13 วิธี ช่วยลดอาการปวดหัวได้ ไม่เชื่อลองดู

13 วิธี ช่วยลดอาการปวดหัวได้ ไม่เชื่อลองดู

อาการปวดศีรษะ หรือปวดหัว เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ อาการปวดหัวมีได้

หลากหลายรูปแบบ ทั้งปวดหัวจากความเครียดสะสม ปวดหัวแบบกะทันหัน หรือปวดหัวไมเกรน

ในขณะที่เราปวดหัว คนส่วนใหญ่มักจะคิดถึงการรักษาด้วยการรับประทาน ย า แต่ความจริงแล้ว 

ยังมีวิธีแก้อาการปวดหัวอีกหลากหลายวิธี แบบไม่ต้องพึ่งการกิน ย า ทำแล้วเห็นผลได้จริง

มีวิธีไหนบ้างที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว  มาลองดูกันเลย

 1. ดื่มน้ำเปล่า

จากการศึกษาพบว่า การขาดน้ำเรื้อรัง คือสาเหตุหลักของอาการปวดหัวจากกล้ามเนื้อเกร็ง

และปวดหัวไมเกรน ผู้ที่มีอาการปวดหัวรุนแรงส่วนใหญ่มักจะมีอาการดีขึ้นภายใน 30 นาทีถึง

2 ชั่วโมงหลังจากการดื่มน้ำ ในแต่ละวันคุณจึงดื่มน้ำเปล่า ให้เพียงพอต่อร่างกายต้องการ

หรือรับประทานอาหารที่มีน้ำเยอะ เช่น แตงโม ส้ม โยเกิร์ต เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำที่ไม่เพียงพอ

ที่ทำให้เกิดอาการปวดหัว ไม่เพียงแค่นั้นยังทำให้ไม่มีสมาธิ และหงุดหงิดได้อีกด้วย

 2. เสริมแมกนีเซียม

แมกนีเซียม คือแร่ธาตุสำคัญที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

และระบบประสาท มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่า ผู้ที่ปวดหัวไมเกรนเป็นประจำ เกิดภาวะขาดแมกนีเซียมบ่อยกว่า

ผู้ที่ไม่ได้ปวดหัว และการกินอาหารเสริมแมกนีเซียมซิเตรตวันละ 600 มิลลิกรัมสามารถลดอาการปวดหัว

ไมเกรนได้ อย่างไรก็ตาม บางคนกินอาหารเสริมแมกนีเซียมแล้วอาจเกิดผลข้างเคียง

เช่น ท้องเสีย ดังนั้นควรเริ่มจากขนาด ย า น้อยๆ ก่อน

3. จิบเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

การจิบเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ หรือชา ช่วยทำให้ตื่นตัว ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น

และจำกัดการไหลเวียนของเลือด ทำให้อาการปวดหัวของคุณดีขึ้น โดยเฉพาะอาการปวดหัว

ที่มาเป็นระลอก และอาการปวดหัวไมเกรน อย่างไรก็ตาม คุณควรบริโภคคาเฟอีนแต่พอดี

ไม่เกินบริมาณที่ควรบริโภคต่อวัน เพื่อไม่ให่ร่างกายเกิดภาวะถอนคาเฟอีน หรืออาการลงแดง

เมื่อไม่ได้รับคาเฟอีน จะทำให้คุณมีอาการปวดหัวมากกว่าเดิม

 4. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกาย โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น การเดิน การวิ่ง หรือว่ายน้ำ ามารถ

ช่วยแก้อาการปวดหัวได้ จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย เสี่ยงปวดหัวง่ายกว่าผู้ที่

ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่หลังจากการออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ

 5. ใช้น้ำมันหอมระเหย

น้ำมันหอยระเหยที่รู้จักกันแพร่หลาย และมีฤทธิ์ช่วยแก้ปวดหัวได้ เช่น

– น้ำมันลาเวนเดอร์ ช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรนและอาการร่วม

– น้ำมันเปปเปอร์มินต์ ช่วยลดอาการปวดหัวจากกล้ามเนื้อเกร็ง หรือปวดหัวจากความเครียด

– น้ำมันยูคาลิปตัส ช่วยลดอาการปวดหัวจากไซนัส

 6.ประคบเย็น

การประคบเย็น หรือประคบน้ำแข็งบริเวณลำคอ หรือศีรษะเป็นเวลา 15 นาที ช่วยลดอาการอักเสบ

ชะลอกระแสประสาทและการไหลเวียนของเลือด การวิจัยในอาสาสมัคร 28 คนพบว่า

การประสบเย็นช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้เป็นอย่างดี

7. งดอาหารที่มีฮีสตามีนสูง

ฮีสตามีน มีบทบาทในระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหาร และระบบประสาท พบได้ในอาหาร

เช่น อาหารหมักดอง เบียร์ ไวน์ ปลารมควัน เนื้อสัตว์หมักเกลือ จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่ไวต่อฮีสตามีน

หรือร่างกายไม่สามารถย่อยฮีสตามีนได้ตามปกติมีแนวโน้มปวดหัวบ่อย การงดบริโภคอาหารที่มี

ฮีสตามีนสูงจึงอาจช่วยแก้ปวดหัวสำหรับผู้ที่ปวดหัวเป็นประจำได้

 8. เพิ่มโคเอ็นไซม์ คิวเท็น

โคเอ็นไซม์ คิวเท็น (Coenzyme Q10 / CoQ10) มีหน้าที่ช่วยเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงานและช่วย

ต้านอนุมูลอิสระ การศึกษาวิจัยพบว่า อาสาสมัคร 80 คนที่กินอาหารเสริมโคเอ็นไซม์ คิวเท็นวัน

ละ 100 มิลลิกรัม ปวดหัวไมเกรนและมีอาการคลื่นไส้ซึ่งมักเกิดร่วมกับการไมเกรนน้อยลง

 9. ผ่อนคลายด้วยโยคะ

การฝึกโยคะนอกจากจะช่วยคลายเครียด และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกายแล้ว ยังอาจช่วยลดความรุนแรง

และความถี่ในการปวดหัวได้ด้วย งานวิจัยในอาสาสมัครที่มีอาการปวดหัวไมเกรนเรื้อรัง 60 คนพบว่า

กลุ่มที่รักษาด้วย ย า แผนปัจจุบันร่วมกับฝึกโยคะ มีอาการปวดหัวไมเกรนและอาการร่วมน้อยกว่า

กลุ่มที่รักษาด้วย ย า แผนปัจจุบันเพียงอย่างเดียว

10. ลองฝังเข็ม

จากการวิจัยกว่า 22 ชิ้น ซึ่งมีอาสาสมัครเข้าร่วมกว่า 4,400 คนพบว่า การฝังเข็มสามารถรักษาอาการปวด

ไมเกรนได้ดีเทียบเท่ากับการกิน ย า ทั้งยังได้ผลดีและปลอดภัยกว่า ย า กันชัก (Anticonvulsants)

ที่ใช้รักษาอาการปวดหัวไมเกรนเรื้อรังด้วย แต่การรักษาด้วยการฝังเข็ม ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

 11. ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ผลการวิจัยพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่ปวดหัวเป็นประจำ เกิดอาการไมเกรนหลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

อีกทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้บางคนปวดหัวแบบกล้ามเนื้อเกร็ง หรือปวดหัวแบบชุดๆ ได้ด้วย

นอกจากนี้ยังทำให้ปัสสาวะบ่อย เป็นเหตุให้ร่างกายสูญเสียน้ำ และอิเล็กโทรไลต์

จนนำไปสู่ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) ซึ่งทำให้อาการปวดหัวแย่ลงได้

12. นวดผ่อนคลาย

การนวดผ่อนคลายที่คอ ไหล่ และขมับ ประมาณ 2-3 นาทีสามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยบริเวณลำคอ

ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวจากกล้ามเนื้อเกร็ง หรือปวดหัวจากความเครียดได้

 13. นอนหลับให้เพียงพอ

การศึกษาวิจัยในผู้ที่ปวดหัวรุนแรงเป็นประจำชิ้นหนึ่งพบว่า อาสาสมัครที่นอนหลับวันละไม่ถึง 6 ชั่วโมง

มีอาการปวดหัวรุนแรงและบ่อยกว่าอาสาสมัครอีกกลุ่มที่นอนหลับนานกว่า แต่ทั้งนี้ คุณควรนอนหลับแต่พอดี

นั่นคือวันละ 8-10 ชั่วโมง เพราะการนอนมากไปแทนที่จะช่วยแก้ปวดหัว อาจทำให้คุณปวดหัวหนักกว่าเดิมได้

ขอขอบคุณข้อมูล : Kapook