Home »
Uncategories »
“นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน ขึ้นสู่ที่สูงไม่ได้” “ มิตรภาพแม้ไม่มีราคาแต่มีค่ามากกว่าสิ่งใด
“นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน ขึ้นสู่ที่สูงไม่ได้” “ มิตรภาพแม้ไม่มีราคาแต่มีค่ามากกว่าสิ่งใด
เรียกได้ว่าคำสอนนั้นมีมากมาย
วันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวพร้อมคำสอนภายในเนื้อหา ซึ่งท่านพุทธทาสภิกขุ
ได้เล่าเรื่องๆ หนึ่งที่คุณแม่ของท่านสอนตอนเป็นเด็ก เรื่องนี้มีอยู่ว่า…..
“แม่สอนให้ดูว่า ไก่ไม่มีเห็บ เพราะมันช่วยกันจิกให้กันและกัน
ลูกไก่ตัวเล็ก ยังช่วยจิกเห็บให้ลูกไก่ตัวใหญ่
เห็บมีอยู่ตามหน้าตามหงอนซึ่งจิกเองไม่ได้ไก่เลยไม่มีเห็บเพราะมันปฏิบัติหน้าที่เพื่อนต่อกันและกัน
แม้แต่ลิงก็ยังหาเหาให้กันและกัน
สุนัขยังกัดหมัดให้กันและกันตรงที่มันกัดเองไม่ได้ เราจึงต้องมีเพื่อน”
“นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน ย่อมขึ้นสู่ที่สูงไม่ได้”
เราคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน
ขึ้นสู่ที่สูงไม่ได้” ในชีวิตของมนุษย์แต่ละคนต้องมีเพื่อนที่คอยช่วยเหลือ
ส่งเสริม สนับสนุน หรือร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาก่อน
จะแยกจากกันไปตามหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละคน
เพื่อนในวัยเด็ก ดังนั้น การได้มีโอกาสมาพบปะกันจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่า
คล้ายกับการได้หยิบรูปถ่ายในอัลบั้มขึ้นมาปัดฝุ่นคิดถึงเหตุการณ์และเรื่องราวในภาพเหล่านั้น
แต่การได้มีโอกาสพบปะกันเป็นมากกว่าการดูภาพเก่าๆ โดยลำพัง
เพราะการพบปะกัน ทำให้เราได้รับรู้ความเป็นไปของกันและกัน
ในห้วงเวลาที่ห่างหายไม่เจอกัน เพื่อนบางคนไม่ได้เจอหน้ากัน ๔๔ ปี
ตั้งแต่เรียนจบชั้นประถมปีที่ ๗
“นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน ย่อมขึ้นสู่ที่สูงไม่ได้”
ดังนั้น การได้อยู่ด้วยกันแม้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ
จึงเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งใหญ่ คำว่า “เพื่อน” หรือ “มิตรภาพ” แม้ไม่มีราคา
แต่มีค่ามากกว่าสิ่งใด
ซึ่งบางครั้งไม่ต้องพูดอะไรมากเพียงแค่ได้เจอหน้ากันก็มีความสุขแล้วการได้พบปะกันจึงเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ทุกคนถวิลหา
และคิดว่าน่าจะพบกันบ่อยครั้งขึ้น กิจกรรมร่วมกันมากขึ้นเพื่อสังคม อาทิ
เพื่อนช่วยเพื่อน หรือ การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เพื่อนที่จากเราไปก่อน
ความจริงอย่างหนึ่งที่เราไม่อาจปฏิเสธได้คือ
เวลานี้แต่ละคนต่างอายุมากขึ้น เพื่อนดีๆ
ที่เข้าใจกันนั้นเริ่มมีน้อยลงและหายากขึ้นทุกที คงมีแต่ “เพื่อนเก่า”
ในวัยเด็กเท่านั้นแหละ
ที่พอจะเข้าใจและพูดจากันรู้เรื่องเป็นเหมือนกับรูปถ่าย ซึ่งเป็น
“ความทรงจำที่น่าภาคภูมิใจ”