วิธีปฏิบัติหาก “ง่วง” ขณะขับรถ

ที่มา : คู่มือรู้ทันโรคและภัยสุขภาพสำหรับประชาชน โดยสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

การขับรถในขณะง่วง อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุและทำให้ผู้ขับผู้โดยสารถึงแก่ชีวิตได้ การหลับในเป็นการวูบหลับไปช่วงสั้น ๆ ส่งผลให้หมดสติไปชั่วขณะ แต่ก็นานพอที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ในขณะขับขี่

สัญญาณเตือน “อาการง่วง” ในขณะขับรถ

1. หาวบ่อยและหาวต่อเนื่อง

2. ใจลอยไม่มีสมาธิ

3. รู้สึกเหนื่อยล้า หงุดหงิด กระวนกระวาย

4. จำไม่ได้ว่าขับรถผ่านอะไรมาเมื่อสองสามกิโลเมตรที่ผ่านมา

5. รู้สึกหนักหนังตา ตาปรือ ลืมตาไม่ขึ้น มองเห็นภาพไม่ชัด

6. รู้สึกมึน หนักศีรษะ

7. ขับรถส่ายไปมาหรือออกนอกเส้นทาง

8. มองข้ามสัญญาณไฟและป้ายจราจร

ข้อควรปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยง “การง่วงในขณะขับรถ”

ก่อนเดินทางควรเตรียมตัวดังนี้

นอนหลับพักผ่อนในเวลากลางคืนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-9 ชั่วโมง
หาเพื่อนร่วมทางเพื่อพูดคุยและผลัดเปลี่ยนกันขับรถ
วางแผนการหยุดพักการขับรถทุก ๆ ระยะทาง 150 กิโลเมตร หรือทุก 2 ชั่วโมง
หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือยาที่ออกฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม
ควรงีบหลับก่อนขับรถถ้ารู้สึกอ่อนล้า
ถ้ามีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการนอน เช่น นอนหลับในตอนกลางวันบ่อย ๆ หรือนอนหลับยากในเวลากลางคืน ฯลฯ ควรปรึกษาแพทย์
ขณะขับขี่รถ เมื่อมีอาการของสัญญาณเตือนของการง่วง ควรจะ…

อย่าฝืนขับรถ

จอดรถในที่ปลอดภัย เพื่องีบหลับประมาณ 15 นาที ก่อนขับต่อ
สลับให้ผู้อื่นขับแทน
รับประทานของขบเคี้ยว หรือดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
เปิดหน้าต่างรถเพื่อถ่ายเทอากาศ ให้ลมโชยปะทะหน้า
เปิดเพลงดัง ๆ และร้องตามไปด้วย
ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือส่งสัญญาณปลุก กรณีมีอาการสัปหงก
การป้องกันสามารถทำได้ง่าย ๆ ที่สำคัญคือ การฝึกให้มีนิสัยการนอนหลับให้เหมาะสมและเพียงพอ มีการวางแผนและเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทาง และควรจำไว้เสมอว่า “ง่วงไม่ขับ จะได้กลับอย่างปลอดภัย”