วันที่ 13 เมษายน 2561 มีรายงานจาก ไทยโพสต์ ว่า คณะกรรมการราชตฤณมัยสมาคม จะประชุมคณะกรรมการบริหาร เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการหลังจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดย นายอนันต์ ไววิทยะ หัวหน้าฝ่ายอาวุโส ฝ่ายกฎหมาย ได้ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าและขอให้ส่งมอบพื้นที่คืนภายใน 180 วัน หลังจาก สัญญาเช่าทั้งสามฉบับ (พื้นที่ อาคาร และ ที่จอดรถ) ครบกำหนดอายุสัญญาเช่ามานานแล้ว โดยเลื่อนจากกำหนดการเดิมวันที่ 22 เมษายน มาเป็นวันที่ 18 เมษายน นี้
โดย พล.อ. บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ รองประธานคณะกรรมการฯ กล่าวว่า พล.อ. วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ ประธานคณะกรรมการฯ ได้เรียกประชุมกรรมการฯ เพื่อหาแนวทางว่าจะเดินหน้าในการดำเนินกิจการสนามม้าต่อไปหรือไม่นั้น ต้องดูจากมติที่ประชุมกรรมการบริหาร และความพร้อมของผู้ร่วมลงทุน ซึ่งที่ผ่านมาเอกชนเข้ามาร่วมบริหาร ภายใต้ชื่อ บริษัท บางกอก จ๊อกกี้ คลับ จำกัด (Bangkok Jockey Club Co.Ltd.) ก็เริ่มเข้ามาบุกเบิก พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องภาวะขาดทุนสะสมกว่า 1,300 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการผ่อนชำระกับรัฐ
ซึ่งปัญหาขาดทุนเกิดจากหลายปัจจัย แต่หลัก ๆ คือการส่งภาษีเข้ารัฐจำนวนมาก ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือขอให้มีการลดภาษีดังกล่าวลงแต่รัฐไม่อนุญาต ทางราชตฤณมัยสมาคมฯ จึงต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยนำเอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่ส่วนอื่นเพื่อหารายได้เพิ่มเติม ทั้งร้านอาหาร สถานที่จัดเลี้ยง และ สปอร์ตคลับ ที่กำลังจะมีการปรับปรุงให้ได้มาตรฐานกว่าเดิม
ขณะที่พื้นที่สนามม้าซึ่งเป็นพื้นที่หลัก ปรากฏว่าช่วง 5 ปีหลังผู้ที่สนใจเข้ามาดูม้าแข่งก็ลดลง เนื่องจากคนรุ่นใหม่ไม่สนใจ สมาชิกและคนที่เข้ามาในสนามม้าจะเป็นคนที่อายุ 40 ขึ้นไปนับวันก็จะแก่ลง คนรุ่นใหม่ก็ไม่มีใครมาดูเพิ่ม
พล.อ. บุญเลิศ กล่าวว่า ต้องมีการพิจารณาว่าหากหาพื้นที่ใหม่สร้างสนามม้า แล้วลงทุนใหม่ จะคุ้มหรือไม่ แล้วหนี้เก่าจะทำอย่างไรต่อไป ต้องมีการคุยกันก่อนว่าจะไปต่อ หรือ จะหยุดตรงไหนคุ้มค่ากว่ากัน
รายงานระบุด้วยว่า หลังจากที่มีการส่งคืนพื้นที่สนามม้านางเลิ้งให้ทางสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์แล้ว พื้นที่ดังกล่าวจะมีการจัดเตรียมการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อให้ประชาชนเข้าสักการะ พร้อมทั้งจัดเป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนได้มาพักผ่อนและออกกำลังกายด้วย
ภาพจาก Thailand image