การรีไฟแนนซ์จุดประสงค์ของการทำรีไฟแนนซ์ คือ
ทำเพื่อให้ยอดเงินกู้นั้น้อยลง
และจะทำให้เรามียอดที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือนน้อยลง
รวมไปถึงจุดสำคัญอีกอย่างคือ อัตราดอกเบี้ยที่จะลดลง
เนื่องจากสถาบันการเงินส่วนใหญ่ จะมีการจัดโปรโมชั่น อัตราดอกเบี้ย 3ปีแรก
จึงทำให้ใน 3ปีแรกมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ
ที่มา http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=newgencondo&month=20-11-2016&group=9&gblog=1
เช่น
3ปีแรก อัตราดอกเบี้ย 4.xx% หลังจากนั้น MRR-0.25% เป็นต้น
โดย MRR จะอยู่ที่ประมาน 7%กว่าๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันการเงิน และ แต่ละช่วงเวลา
และ ยอดที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือนน้อยลง จากยอดกู้ที่ลดลง
เช่น
ตอนแรกที่กู้จากสถาบันการเงิน
ราคาประเมินทรัพย์สิน 1,000,000 บาท
ยอดกู้ (สถาบันการเงินปล่อยที่90%) 900,000 บาท
ผ่านไป 3ปี
ยอดกู้คงเหลือ 810,000 บาท
รีไฟแนนซ์กู้ยอดใหม่ 810,000 บาท
เพราะฉะนั้นยอดกู้ที่น้อยลง ก็จะทำให้ยอดที่เราต้องผ่อนชำระแต่ละเดือนก็ลดลง
จากที่ได้กล่าวมาจึงจะเห็นได้ว่า
การรีไฟแนนซ์นั้นมีประโยชน์อย่างไร
แต่ก็ไม่ได้ว่าการรีไฟแนนซ์นั้นจะดีเสมอไป อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น วมถึงค่าใช้จ่ายแอบแฝง
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
1.) ค่าจดจำนอง / ค่าอากรแสตมป์ / ค่าไถ่ถอน
2.) บางธนาคารอาจจะมีค่าปรับ หากผ่อนชำระยังไม่ถึง 3ปี
ค่าใช้จ่ายแอบแฝง
1.) ค่าทำประกันอัคคีภัย / ค่าทำประกันตัวทรัพย์สิน
2.) ค่าทำประกันชีวิต เป็นต้น
เพราะฉะนั้นถ้าเกิดรีไฟแนนซ์แล้ว อัตราดอกเบี้ยต่างกันไม่มาก
หรือไม่ต่างกัน ก็ไม่ควรที่จะทำการรีไฟแนนซ์ เพราะจะทำให้เสียเวลา
และยุ่งยากในการทำ แต่ก็มีอีกวิธีนึงคือ
เราเข้าไปขออัตราดอกเบี้ยใหม่กับทางสถาบันการเงิน
คุยกับสถาบันการเงินแล้วบางราย
สถาบันการเงินก็ออกอัตราดอกเบี้ยให้ใหม่ในอัตราที่ต่ำกว่าปกติ
ก็ทำให้เราไม่ต้องทำการรีไฟแนนซ์ไปสถาบันการเงินอื่น
ส่วนถ้าอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินอื่นต่างจากสถาบันการเงินเดิมมาก
คุ้มค่าที่จะทำการรีไฟแนนซ์ ก็เหมาะสมที่จะไปทำการรีไฟแนนซ์
ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของการรีไฟแนนซื คือ
หากเราต้องการที่จะนำเงินไปลงทุนอะไรสักอย่าง การรีไฟแนนซ์ก็ทำได้
โดยเราสามารถได้ส่วนต่างจากการรีไฟแนนซ์มา เป็นเงินทุนในการลงทุนได้
อาจจะนึกภาพไม่ออกเดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้นดังต่อไปนี้
เช่น
ตอนแรกที่กู้จากสถาบันการเงิน
ราคาประเมินทรัพย์สิน 1,000,000 บาท
ยอดกู้ (สถาบันการเงินปล่อยที่90%) 900,000 บาท
ผ่านไป 3ปี
ยอดกู้เหลือ 810,000 บาท
ราคาประเมินทรัพย์สิน(ในอีก 3ปี) 1,100,000 บาท
ยอดกู้ (สถาบันการเงินปล่อยที่90%) 990,000 บาท
นำยอดกู้ใหม่ไปจ่ายชำระกับสินเขื่อสถาบันการเงินเดิม เพราะฉะนั้นเราจะเหลือเงินมาลงทุนต่อ
990,000-810,000 = 180,000 บาท
หรือถ้าเราเทียบกับยอดกู้เดิม คือ 900,000
990,000-900,000 - 90,000 บาท เป็นต้น
จะเห็นได้เลยครับว่าการรีไฟแนนซ์นั้นมีประโยชน์มากแค่ไหน
หากใครที่ผ่อนบ้านครบ 3ปีแล้ว
ลองหาข้อมูลจากสถาบันการเงินเพื่อทำการรีไฟแนนซ์
แล้วลองเปรียบเทียบดูนะครับ จะได้ประหยัดเงินในกระเป่า เอาเงินมาออม
หรือทำประโยชน์อื่นๆได้อีกมากมายครับ
หากมีข้อเสนอแนะ หรือความคิดเห็นอะไรสามารถแจ้งทางผมได้เลยครับ ผมจะนำมาแก้ไขและปรับปรุงครับ
#คอนโดมิเนียมของคนรุ่นใหม่
ที่มา http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=newgencondo&month=20-11-2016&group=9&gblog=1