม ขอให้เด็ก2คน #ถึงบ้านอย่างปลอดภัย สาธุ (อยากฝากถึงผู้นำชุมชนหรือคนใกล้เคียงที่พอช่วยน้องได้ วันหลังถ้าเด็กอยากมา ให้พาเด็กมาหน่อย ไม่อยากให้เด็กปั่นรถมาเองไกล และอันตรายครับ) “