สาระ ความรู้ Edit ปลูกมะละกอแบบนี้ ลูกดกต้นเตี้ย ผลผลิตดี เอาไปขายกำไรงาม ปลูกมะละกอแบบนี้ ลูกดกต้นเตี้ย ผลผลิตดี เอาไปขายกำไรงาม เกษตรกรต้องอ่านเลยใครที่อยากจะปลูกมะละกอให้ได้ลูกดก ๆ ผลิตดี ๆ เก็บเกี่ยวง่ายเพราะต้นเตี้ยบ้าง ลองมาอ่านบทความนี้ให้จบ เรามีวิธีการ ปลูกมะละกอ ให้ต้นเตี้ย แถมแต่ละลูกที่ดก ๆ นั้นสมบูรณ์ แข็งแรง นำไปขายได้กำไรดีใครเห็นก็อยากจะซื้ออย่างแน่นอน ลองมาดูกันเลยว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง การเพาะมะละกอ เราจะต้องหาเมล็ดมะละกอสุกสด ๆ มาก่อน เอามาเพาะได้เลยแบบไม่ต้องตากแห้ง ยกเว้นแต่อยากจะเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้จะตากแห้งก็ได้ ซึ้งพอเราได้เมล็ดมาแล้วก็ให้ทำดังนี้ 1. นำเมล็ดมะละกอไปแช่น้ำเพื่อล้างเมือกออก 2. เอามือขยำเบา ๆ เมือกจะค่อย ๆ หลุดออกไป ถ้าเราไม่เอา เ มื อ ก อาจจะทำให้เมล็ดเน่าได้ 3. แช่น้ำไว้ 3 คืน 4. เปลี่ยนน้ำที่แช่ใหม่ทุกวัน พอครบ 3 คืนแล้วก็เอาออกมาลงกระบะเพาะหรือถุงเพาะเมล็ดได้เลย เทคนิคแปลงเพศมะละกอ เทคนิคนี้ถือว่าได้ผลครับ แต่ไม่ 100 % ครับ จากที่ลองทดลองปลูก 30 ต้น พบว่าเป็นต้น ก ร ะ เ ท ย 28 ต้น เป็นตัวเมีย 2 ต้น ซึ่งก็ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง วิธีทำ 1. ย้ายกล้ามะละกอจากแปลงเพาะ ควรรดน้ำต้นกล้าให้ชุ่ม 2. ให้ตัดรากแก้วของกล้ามะละกอออกประมาณ 2 ข้อนิ้วมือหรือประมาณ 5 เซนติเมตร ซึ่งวัดจากปลายรากขึ้นไป 3. นำต้นมะละกอลงปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ ควรวางต้นมะละกอเอียง 30 -45 องศา หันไปทางทิศตะวันออก เพื่อให้รับได้รับแสงแดด ขั้นตอนการเตรียมดินและปลูกมะละกอ เราจะเตรียมดินโดยการไถ ทำการตากดินไว้ประมาณ 5 วัน ขุดหลุมลึกประมาณ 30ซม.ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 2.5×2.5 เมตร 1 ไร่ จะปลูกได้ ราว 250 ต้น และรองก้นหลุมด้วยแกลบดำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ การขุดหลุม จะขุดลึก 30×30 ซ.ม. แล้วใช้แกลบดำผสมปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกรองก้นหลุม หลุมละ 5 กิโล 1:1:1 ข้อดีของแกลบดำ 1. มีแร่ธาตุโปตัสเซียมและแคลเซียม 2. มีรูมากมายซึ่งจะเป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ 3. เมื่อนำไปคลุมดินหรือนำไปผสมกับอินทรียวัตถุอย่างอื่น ช่วยลดความร้อนที่เกิดขึ้นเนื่องจากผ่านการย่อยสลาย 4. ช่วยบำรุงความชุ่มชื้นให้แก่หน้าดิน แกลบดำ เก็บความชื้นได้ดี สะอาด ไม่เป็นกรด นิยมใช้แกลบดำผสมในดินเพาะปลูกพืช เนื่องจากว่าจะช่วยเก็บความชื้นในดินและเนื่องจากว่าเป็นแกลบที่สะอาดเพราะผ่านการเผามาแล้วจึงช่วยลดปัญหาการติดโรคของพืชได้ คำแนะนำ ไม่ควรเอาแกลบดิบรองก้นหลุมเพราะมีธาตุชิส์กอนที่ยังไม่ย่อยสลาย ซึ่งจะเป็นตัวดึงก๊าซออกซิเจนและไนโตรเจน ที่มีอยู่ในอากาศไปใช้ในการย่อยสลาย ซึ่งก็คือการแย่งอาหารจากต้นพืชผักของเรานั่นเอง ฉะนั้น จึงไม่แนะนำให้เอาแกลบดิบเป็น ส่วนผสมรองพืชก้นหลุม หรือผสมกับวัตถุอินทรีย์ชนิดอื่น เพื่อปลูกต้นไม้ และไม่ควรเอาขี้เถ้ารองก้นหลุม เพราะในขี้เถ้ามีความเป็นด่าง ทำให้พืชต้นแคระแกรนไม่เจริญเติบโต วิธีโน้มต้นมะละกอ มะละกอโน้มต้น เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนปลูกมะละกอ ต้นเตี้ย ดก และเก็บง่าย ลดการปะทะกับแรงลมวิธีการคือ ให้ปลูกหลุมละ 2 ต้น หลังจากคัดดอกแล้วตัดให้เหลือ 1 ต้นต่อ 1 หลุม นับจากยอดลงมาประมาณปล้องที่ 4 – 5 จากยอด ใช้เชือกฝางมัดแล้วดึงให้ต้นมะละกอเอียงประมาณ 45 องศา แล้วมัดติดกับหลักไม้ปล่อยไว้ประมาณเดือน 4 – 5 มะละกอก็จะเริ่มตั้งต้นขึ้นเองตามธรรมชาติ วิธีการคัดเลือกดอก การคัดดอก ก ะ เ ท ย (ลูกยาว) อย่างมืออาชีพ เนื่องจากหลายคนยังสับสนว่าจะดูดอกอย่างไร ระหว่างดอกตัวเมีย ลูกกลม กับดอก ก ะ เ ท ย ลูกยาว ชาวสวนมะละกอทั่วไปจะดู ต้องให้เห็นดอกชัดเจนซึ่งจะต้องเสียเวลาประมาณเดือนที่ 3-4 ถึงจะเห็นชัดเจนและมีโอกาสพลาดได้ – ซ้าย คือ ดอก ก ะ เ ท ย ลูกยาว รูปร่างคล้ายขวดน้ำปลา – ขวา คือ ดอกตัวเมีย ลูกกลม รูปร่างอวบอ้วนวงรี **ดอก ก ะ เ ท ย ลูกยาว ตลาดต้องการและราคาสูง** แต่ชาวสวนต้องดูดอก โดยการฉีกดอกออกดู ซึ่งจะพบว่าภายในกลีบดอกจะมีก้านยาวๆอยู่หลายก้านล้อมรอบ รั ง ไ ข่กลมๆอยู่ โดยปลายก้านจะมีสีเหลืองๆติดอยู่ แบบนี้จะเห็นได้เร็วภายในเดือนที่ 2 ก็เห็นดอกแล้วและสามารถคัดเลือกต้นได้แล้ว ดอกตัวเมีย ลูกกลม รูปร่างอวบอ้วนวงรี ถ้าปลูกเพื่อขายให้ตัดทิ้งได้เลย แต่ถ้าจะปลูกเพื่อไว้กินเองก็ไม่ต้องตัดดอกตัวเมีย ลูกกลม เมื่อฉีกกลีบดอกออกจะพบว่ามีลักษณะกลมอวบรี ซึ่งจะมีแต่รังไข่ ไม่มีก้านปลายสีเหลือง **ลูกกลม ตลาดไม่ต้องการ ราคาไม่ดี** วิธีทำ ส า ว มะละกอ หลายคนยังไม่ทราบว่า ในการทำสาวต้นมะละกอมีข้อดีหลายประการ อาทิ ได้ลักษณะและคุณภาพผลเหมือนต้นแม่พันธุ์เดิม ไม่ต้องปลูกมะละกอใหม่ทุกปี ช่วยให้เก็บผลผลิตได้ง่าย เนื่องจากต้นมะละกอจะเตี้ยเหมือนกับเริ่มต้นปลูกใหม่ซึ่งจะส่งผลในเรื่องการจัดการแปลง มีส่วนลดการ ร ะ บ า ด ข อ ง โ ร ค และ แ ม ล ง ได้ เกษตรกรตัดต้นมะละกอทำ ส า ว ทุกปีจะตัดวงจร โ ร ค และ แ ม ล ง ได้ที่สำคัญพบว่าต้นมะละกอที่มีการทำสาวทุกปีจะมีการติดดกเหมือนกับต้นมะละกอปลูกใหม่ซึ่งผิดกับต้นมะละกอที่ไม่เคยทำสาวเลยจะมีการออกดอกและติดผลน้อยลง สำหรับเกษตรกรที่ปลูกมะละกอในเชิงพาณิชย์หรือเพื่อขาย จะสามารถกำหนดผลผลิตด้วยวิธีการทำสาว กำหนดให้ต้นมะละกอออกผลขายได้ในช่วงฤดูแล้ง ตั้งแต่เดือนมกราคมเรื่อยมาจนถึงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งราคามะละกอดิบเพื่อใช้ส้มตำในช่วงเวลาดังกล่าวจะเฉลี่ยสูงถึงกิโลกรัมละ 8-15 บาท วิธีการ เมื่อเกษตรกรได้เก็บผลผลิตมะละกอรุ่นแรกไปแล้ว (คอแรก) ควรจะทำสาวด้วยการตัดต้นมะละกอ แล้วเลี้ยงยอดใหม่ ซึ่งหลังจากตัดต้นไปแล้วเพียง 3 เดือน ยอดใหม่ที่แตกออกมาจะเริ่มออกดอกและติดผลตรงตามสายพันธุ์เดิมและเก็บผลมะละกอดิบได้ในเดือนที่ 4 หลังจากตัดต้น เทคนิคในการทำสาวให้ตัดต้นมะละกอให้สูงจากพื้นดินประมาณ 50 เซนติเมตร แต่มีเกษตรกรหลายรายมักจะเข้าใจผิด ด้วยการเอาถุงพลาสติกมาครอบต้นส่วนที่ตัดเพื่อป้องกันไม่ให้ต้นเน่า วิธีการนี้ไม่ถูกต้อง การเอาถุงพลาสติกมาคลุมรอยแผลที่ตัดจะมีผลทำให้ลำต้นเน่ามากกว่า เนื่องจากน้ำที่ระเหยจากลำต้นจะไปเกาะติดที่พลาสติกจนขังเต็มอยู่ในลำต้น ไม่มีที่ระบายน้ำออกส่งผลให้ลำต้นเน่าในที่สุดแต่ถ้าปล่อยไว้ตามธรรมชาติถึงแม้จะมีฝนตกจนมีน้ำขัง น้ำจะแห้งหรือระเหยไปเองเพราะแผลจะโดนแดดโดยตรง แต่เกษตรกรจะต้องช่วยเจาะรูให้น้ำมีทางระบายออกจากลำต้นด้วย หลังจากตัดต้นมะละกอเพื่อทำสาวเสร็จเกษตรกรจะต้องใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น 16-16-16 หรือสูตรตัวหน้าสูง เช่น 32-10-10 และใส่ปุ๋ยคอกเก่าร่วมด้วย มีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ หลังจากนั้นจะมียอดมะละกอแตกออกมาใหม่หลายยอด ให้คัดเลือกยอดที่สมบูรณ์ที่สุดเหลือไว้เพียงยอดเดียวเท่านั้นเพื่อไม่ให้ยอดเจริญแข่งกัน กิ่งที่เราไม่ต้องการให้ทำการการตอน เพื่อนำไปปลูกเป็นมะละกอต้นเตี้ยต่อไป ข้อควรระวัง ห้ามใส่ปุ๋ยมาก หรือใส่บ่อยเกินไป เพราะจะทำให้รากและโคนเน่า ถ้าไม่เน่าก็จะทำให้ต้นมะละกออ่อนแอเกิดโรคใบหงิกได้ง่าย หรือเกิดโรคใบเหลืองและเหี่ยวแห้งได้ ซึ่งวิธีการเหล่านี้ที่นำมาให้ศึกษากัน เป็นวิธีที่จะทำให้ได้มะละกอต้นเตี้ยตามที่ท่านต้องการ การเก็บเกี่ยวมะละกอ ถ้าเก็บผลดิบสามารถเก็บได้หลังปลูกประมาณ 5-6 เดือน แต่ถ้าเก็บผลสุกหลังจากปลูกประมาณ 8-10 เดือน ถึงสามารถเก็บเกี่ยวได้ ให้เลือกเก็บเกี่ยวผลที่กำลังเริ่มสุกมีสีแต้มสีส้มปนเขียวนิดๆ ผลยังไม่นิ่ม เก็บผลขายได้ทุกสัปดาห์ ไปจน 3 ปี ต้นมะละกอจึงจะหมดอายุ ไม่สามารถให้ผลผลิตได้ ต้องตัดทิ้ง ปลูกใหม่ หากคุณสามารถทำตามขั้นตอนที่แนะนำข้างต้นได้ มันก็ไม่ยากเลยที่จะทำให้ปลูกมะละกอต้นเตี้ยออกมาได้ผลผลิตดี ลูกดกตามที่ต้องการ และเมื่อได้ผลผลิตดีแล้วก็อย่าลืมหาตลาดด้วยนะ เพราะจะเก็บไว้ทานเองทั้งหมดก็คงจะไม่ทัน มะละกอนั้นสามารถทานได้ทั้งสุกและดิบ แน่นอนว่าขายได้ทั้งสุกและดิบเช่นกัน เกษตรกรอย่าลืมทำตามกันนะ รับรองว่าจะต้องชอบกับผลลัพธ์ที่ได้อย่างแน่นอน ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สาระน่ารู้.com