พิธีต้อนรับ ‘หน่วยซีล’ ฮีโร่ถ้ำหลวงกลับบ้าน อย่างสมเกียรติ กำลังใจแน่นสนามบินอู่ตะเภา (ชมคลิปท้ายข่าว)
วันที่ 12 กรกฎาคม 2561 เวลาประมาณ 14.00 น. ที่สนามบินอู่ตะเภา ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้มีพิธีต้อนรับและให้กำลังใจชุดปฏิบัติการพิเศษนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือ หน่วยซีล สังกัดกองทัพเรือ ที่กลับมาจากการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าฯ จากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย
โดย พล.ร.ต. อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (ผบ.หน่วยซีล) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการหน่วยซีล 127 นาย และเจ้าหน้าที่จากกรมเวชศาสตร์ใต้น้ำ กองเวชศาสตร์ใต้น้ำและการบิน กรมแพทย์ทหารเรือ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวม 159 นาย เดินทางมาถึงสนามบินอู่ตะเภาด้วยเครื่องบินลำเลียง C-130
สำหรับในพิธี ได้มีบรรดาญาติพี่น้องของเหล่าเจ้าหน้าที่ที่ไปปฏิบัติภารกิจ รวมถึงยังมีหน่วยงานอื่น ๆ ส่งตัวแทนเข้ามามอบดอกไม้ให้กำลังใจกับ พล.ร.ต. อาภากร อยู่คงแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมปฏิบัติการเป็นจำนวนมาก โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่นของทั้งหน่วยซีลและผู้เข้ามาให้กำลังใจ
นอกจากนี้ หน่วยซีลเปิดใจ เล่าปฏิบัติการช่วย13ชีวิต ชี้ฮีโร่คือทุกคน โดยเฉพาะทีมดำน้ำมืออาชีพ เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 11 ก.ค. การแถลงข่าวปิดศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย โดยนายณรงศักดิ์ โอสถธนากร กล่าวว่า ต้องขอบคุณความร่วมมือทางเทคโนโลยีต่างๆ ต่อจากนี้เป็นขั้นตอนการส่งกลับ
โดนขณะนี้หมอดูแลน้องๆ อย่างดี ส่วนอุทยานแห่งชาติก็ต้องฟื้นฟูให้กลับเป็นสภาพป่าดังเดิม ขณะที่อุปกรณ์ต่างๆที่มาจากทั่วโลก ก็ต้องมีการคืนอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับทุกหน่วยงาน นอกจากนี้จะมีการถอดบทเรียน ซึ่งเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของโลก เพราะเป็นการกู้ภัยที่ยากมาก สื่อมวลชนระดับโลกต่างพูดตรงกันว่าการกู้ภัยที่เป็นไปไม่ได้เลย เพื่อนำไปพัฒนาวิธีการกู้ภัยในอนาคต
โดยบางส่วนที่อาจจะกระทบกับชาวนาขณะนี้ ก็กำลังได้รับการแก้ไข ส่วนเรื่องสื่อมวลชนนั้นจำเป็นต้องควบคุมพื้นที่ การที่สื่อมวลชนแข่งกับเวลา อาจทำให้รู้สึกว่าทางรัฐให้ข้อมูลช้า ทั้งนี้ ในสภาพวิกฤต เป็นตายของน้องในถ้ำ ยืนยันการตัดสินใจอะไรต้องอยู่บนความปลอดภัยของทั้ง 13 คน ยืนยันข่าวทุกข่าวที่ออกจากศูนย์อำนวยการร่วมเป็นข่าวจริง 100%
ในอนาคตทุกฝ่ายจะปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น เช่น แม้มีภาพการขับออกไปของรถกู้ภัย แต่ไม่มีการชี้แจง เพราะทางเราก็ต้องรอยืนยันความปลอดภัย ให้ส่งทุกชีวิตไปให้ถึงโรงพยาบาล “ส่วนเรื่องสื่อออนไลน์ ที่ถกเถียงว่าน้องเป็นพระเอกหรือผู้ร้าย ยืนยันเราไม่ได้มองในมุมนั้น เรามองเขาเป็นเด็กน้อย 13 คน ที่ทำไปตามวิสัยของเด็ก และเป็นเหตุสุดวิสัยที่น้ำเข้ามาจนออกไปไม่ได้
เชื่อว่าถ้าเขาโตมาเขาจะรู้ว่าคนหลายร้อยล้านคนดูเขาอยู่ เชื่อว่าถ้าโตมาจะเติบโตเป็นพลเมืองดีของประเทศ เป็นคนดี และน่าจะเป็นผู้ตอบแทนคืนสังคม เหมือนที่สังคมช่วยเหลือเขา โดยอีกไม่กี่วัน หากเขาแข็งแรง สามารถไปพบปะได้ ก็เป็นการตัดสินใจของหมอ ที่จะอนุญาตให้เข้าพบได้เมื่อไหร่ ” นายณรงศักดิ์ระบุ
ทั้งนี้ จะมีการรวบรวมข้อมูลคนที่มาช่วยเรา ถ้ำหลวงจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้เด็กและนักดำน้ำทั้งโลกมาศึกษาปฏิบัติการต่างๆ ยืนยันว่าวีรบุรุษตัวจริงคือจ่าแซม ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการ และวันนั้นทุกคนซึมเศร้า แต่ทุกคนนำความเสียสละมาเป็นพลัง มุ่งมั่นทำภารกิจให้สำเร็จ ขอขอบคุณวีรกรรมของจ่าแซม
นอกจากนี้ จากการที่บิดาของหมอชาวออสเตรเลียท่านหนึ่ง ที่มีความสำคัญในปฏิบัติการ เราขอแสดงความเสียใจ และขอเป็นกำลังใจให้หมอท่านนี้ด้วย ด้าน พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยซีล ระบุว่า ฮีโร่ไม่ใช่พวกเรา แต่หลายคนคือฮีโร่ งานนี้สำเร็จได้เพราะทุกคน โดยหน่วยซีลมีภารกิจและได้รับการฝึกลักษณะนี้ประจำ
กองทัพเรือไม่ทิ้งประชาชนคือสิ่งที่กองทัพเรือยึดมั่น เมื่อได้รับการขอจากจังหวัดเชียงรายขอกำลังมาช่วยในภารกิจ กองทัพเรือก็สั่งการโดยทันที ชุดแรกระดมพลมาด่วน ออกจากสนามบินเที่ยงคืนครึ่ง ถึงเชียงรายตีสอง ตี 4 หน่วยซีลลุยเข้าไปเลย จนถึง 3 แยก จากเดิมที่หน่วยเดิมไม่สามารถเข้าไปได้ โดยนักดำน้ำได้ดำไปจนถึงพัทยาบีช เห็นแต่ร่องรอย แม้จะดำน้ำต่อไป ก็ต้องเจอกับสภาพที่ไม่เคยเจอมาก่อน
นอกจากนั้น วันดังกล่าวฝนก็ตกหนัก ทำให้ต้องถอยร่น จนกลับมาถึงโถง 3 แม้ผมจะได้รับรายงาน แต่ก็นึกไม่ออกทำไมมันยากขนาดนั้น จนต้องบินมาดูเอง สุดท้ายจึงต้องลุยสูบน้ำออก แต่ก็สู้น้ำไม่ได้ จนต้องนำกำลังพลถอยออกมาอีก เมื่อได้เห็นความยากลำบาก จึงต้องขอกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากโถง 3 ต้องถอยออกมาที่ปากถ้ำ ความหวังเหลือนิดเดียว เพราะระดับน้ำสูง แถมเวลาก็เลยมานับอาทิตย์
คลิป