“มันต่างกันที่วิธีคิด” หมดไปเท่าไหร่กับการเรียนมา19 ปี เงินเดือนหมื่นห้า

สาม ปี เรียนอนุบาล
หก ปี เรียนประถม
หก ปี เรียนมัธยม
สี่ ปีเรียนมหาวิทยาลัย

19 ปีเรียนมาเกือบ ต า ย
หมดเงินไปไม่รู้เท่าไร จบมาแม่งเป็นขี้ ข้ าห้องแอร์เงินเดือน หมื่นห้า

เจ้านายแม่งก็หน้าหม้อ
เพื่อนร่วมงานแม่งก็ขี้อิจฉา
ไหนจะลูกค้างี่เง่า

ทนๆๆๆๆ ทนมา 3 ปี กะจะหาที่ทำงานใหม่
พอได้อ้าว ชิ บ ห าย
ที่ใหม่แ ม่ งก็ไม่ต่างจากที่เก่า
เราแค่เปลี่ยนที่ทุกข์

ตื่นมาแทนที่จะได้กินกาแฟอ่านหนังสือที่ชอบก่อน
ต้องรีบร้อนวิ่งไปหาเครื่องตอกบัตร

เที่ยง
อยาก แ ด ก ร้านโปรดแ ม่ งก็ไกล
ทำได้แค่กินข้าวแกงข้างอ็อฟฟิตเพราะกลัวกลับเข้างานไม่ทันเวลา

อยากออกจากงานวันละ 3 เวลาหลังอาหารก็ทำไม่ได้ เพราะ
เ จื อ ก ผ่อนรถ ไหนจะค่าบัตรเครดิตอีก 2 – 3 ใบ
ลาออกไปมีหวังกลับไปนั่งรถเมลล์เหมือนเดิม

ชีวิตค่อยๆเดินลงทะเล ทีละก้าว
ผ่านไป 10 ปี มีลูกยิ่งต้องระวัง
ตกงานมาไม่ใช่เราคนเดียวที่อด ต า ย ไปทำงานด้วยความจำยอม
เจ้านายจะโขกสับยังไงก็ต้องทน

แต่ก็แปลกอีกนะ
เราเจอแบบนี้มา เราก็ดันไป สอนลูกเราต่ออีกว่า “ตั้งใจเรียนนะโตขึ้นจะได้ทำงานดี ๆ “

สุดท้ายพอเรา ต า  ย ห่ าไป  เราไม่ได้ทิ้งอะไรใว้ให้ลูกเลย
แต่เราทิ้งลูกจ้างใว้ให้โลกไว้ทำงาน  ให้บริษัทคนอื่นให้คนอื่นรวย
นั้นคือ ลูกเรา นั้นเอง

คิดง่ายๆนะ
อาเฮียร้านจักรยาน ต า ย ห่าไป เขาทิ้งกิจการร้านจักรยานใว้ให้ลูก
ลูกรุ่นต่อไปเป็น เถ้าแก่

ลุงดำ ทำงาน ร้านจักรยานของอาเฮีย ลุงดำ ต า ย ห่าไป ลุงดำจะมีอะไรทิ้งใว้ให้ลูก

คนจะรวยคนจะจน  มันไม่ได้ต่างกันที่จำนวนเงิน มันต่างกันที่วิธีคิด

คุณอยากเห็นตัวเองตอนอายุ 60 เป็นยังไงมันขึ้นอยู่กับการคิดการทำในวันนี้

เลิกทำให้คนอื่นรวย มาทำให้ตัวเองรวย

แล้วก็อย่าเ จื อ ก มาโชว์โง่ ด้วยการบอกว่า ค้าขายไม่เป็น
ทำธุรกิจไม่เป็น ออกมาจากท้องแม่ เอาไม่เป็นทำไมตอนนี้ เอาเป็นทุกท่า

เรียนรู้ ศึกษา สิครับ
เริ่มจากสิ่งที่ตัวเองชอบอยากทำ
ทำแล้วมีความสุข

แรกๆ อาจจะเจ๊ง เจ๊งก็ช่างมัน ยิ่งเจ๊ง ยิ่งเก่ง
เหมือนหัดขี่จักรยานนั้นแหละ  ต้องมีล้มบ้าง

เลือกเอา
จะล้มตอนนี้ตอนที่ยังมีแรงลุกได้เร็ว หรือ ล้มตอนอายุ 60 ล้มมานี่ ต า ย ห่ า เลยนะ

Cr: ตี๊ก สิริทัศน์ สมเสงี่ยม

ขอบคุณแหล่งที่มา : Tine Xaou