เป็นลูกค้ากันต่อไปยาว ๆ... บริษัทเจ้าของถุงยางอนามัยดูเร็กซ์ เทคโอเวอร์กิจการนมผงยักษ์ใหญ่ ขยายเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่แตกต่างกว่าเดิม
เรียกได้ว่าเป็นดีลการค้าที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เมื่อกลุ่มบริษัทเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (Reckitt Benckiser) ผู้เป็นเจ้าของสินค้าผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคหลายอย่างรวมทั้งถุงยางอนามัยชื่อดังอย่างดูเร็กซ์ บรรลุข้อตกลงมูลค่า 16,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 5.8 แสนล้านบาท) ในการซื้อกิจการบริษัท มีด จอห์นสัน นูทริชัน (Mead Johnson Nutrition) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมนมผงสำหรับเด็ก
การบรรลุข้อตกลงธุรกิจนี้ถือว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และเป็นการเดินหน้าขยายธุรกิจของเรกคิทท์
เบนคีเซอร์ กรุ๊ปขึ้นไปอีกขั้น โดยจากการรายงานของเว็บไซต์บลูมเบิร์ก
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ระบุว่า
ก่อนหน้านี้ผลประกอบการของทางบริษัทกำลังอยู่ในช่วงขาลง
เนื่องจากยอดขายสินค้าในทวีปยุโรปลดลงอย่างต่อเนื่องและการขยายกิจการไปยังประเทศบราซิลประสบปัญหาติดขัด
โดยในปี 2559 รายได้โดยรวมของทางกรุ๊ปน้อยกว่าในช่วง 5
ปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับเรื่องนี้ นายราเคช คาปูร์ ประธานกรรมการผู้บริหารของบริษัทกล่าวว่า เขาเล็งเห็นถึงการโอกาสเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ และพุ่งเป้าไปที่ทวีปเอเชียอย่างเต็มตัว ซึ่งเป็นที่ที่ตลาดนมผงสำหรับเด็กเติบโตอย่างต่อเนื่องและทำกำไรอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในประเทศจีน นโยบายลูกคนเดียวผลักดันให้ผู้หญิงออกไปทำงานมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความต้องการนมผงสำหรับเด็กเพิ่มมากขึ้น โดยนายคาปูร์คาดว่าการเติบโตของตลาดนมผงในจีนจะขยายตัวขึ้นมาก โดยน่าจะเพิ่มจาก 3 เปอร์เซ็นต์ ไปเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ ภายในช่วงครึ่งปีแรก
การซื้อกิจการนมผงจึงนับว่าเป็นความท้าทายครั้งใหม่ของเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ เลยก็ว่าได้ แต่ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่าบริษัทนี้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคหลายชนิด สินค้าที่ขายจึงไม่ได้มีแต่เฉพาะถุงยางอนามัยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และนับจากนี้ทางบริษัทจะเป็นเจ้าของสินค้าที่หลากหลายครอบคลุมมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งมีตั้งแต่ผลิตภัณฑ์คุมกำเนิด ไปจนถึงอาหารสำหรับเด็กแรกเดิดเลยทีเดียว
ภาพจาก rb.com
เรียกได้ว่าเป็นดีลการค้าที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เมื่อกลุ่มบริษัทเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (Reckitt Benckiser) ผู้เป็นเจ้าของสินค้าผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคหลายอย่างรวมทั้งถุงยางอนามัยชื่อดังอย่างดูเร็กซ์ บรรลุข้อตกลงมูลค่า 16,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 5.8 แสนล้านบาท) ในการซื้อกิจการบริษัท มีด จอห์นสัน นูทริชัน (Mead Johnson Nutrition) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมนมผงสำหรับเด็ก
สำหรับเรื่องนี้ นายราเคช คาปูร์ ประธานกรรมการผู้บริหารของบริษัทกล่าวว่า เขาเล็งเห็นถึงการโอกาสเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ และพุ่งเป้าไปที่ทวีปเอเชียอย่างเต็มตัว ซึ่งเป็นที่ที่ตลาดนมผงสำหรับเด็กเติบโตอย่างต่อเนื่องและทำกำไรอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในประเทศจีน นโยบายลูกคนเดียวผลักดันให้ผู้หญิงออกไปทำงานมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความต้องการนมผงสำหรับเด็กเพิ่มมากขึ้น โดยนายคาปูร์คาดว่าการเติบโตของตลาดนมผงในจีนจะขยายตัวขึ้นมาก โดยน่าจะเพิ่มจาก 3 เปอร์เซ็นต์ ไปเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ ภายในช่วงครึ่งปีแรก
การซื้อกิจการนมผงจึงนับว่าเป็นความท้าทายครั้งใหม่ของเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ เลยก็ว่าได้ แต่ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่าบริษัทนี้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคหลายชนิด สินค้าที่ขายจึงไม่ได้มีแต่เฉพาะถุงยางอนามัยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และนับจากนี้ทางบริษัทจะเป็นเจ้าของสินค้าที่หลากหลายครอบคลุมมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งมีตั้งแต่ผลิตภัณฑ์คุมกำเนิด ไปจนถึงอาหารสำหรับเด็กแรกเดิดเลยทีเดียว
ภาพจาก rb.com