4 อาหารบำรุงสมองเหมาะกับ “คนขี้หลง ขี้ลืม”
ทุกวันนี้หลายคนหันไปใช้วิตามิน หรือ อาหารเสริม เพื่อช่วยในเรื่องของความจำซึ่งในความเป็นจริงแล้วโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไข่ และ ถั่วก็มีสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมองเพิ่มความจำให้ดีขึ้นและเหนืออื่นใดการรับประทานอาหารเหล่านี้สามารถทำได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้างแต่อย่างใด
1. ปลา
เคยได้ยินใช่ไหมที่เขาว่ากินปลาแล้วจะฉลาด ซึ่งเนื้อปลาอุดมไปด้วยกรดอะมิโนไทโรซิน เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์ได้ มีบทบาทในการกระตุ้นและปรับเปลี่ยนการทำงานของสมอง สามารถช่วยฟื้นฟูความจำ และสารดีเอชเอ (Docosahexaenoic acid ) คือกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวซึ่งจำเป็นต่อร่างกาย สารดังกล่าวนี้จะช่วย ในการพัฒนาสมองและสายตา ช่วยเสริมสร้างความจำและการเรียนรู้ ทั้งนี้ยังช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมได้อีกด้วย ซึ่งการรับประทานนื้อปลา ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเลน้ำลึกหรือว่าปลาน้ำจืดสามารถนำมาประกอบอาหารด้วยวิธีที่ดีต่อสุขภาพอย่าง การต้ม การย่าง การนึ่ง ได้หลากหลายเมนู ซึ่งปลาเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี อีกทั้งยังย่อยง่ายอีกด้วย
2. ไข่
ไข่จัดเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีเพราะอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญประกอบด้วย โปรตีนถึง 6.3 กรัม ไขมัน วิตามิน เอ บี ดี อี ฟอสฟอรัส เหล็ก แคลเซียม สังกะสี ไอโอดีน ซิลิเนียม ทั้งนี้ในไข่แดงยังประกอบไปด้วยโคลีนซึ่งโคลีนเป็นส่วนประกอบในเลซิตินเป็นสารจำเป็นที่ร่างกายจะนำไปใช้เพื่อสร้างสารสื่อประสาท มีส่วนช่วยในกระบวนการส่งกระแสประสาท โดยเฉพาะในสมองส่วนที่ทำงานด้านความจำ
3. นมถั่วเหลือง
นมถั่วเหลืองจัดเป็นเครื่องดื่มบำรุงสมองที่ดีไม่แพ้กัน ในนมถั่วเหลืองประกอบไปด้วย วิตามินเอ, บี, บี 1, บี 2, บี 6, บี 12 คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไนอาซิน และเลซิตินที่เป็นสารบำรุงสมอง เสริมสร้างประสิทธิภาพในเรื่องของความจำ ป้องกันความจำเสื่อม
4. พืชตระกูลถั่ว
ถั่วจัดได้ว่าเป็นโปรตีนที่ดีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ถั่วลิสง อัลมอนด์ ฯลฯ ซึ่งในถั่วจะมีวิตามินอีที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความจำ
1. ออกกำลังกายซะบ้าง
นักวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายท่านเห็นตรงกันว่าการออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน จะเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลดีต่อระบบสมอง ขณะที่หัวใจและปอดก็จะแข็งแรงตามไปด้วย ซึ่งก็เท่ากับว่าหากสมองแข็งแรง ก็จะทำให้ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายแข็งแรงตามไปด้วย
2. ทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
คุณรู้หรือไม่ว่า การได้รับพลังงานไม่ว่าจะมากหรือน้อยเกินไปส่งผลต่อการทำงานของระบบสมอง ดังนั้นแล้วอาหารหรือผลไม้อะไรก็ตามแต่ที่คุณทาน ก็ควรจะเป็นอาหารที่ให้ไฟเบอร์สูง และให้ปริมาณของไขมันและโปรตีนอย่างพอเหมาะ ลดการทานอาหารที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ก็จะทำให้การทำงานของระบบสมองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
3. ไม่ตามใจปาก
การตามใจปาก ทานอาหารอย่างไม่ดูคุณค่าทางโภชนาการจะทำให้สมองทำงานช้าลง ดังนั้นจึงควรที่จะควบคุมการทานอาหารอย่างพอเหมาะ เพราะหากควบคุมอาหารที่มากเกินความจำเป็น ก็จะส่งผลเสียทำให้เกิดภาวะเบื่ออาหาร ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการทำงานของสมองอย่างมาก
4. ดูแลตัวเอง
โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคความดันโลหิตสูง เป็น 3 โรคอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อสมองโดยตรง ทำให้กระบวนการรับรู้ของสมองแย่ลงจนอาจทำให้เกิดอาการความจำเสื่อมได้ ดังนั้นคุณจึงควรที่จะดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันสูง เพื่อบรรเทาไม่ให้สมองถูกทำลายก่อนวัยอันสมควร
5. พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดที่ทำให้ร่างกายและสมองได้รับการผ่อนคลายจากการใช้งานมาตลอดทั้งวัน ซึ่งการนอนอย่างน้อยวันละ 8 - 10 ชั่วโมง ก็จะทำให้การทำงานของสมองดีขึ้น และตัวคุณเองก็จะรู้สึกสดชื่นขึ้นเช่นกัน
6. กาแฟช่วยคุณได้
มีการศึกษาพบว่ากาเฟอีนในกาแฟสามารถปกป้องสมองได้ การดื่มกาแฟวันละ 2 - 4 แก้วต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคความจำเสื่อมได้ 30 - 60% เลยทีเดียว
7. ทานปลาบำรุงสมอง
ปลาถือเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ให้ประโยชน์ต่อร่างกายและสมองสูง โดยเฉพาะโอเมก้า 3 ที่อยู่ในเนื้อปลา มีประโยชน์ที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
8. ปล่อยตัวไปตามสบาย
เครียดมากเกินไปก็ส่งผลทำให้การทำงานและการจดจำของสมองแย่ลงได้ ดังนั้นแล้วจงปล่อยตัวไปตามสบายซะบ้าง ทำจิตใจให้สงบ อย่างเช่น การเล่นโยคะ ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
9. หลีกเลี่ยงการใช้อาหารเสริมต่าง ๆ
หากใช้อาหารเสริมต่าง ๆ อย่างผิดวิธีและเกินความจำเป็นจะส่งผลเสียต่อสมองอย่างมาก ที่สำคัญยังเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะอาหารเสริมก็เหมือนยาชนิดหนึ่งซึ่งจะส่งผลดีก็ต่อเมื่อร่างกายมีปัญหาหรือร่างกายจำเป็นต้องได้รับเท่านั้น หากร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีอยู่แล้ว ก็ไม่ควรใช้อาหารเสริมแต่อย่างใด
10. ทำกิจกรรมที่ลับสมอง
เพื่อเป็นการเพิ่มรอยหยักให้สมอง เมื่อใดก็ตามที่คุณมีเวลาว่าง ให้ลองหาเกมลับสมองมาเล่นดู ไม่ว่าจะเป็นปริศนาอักษรไขว้ ต่อจิ๊กซอว์ เพราะนอกจากคุณจะได้เพลิดเพลินแล้ว ยังช่วยให้ระบบการทำงานของสมองใช้การได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ขอขอบคุณสำหรับเนื้อหาจาก : ผู้จัดการออนไลน์
ทุกวันนี้หลายคนหันไปใช้วิตามิน หรือ อาหารเสริม เพื่อช่วยในเรื่องของความจำซึ่งในความเป็นจริงแล้วโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไข่ และ ถั่วก็มีสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมองเพิ่มความจำให้ดีขึ้นและเหนืออื่นใดการรับประทานอาหารเหล่านี้สามารถทำได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้างแต่อย่างใด
1. ปลา
เคยได้ยินใช่ไหมที่เขาว่ากินปลาแล้วจะฉลาด ซึ่งเนื้อปลาอุดมไปด้วยกรดอะมิโนไทโรซิน เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์ได้ มีบทบาทในการกระตุ้นและปรับเปลี่ยนการทำงานของสมอง สามารถช่วยฟื้นฟูความจำ และสารดีเอชเอ (Docosahexaenoic acid ) คือกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวซึ่งจำเป็นต่อร่างกาย สารดังกล่าวนี้จะช่วย ในการพัฒนาสมองและสายตา ช่วยเสริมสร้างความจำและการเรียนรู้ ทั้งนี้ยังช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมได้อีกด้วย ซึ่งการรับประทานนื้อปลา ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเลน้ำลึกหรือว่าปลาน้ำจืดสามารถนำมาประกอบอาหารด้วยวิธีที่ดีต่อสุขภาพอย่าง การต้ม การย่าง การนึ่ง ได้หลากหลายเมนู ซึ่งปลาเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี อีกทั้งยังย่อยง่ายอีกด้วย
2. ไข่
ไข่จัดเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีเพราะอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญประกอบด้วย โปรตีนถึง 6.3 กรัม ไขมัน วิตามิน เอ บี ดี อี ฟอสฟอรัส เหล็ก แคลเซียม สังกะสี ไอโอดีน ซิลิเนียม ทั้งนี้ในไข่แดงยังประกอบไปด้วยโคลีนซึ่งโคลีนเป็นส่วนประกอบในเลซิตินเป็นสารจำเป็นที่ร่างกายจะนำไปใช้เพื่อสร้างสารสื่อประสาท มีส่วนช่วยในกระบวนการส่งกระแสประสาท โดยเฉพาะในสมองส่วนที่ทำงานด้านความจำ
3. นมถั่วเหลือง
นมถั่วเหลืองจัดเป็นเครื่องดื่มบำรุงสมองที่ดีไม่แพ้กัน ในนมถั่วเหลืองประกอบไปด้วย วิตามินเอ, บี, บี 1, บี 2, บี 6, บี 12 คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไนอาซิน และเลซิตินที่เป็นสารบำรุงสมอง เสริมสร้างประสิทธิภาพในเรื่องของความจำ ป้องกันความจำเสื่อม
4. พืชตระกูลถั่ว
ถั่วจัดได้ว่าเป็นโปรตีนที่ดีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ถั่วลิสง อัลมอนด์ ฯลฯ ซึ่งในถั่วจะมีวิตามินอีที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความจำ
แถมด้วยวิธีการดูแลสมองให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าอยากจะรู้ว่ามีวิธีใดบ้างแล้วล่ะก็ ตามมาดูกันเลย
1. ออกกำลังกายซะบ้าง
นักวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายท่านเห็นตรงกันว่าการออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน จะเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลดีต่อระบบสมอง ขณะที่หัวใจและปอดก็จะแข็งแรงตามไปด้วย ซึ่งก็เท่ากับว่าหากสมองแข็งแรง ก็จะทำให้ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายแข็งแรงตามไปด้วย
2. ทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
คุณรู้หรือไม่ว่า การได้รับพลังงานไม่ว่าจะมากหรือน้อยเกินไปส่งผลต่อการทำงานของระบบสมอง ดังนั้นแล้วอาหารหรือผลไม้อะไรก็ตามแต่ที่คุณทาน ก็ควรจะเป็นอาหารที่ให้ไฟเบอร์สูง และให้ปริมาณของไขมันและโปรตีนอย่างพอเหมาะ ลดการทานอาหารที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ก็จะทำให้การทำงานของระบบสมองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
3. ไม่ตามใจปาก
การตามใจปาก ทานอาหารอย่างไม่ดูคุณค่าทางโภชนาการจะทำให้สมองทำงานช้าลง ดังนั้นจึงควรที่จะควบคุมการทานอาหารอย่างพอเหมาะ เพราะหากควบคุมอาหารที่มากเกินความจำเป็น ก็จะส่งผลเสียทำให้เกิดภาวะเบื่ออาหาร ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการทำงานของสมองอย่างมาก
4. ดูแลตัวเอง
โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคความดันโลหิตสูง เป็น 3 โรคอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อสมองโดยตรง ทำให้กระบวนการรับรู้ของสมองแย่ลงจนอาจทำให้เกิดอาการความจำเสื่อมได้ ดังนั้นคุณจึงควรที่จะดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันสูง เพื่อบรรเทาไม่ให้สมองถูกทำลายก่อนวัยอันสมควร
5. พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดที่ทำให้ร่างกายและสมองได้รับการผ่อนคลายจากการใช้งานมาตลอดทั้งวัน ซึ่งการนอนอย่างน้อยวันละ 8 - 10 ชั่วโมง ก็จะทำให้การทำงานของสมองดีขึ้น และตัวคุณเองก็จะรู้สึกสดชื่นขึ้นเช่นกัน
6. กาแฟช่วยคุณได้
มีการศึกษาพบว่ากาเฟอีนในกาแฟสามารถปกป้องสมองได้ การดื่มกาแฟวันละ 2 - 4 แก้วต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคความจำเสื่อมได้ 30 - 60% เลยทีเดียว
7. ทานปลาบำรุงสมอง
ปลาถือเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ให้ประโยชน์ต่อร่างกายและสมองสูง โดยเฉพาะโอเมก้า 3 ที่อยู่ในเนื้อปลา มีประโยชน์ที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
8. ปล่อยตัวไปตามสบาย
เครียดมากเกินไปก็ส่งผลทำให้การทำงานและการจดจำของสมองแย่ลงได้ ดังนั้นแล้วจงปล่อยตัวไปตามสบายซะบ้าง ทำจิตใจให้สงบ อย่างเช่น การเล่นโยคะ ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
9. หลีกเลี่ยงการใช้อาหารเสริมต่าง ๆ
หากใช้อาหารเสริมต่าง ๆ อย่างผิดวิธีและเกินความจำเป็นจะส่งผลเสียต่อสมองอย่างมาก ที่สำคัญยังเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะอาหารเสริมก็เหมือนยาชนิดหนึ่งซึ่งจะส่งผลดีก็ต่อเมื่อร่างกายมีปัญหาหรือร่างกายจำเป็นต้องได้รับเท่านั้น หากร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีอยู่แล้ว ก็ไม่ควรใช้อาหารเสริมแต่อย่างใด
10. ทำกิจกรรมที่ลับสมอง
เพื่อเป็นการเพิ่มรอยหยักให้สมอง เมื่อใดก็ตามที่คุณมีเวลาว่าง ให้ลองหาเกมลับสมองมาเล่นดู ไม่ว่าจะเป็นปริศนาอักษรไขว้ ต่อจิ๊กซอว์ เพราะนอกจากคุณจะได้เพลิดเพลินแล้ว ยังช่วยให้ระบบการทำงานของสมองใช้การได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ขอขอบคุณสำหรับเนื้อหาจาก : ผู้จัดการออนไลน์