Home »
ข่าว
»
ใครค้างค่าปรับ “ระวังจะโดนอายัดทะเบียนรถ” และต่อไม่ได้ เริ่ม 1 ก.ค. 62 นี้เป็นต้นไป
ใครค้างค่าปรับ “ระวังจะโดนอายัดทะเบียนรถ” และต่อไม่ได้ เริ่ม 1 ก.ค. 62 นี้เป็นต้นไป
ใครค้างค่าปรับ “ระวังจะโดนอายัดทะเบียนรถ” และต่อไม่ได้ เริ่ม 1 ก.ค. 62 นี้เป็นต้นไป
เชื่อว่ามีหลายคนมากที่ได้ใบสั่ง
ใบค่าปรับแล้วไม่ยอมไปจ่ายดอกไว้ข้ามปีแล้วคิดว่ามันคงไม่เป็นอะไร
เพราะตำรวจก็คงไม่ขยันมาตามทวงเก็บ
แน่นอนว่าไม่มีใครมาเคาะบ้านคุณเพื่อทวงค่าปรับแต่ว่ามันคือหน้าที่ของคนทำผิดนะที่จะต้องไปชะระค่าปรับให้เรียบร้อย
ถ้าคุณทำผิดก็ต้องโดนทำ โ ท ษ ตามกฎหมาย
หากทุกคนร่วมกันต่อต้านไม่ทำตามกฎหมาย บ้านเมืองมันถึงไว้วุ่นวายแบบนี้ไง
แค่กฎเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังพากันทำไม่ได้เลย
ระวังกันให้ดี
จะโดนอายัดทะเบียนต่อไม่ได้นั้นจะเป็นปัญหาในการใช้รถตามมานะ
ใครค้างก็รีบไปจัดการเพราะมีข่าวออกมาแล้วว่า 1
ก.ค.นี้ค้างจ่ายค่าปรับจราจร เตรียมโดนอายัดชำระภาษี ชั่ ว ค ร า ว
สตช.เชื่อมระบบกับขนส่งฯเรียบร้อยแล้ว
เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบก่อนบังคับใช้จริง
ตั้งแต่ต้นปีพบค้างชำระค่าปรับใบสั่งกว่า 5.3 ล้านใบ
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายสราวุธ ทรงศิวิไล
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)
เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการติดตามและแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดยมีพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนคบาล(รองผบช.น.)
ดูแลงานจราจร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)
กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) กรมทางหลวง
(ทล.)และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า
ในที่ประชุมได้มีการติดตามความคืบหน้าในการเชื่อมระบบอายัดการชำระภาษีประจำ
ชั่ ว ค ร า ว
ในกรณีที่ประชาชนยังมีการค้างชำระค่าปรับในข้อหาที่กระทำความเกี่ยวกับกฎหมายจราจร
โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)
และกรมการขนส่งทางบกได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า
ขณะนี้ระบบได้ทำการเชื่อมต่อกันเสร็จแล้วแต่ยังมีบางกรณีที่ต้องหารือกันระหว่างสองหน่วยงาน
ดังนั้นจากการประชุมล่าสุดเมื่อเดือนเม.ย.62 ที่ผ่านมา
จึงตกลงกันว่าจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลแบบระบบออฟไลน์ก่อนเพื่อดำเนินการอายัดการชำรถภาษีเป็นการ
ชั่ ว ค ร า ว สำหรับผู้ที่ยังมีใบสั่งค้างจ่าย โดยนายสราวุธ ทรงศิวิไร
ผอ.สนข.
ได้สั่งการในที่ประชุมว่าให้สตช.และขบ.ดำเนินการในขั้นตอนต่างๆให้เสร็จสิ้นและให้เริ่มดำเนินการอายัดการชำระภาษี
ชั่ ว ค ร า ว ตั้งแต่วันที่ 1ก.ค. 62 นี้เป็นต้นไป
และให้เริ่มดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบก่อนล่วงหน้าในเดือน
มิ.ย.นี้
ตลอดทั้งเดือนว่าเจ้าหน้าที่สามารถตรวจเช็คการค้างชำระค่าปรับจะเริ่มใช้ระบบการอายัดชำระภาษี
สำหรับกรณีที่ค้างจ่ายค่าปรับ
รวมทั้งหากประชาชนมีความประสงค์จะจ่ายค่าปรับที่สำนักงานขนส่งฯ
ก็สามารถดำเนินการได้เช่นกันเพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันก่อนที่บังคับใช้วันวันที่
1 ก.ค.นี้
ด้านพ.ต.อ.เอกราช ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง
(ในฐานะคณะทำงานแก้ไขกฎหมายจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) กล่าวว่า
สำหรับการเชื่อมต่อระบบแบบออฟไลน์นั้นจะดำเนินการดังนี้
เมื่อเจ้าหน้าที่ขนส่งทางบกรับชำระค่าปรับกับผู้ที่มีใบสั่งค้างจ่ายแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว
จะเก็บข้อมูลเป็นรายสัปดาห์
ก่อนที่จะนำส่งแก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)พร้อมเงินค่าปรับ
ซึ่งการทำงานจะไม่ใช้แบบเรียลไทม์เหมือนระบบออนไลน์
ด้านการปฏิเสธใบสั่งในกรณีที่ประชาชนเห็นว่าตนเองไม่ได้กระทำความผิดนั้น
ทาง สตช.
จะทำแบบฟอร์มและนำไปวางที่กรมขนส่งฯทั่งประเทศเพื่อให้ประชาชนได้ดำเนินการเขียนคำร้องและส่งไปรษณีย์แบบตอบกลับไปยังสถานีตำรวจที่ออกใบสั่งตามที่กฎหมายพร้อมทั้งทำการแนบหลักฐาน
อาทิเช่น สำเนาใบสั่ง รูปถ่ายรถ และเล่มทะเบียนเพื่อยืนยันความบริสุทธิ
และให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องภายใน 15
วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทะเบียน
ซึ่งในส่วนนี้อาจจะมีการสวมป้ายทะเบียนก็สามารถนำหลักฐานมาชี้แจงได้
โดยกรณีต้องการตรวจสอบว่าตนเองไม่ได้ขับขี่ผิดกฎหมายตามใบสั่งนี้
ประชาชนสามารถชำระภาษีประจำปีไปก่อน โดยทางเจ้าหน้าที่ของกรมขนส่งฯ
จะออกสำเนาเอกสารสำหรับการใช้แทนป้ายวงกลมเป็นการ ชั่ ว ค ร า ว 30
วันหลัง
จากนั้นเมื่อไปตรวจสอบและทำการชำระค่าปรับที่โรงพักที่ออกใบสั่งแล้ว
ก็ให้นำหลักฐานการชำระค่าปรับกลับมาขอรับป้ายภาษีตัวจริงอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังได้มีการหารือถึงการเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลใบสั่งค้างจ่ายได้ก่อนที่จะเดินทางมาชำระต่อภาษีประจำปีซึ่งในขณะนี้สตช.และธนาคารกรุงไทยอยู่ระหว่างการจัดทำเว็ปไซต์เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นได้ก่อนซึ่งจะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่
1 ก.ค.นี้เช่นกัน รายงานข่าวแจ้งว่า
จากข้อมูลสถิติการออกใบสั่งของเจ้าหน้าาที่ตำรวจทั้งประเทศ
ตั้งแต่ 1 ม.ค. 62 จนถึงปัจจุบันมีการออกใบสั่งจราจรรวม 6,259,727 ใบ
เป็นใบสั่งที่จัดส่งทางไปรษณีย์ หรือจับโดยกล้อง รวม 5,386,986 ใบ
ใบสั่งที่เจ้าหน้าที่เขียน 872,741 ใบ โดยมีผู้มาชำระค่าปรับทั้งหมดเพียง
887,392 ราย คิดเป็นร้อยละ 16.52 เท่านั้น ยังไม่มาชำระค่าปรับจราจรอีกกว่า
5,372,335 ราย โดยแบ่งเป็นค้างค่าปรับใบสั่งที่จัดส่งทางไปรษณีย์
4,557,986 ใบ และใบสั่งที่เจ้าหน้าที่เขียน 814,349 ใบ
ทุกคนจะต้องทำตามกฎหมายนอกจากภาษีบำรุงประเทศแล้วก็มีค่าปรับต่าง ๆ
นี่แหละที่ประชาชนหลายคนไม่อยากจะไปจ่ายกัน
เพราะมองว่าเงินมันอาจจะไม่ได้เข้าระบบโดยแท้จริง
แต่ถึงแม้เราจะตรวจสอบไม่ได้ว่า เงินทุกบาทไปไหน
แต่สิ่งที่ต้องตระหนักคือคุณทำผิดนะ ทำผิดโดนปรับก็ต้องไปจ่าย
ถ้าไม่ผิดแล้วใครจะไปจับ
และถ้าจะอ้างว่ากลัวเป็นด่านปลอมก็ให้รับใบสั่งนั้นไปจ่ายที่โรงพักได้
สบายใจกว่ากันเยอะ
และถ้าไม่ไปจ่ายต่อทะเบียนรถไม่ได้ปัญหาที่ตามมาในการใช้รถของคุณจะเป็นอย่างไรก็เตรียมรับมือกันได้เลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : dailynews