การ “อยู่เป็นโสด” ก็เหมือน กับ การลดเจ้ากรรมนายเวร

บางครั้งการ “อยู่เป็นโสด” ก็เหมือนกับลดเจ้ากรรมนายเวร

การขึ้นคานในบางครั้ง อาจมีความเหงา แต่ในที่สุด คุณต้องได้รู้ว่า ผู้ที่อยู่บนเส้นทางของการขึ้นคาน

จะไม่มีความเสียใจ จากทุกข์เพราะคนรัก จากทุกข์ที่เกิดจากการพ ลั ด พ ร า กจากคนรัก

ความเหงาที่แท้ทรูนั้น ไม่ได้เกิดจากขั้วบวกขั้วลบ ไม่ได้เกิดจากการที่ต้องอยู่คนเดียว

ไม่ได้เกิดจากการที่อยู่กับคนที่ทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว แต่มักเกิดจากตัวเราเองมากกว่า

ที่สร้างความสุขให้เกิดขึ้นกับคนอื่นหรือตัวเอง..ไม่เป็น

ดังนั้นคนที่ชอบลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่คนอื่น ตามกำลังของตนเอง โดยตั้งจิตไว้ก่อนว่า

อย ากทำอะไรที่ให้คนอื่นมีความสุข การให้สุขย่อมได้สุข อย่างน้อยความสุขที่เกิดขึ้นในใจเรา

ก็ทำให้ไม่มีที่ตั้งของความเหงาในใจเราได้ และผลของการให้ความสุขคนอื่นเรื่อยๆ

ก็ย่อมจะพาเราให้ไปพบกับคนที่จะให้ความสุขกับเราในวันหนึ่งเช่นกัน

คนโสดประเภทที่ขี้เหงา ชอบเรียกร้องให้คนอื่นมาเอาใจ มักดึงดูดคนที่มีความขาดเข้ามา

และเมื่อคนที่มีความรู้สึกว่าตัวเองขาด สองคนมาคบกัน แนวโน้มจึงเป็นไปในทางต่างคนต่างอย าก

ให้อีกฝ่ายเข้าใจตน นานๆ ไปก็จะรู้สึกว่ายิ่งคบยิ่งเหงา ยิ่งคุยกันมากมาย ก็รู้สึกยิ่งไม่เข้าใจกัน

ส่วนคนโสดที่มีความสุขในตนเอง มักดึงดูดคนประเภทที่พร้อมจะเกื้อกูล พร้อมจะรักษาความรักเข้ามา ถ้าได้คนที่เสมอกันด้วย

ศรัทธา ศีล ปัญญา จาคะ ก็จะยิ่งเข้าใจกัน เห็นตรงกัน เรียกว่าคุยกันนิดเดียวก็เข้าใจกัน หรืออาจรู้สึกได้ว่าแค่มองตาก็เข้าใจกันแล้ว

สิ่งสำคัญคือไม่ใช่โสดหรือไม่โสด แบบไหนดีกว่ากัน แต่อยู่ที่ว่า อยู่ในสถานะแบบไหนแล้ว มีความสุขหรือความทุกข์มากกว่ากัน

ที่มา มิตรสหาย