ชื่นชม! จากคนเก็บพริกขาย สู่ปลัดหญิง มุมานะจนทำสำเร็จ!

โดยในวันนี้เราก็จะขอนำเสนออีกหนึ่งเรื่องราวที่บอกเลยว่ากำลังได้รับความนิยมชื่นชมจากโลกโซเชียลเป็นอย่างมา โดยที่ตำบลเด่นชัยอำเภอเด่นชัยจังหวัดแพร่ได้มีชาวบ้านเป็นจำนวนมากเข้ามาร่วมแสดงความยินดีให้กับนางสาว ณัชชา อินต๊ะรัตน์ ซอย 36 ปีโดยเธอนั้นกลายเป็นว่าที่ปลัดหญิงคนใหม่ของประเทศ

ซึ่งกว่าเธอนั้นจะมาประสบความสำเร็จอย่างในทุกวันนี้นั้นก็ได้ผ่านอะไรหลายๆอย่างมากมายโดยเธอนั้นหลังจากที่เรียนจบจากคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อประมาณปี 2548 ก็มีความฝันที่อยากจะเป็นฝ่ายปกครองเป็นปลัดอำเภอซึ่งเธอนั้นก็ตั้งต้นทำความฝันของเธอให้เป็นที่สำเร็จซึ่งเรื่องราวของเธอที่เราจะมาถ่ายทอดในวันนี้ก็ทำให้ใครหลายคนในงานร้องไห้โดยเฉพาะกับแม่ป้าผู้เป็นกำลังใจให้กับเธอคนนี้อยู่เสมอ

จุดเริ่มต้นของข้าราชการคนนี้นั้นก็เริ่มจากการเป็นข้อสอบปลัดอำเภอเมื่อปีประมาณ 2551 โดยเธอนั้นสามารถจำวันสอบได้เป็นอย่างดีก็คือวันที่ 17 สิงหาคม 2551 ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่ยายเสียหลังจากการสอบเสร็จเธอก็รีบนั่งรถกลับบ้านแต่ในการสอบครั้งนั้นผ่านภาคก แต่ไม่ผ่านภาคข.

ซึ่งในปีนั้นเป็นปีที่ทางกรมการปกครองได้มีการสอบทั้ง 2 ภาคในวันเดียวกันโดยข้อสอบในก็จะมีแต่อส . ซึ่งในตอนนั้นตัวเธอนั้นก็ยังไม่รู้จักว่าอสคือใครและมีความสำคัญอะไรกับภารกิจของกรมการปกครองอย่างไรทำไมถึงได้มีการออกข้อสอบเยอะมากมายขนาดนี้ และยิ่ง ไม่เคยอ่านหนังสือเลยในตอนนั้นก็ทำให้เธอนั้นสามารถสอบผ่านเข้า ไม่เคยอ่านหนังสือเลยในตอนนั้นก็ทำให้เธอนั้นสามารถสอบผ่านเข้ามส ไม่เคยอ่านหนังสือเลยในตอนนั้นก็ทำให้เธอนั้นสามารถสอบผ่านเข้าภาคก. ความล้มเหลวในครั้งนั้นจึงทำให้เธอไม่คิดจะสอบข้าราชการอีกจึงได้แต่ทำงานเอกชนเป็นฝ่ายบุคคลโรงแรมต่อไป

แต่เราก็ถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตเมื่อปีประมาณ๒๕๕๔เธอได้กลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวจะสามารถท้องได้ 7 เดือนก็มีแม่มารับกลับไปอยู่บ้านช่วยพี่สาวทำขนมจีนซึ่งเธอก็ทำอย่างนี้จนถึงวันคลอดและอยู่บ้านกับลูกอีก 2 เดือนพาลูกไปยังตราดอีก 7 เดือน

ได้ก่อนที่เธอจะได้เป็นฝ่ายบุคคลในโรงแรมนั้นเป็นช่วงหนึ่งที่เธอนั้นไม่สามารถหางานทำได้ซึ่งเธอนั้นก็ทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการเก็บพริกขายเดี๋ยวจะมีแม่ย่าปลูกพริกและให้เธอนั้น เอาพริกไปขายเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงลูกอีกทั้งยังมีการรับจ้างเก็บมังคุดเก็บเม็ดยางขายเก็บผักตามธรรมชาติไปนั่งขายตามตลาดนัด

จนวันหนึ่งได้มีโอกาสพาลูกกลับมาอยู่ที่บ้านและที่มีโอกาสสอบเข้าเป็นลูกจ้าง สย. ที่อำเภอตั้งแต่ 21 มกราคม 2556 จนถึง 12 กันยายน 2560 โดยในระหว่างนั้นลูกของเธอยังเล็กและไม่เข้าเรียนจึงจำเป็นจะต้องจ้างคนอื่นเลี้ยงลูกจนกระทั่งลูกเข้าโรงเรียนอนุบาลและจากประสบการณ์ที่การเป็นลูกจ้างก็ทำให้มีการซึมซับกับการทำงานมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งยังได้ความรู้มากมายไม่ที่ไม่สามารถหาได้จากในหนังสือที่อ่านเมื่อปีประมาณ 2558 และ 2559 จึงทำให้เธอนั้นได้มีการตระเวนสอบปลัดอำเภอไปเรื่อยๆตามความรู้ที่มีแต่สุดท้ายก็ไม่ผ่านสักที่

ซึ่งเธอก็มีความรู้สึกท้อแท้และร้องไห้นับไม่ถ้วนเพราะเวลาสอบทีก็ต้องฝากลูกไว้กับคนนู้นคนนี้ทีอีกครั้งเงินเดือนแค่ 8,000 บาทแต่ค่ารถนั้นก็มากมายเหลือเกินไหนจะต้องค่าเลี้ยงดูลูกค่าใช้จ่ายในบ้านซึ่งทำให้ท้อแต่เธอก็ไม่หยุดเพราะยังมีคนข้างหลังรออยู่หลังจากที่ปี 2559 ประกาศผลสอบปลัดอำเภอก็ยังไม่ผ่านแต่แล้วก็มีเสียงสวรรค์ที่บอกให้เธอนั้นให้ทำการเริ่มอ่านสรุปของตัวเองทีละ พ.ร.บ. จึงทำให้เธอนั้นลองอ่านในทุกๆวันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แล้วเมื่อเข้าสู่ปี 2560 ทางกรมการปกครองก็เริ่มมีการเปิดสนามสอบให้กับพนักงานราชการซึ่งเธอนั้นก็ได้มีการลงสนามระหว่างรอสนามก่อนสอบปลัดสภาพอากาศสมผลสอบกับกลายเป็นว่าเธอได้เป็นที่หนึ่งเจ้าหน้าที่ปกครองซึ่งในตอนนั้นเธอก็รู้สึกเครียดร้องไห้แต่ก็ดีใจแต่ก็คิดว่าจะทำอย่างไรพอจะต้องทิ้งลูกไปทำงานหรือแล้วจะเลี้ยงลูกอยู่กับใครเพราะในตอนนั้นแม่ของเธอนะทำงานอยู่ในกรุงเทพฯจนมีป้าของเธอตกปากรับคำที่จะดูแลลูกให้ก่อนจึงทำให้เธอนั้นมีการตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯไปทำงานทั้งน้ำตาจนกระทั่งปี 2556 เธอนั้นก็สามารถพิชิตสนามปลัดอำเภอได้เป็นที่สำเร็จ

จึงเรียกว่าการสอบนั้นเธอก็ฝ่าฟันทุกอย่างมาล้มเหลวตั้งหลายครั้งแต่สุดท้ายก็สามารถประสบความสำเร็จได้ซึ่งเธอนั้นก็ได้ทั้งกำลังใจจากคนรอบข้างเสมอไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ลูกและพี่น้องทุกคนที่คอยให้กำลังใจซึ่งทำให้เธอมีวันนี้โดยในตอนนี้เธอจะรับตำแหน่งเป็นปลัดอำเภอที่จังหวัดเชียงรายและจะต้องจัดการในเรื่องของอนาคตของลูกให้ได้เพราะเธอเป็นห่วงลูกที่สุด

อันนี้ก็คืออีกหนึ่งตัวอย่างของความพยายามความไม่ยอมแพ้ที่เธอนั้นสามารถพิชิตใจตัวเองฝ่าฟันอุปสรรคแม้จะล้มเหลวกี่ครั้งก็สามารถตอบโจทย์ทำตามความฝันได้สำเร็จ