ลูกสาวพาแม่ผู้ชราไปกินอาหารค่ำร้านหรู ถูกโต๊ะข้างๆมองดูถูก

ลูกสาวพาแม่ผู้ชราไปกินอาหารค่ำร้านหรู ถูกโต๊ะข้างๆมองดูถูก

หลายคนอาย ที่เวลาจะพาแม่ไปไหน ไม่ว่าจะออกไปข้างนอก ไปทำธุระ หรือไปเที่ยว อายที่มีแม่แก่ชรา ทำอะไรก็ช้า เป็นภาระ เราเลยมีเ รื่ อ งราวสอนใจ มาให้อ่ า นกันครับ

แต่หรูหรา มีแต่คนชั้นสูงมารับประทานอาหาร ที่มีบรรย ากาศดูขรึมขลังอลังการ

แม่ของเธอดูสูงวัยและร่วงโรย กินอาหารด้วยมือสั่นเทา จนอาหารหกตกหล่นบนเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนเป็นด ว ง ช้อนกระทบจานชาม เสียงดังจนแขกโต๊ะอื่นพากันมองอย่างสมเพช

ขณะที่ลูกสาวนั่งข้างๆ ช่วยตักอาหารและพูดกับแม่อย่างยิ้มแย้มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ดูเหมือนเธอไม่สนใจว่าใครจะมองมา

เมื่อแม่กินเสร็จ ลูกสาวซึ่งไม่ได้มีท่าทีอับอายอะไร พาแม่ไปที่อ่างล้างมือหน้าห้องน้ำ จัดแจงเช็ดรอยเปื้อนจากเศษอาหารบนเสื้อผ้าของแม่หวีผมให้ และช่วยขยับแว่นให้เข้าที่เข้าทาง

เมื่อพวกเธอเดินออกมา คนทั้งห้องมองมาเป็นตาเดียวกัน สายตาเหมือนจะบอกความหมายว่าไม่อายบ้างหรือที่มาทำรุ่มร่ามในร้านหรูอ ย่า ง นี้

ลูกสาวจ่ายค่าอาหารแล้วพาแม่เดินช้าผ่านโต๊ะอื่นไปยังทางออก

มีชายกลางคนในห มู ่แขกร้องบอกลูกสาวว่า

“สาวน้อย เธอทิ้งอะไรไว้หรือเปล่า?”

“ไม่มีอะไรนี่ค่ะ” ลูกสาวตอบ

“เธอทิ้งไว้แน่ เธอทิ้งแบบอย่างไว้ให้ลูกสาวทุกคน และ สำหรับแม่ทุกคนด้วย”

ชายกลางคนแย้ง คนทั้งร้านเงียบกริบ

“เมื่อเรายังเด็ก เราเลอะเทอะเปรอะเปื้อน และส่งเสียงดังน่ารำคาญกว่านี้หลายเท่า แม่ไม่เห็นเคยอายใคร”

การได้มีโอกาสใส่ใจดูแลพ่อแม่ที่เคยดูแลเรามา น่าภูมิใจที่สุด เห็นด้วยไหม ?

ผมว่าความกตัญญูต่อบิดามารดา ไม่ใช่เ รื่ อ งหน้าอาย จงทำดีกับท่านเยอะ ถ้าไม่ทำตอนนี้ พอตอนพวกท่านจากไป คุณจะทำอะไรให้ท่าน ก็คงไม่มีประโยชน์อีกแล้วครับ

ถ้าอ่ า นแล้วเห็นว่ามีสาระอยู่บ้างส่งต่อได้นะครับ