รื้อไร่มันสำปะหลัง หันมา “ปลูกมันหวาน” ทำรายได้เดือนละ 2 แสน

สำหรับอาชีพชาวเกษตรกรนั้น ย่อมมีราคาของพืชผักที่ขึ้นๆลงๆเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน และในช่วงหลังๆที่ผ่านมานั้นราคาของมันสำปะหลังในประเทศของเรานั้นมีราคาที่ตกต่ำมาหลายปี ส่งผลทำให้เกษตรกรในจังหวัดพื้นที่นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่แหล่งใหญ่ที่สุดในประเทศจำนวนมาก จึงต้องทำให้เปลี่ยนการเพาะปลูกจึงได้หันมาปลูกพืชผักชนิดอื่น เพื่อเป็นการเลี่ยงภาวะการขาดทุนในการทำอาชีพของตน

ประคับประคองครอบครัวหาเงินใช้หนี้สินที่กู้ยืมมา โดย นายวิวัฒน์ ศรีกระสังข์ อายุ 32 ปี เกษตรกรบ้านประชาสันต์ หมู่ที่ 10 ต.เสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ตัดสินใจรื้อไร่มันสำปะหลังของตนเองที่มีอยู่เกือบ 50 ไร่ หันไปปลูกมันเทศแทนมันสำปะหลัง

เนื่องจากมองเห็นว่ามีราคาที่ดีกว่ามันสำปะหลังอีกทั้งยังใช้ระยะเวลาในการเพาะปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวเพียงแค่ 4 เดือน

ในขณะที่มันสำปะหลังต้องใช้ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวครั้งเดียวต่อปี แต่ยังต้องมาประสบกับปัญหาราคาที่ไม่แน่นอนจึงหันมาทดลองปลูกมันหวานสายพันธุ์ต่างประเทศ

ซึ่งกำลังเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดและมีราคาสูงกว่ามันเทศธรรมดาหลาย 10 เท่าตัว พร้อมทั้งหาตลาดด้วยตัวเองและใช้โอกาสจากการที่เข้าร่วมโครงการต่างๆของรัฐ

เพื่อเป็นการพัฒนาต่อยอดจนทุกวันนี้สามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายมันหวานได้เดือนละกว่า 2 แสนบาท

นายวิวัฒน์ กล่าวว่า มันหวานสายพันธุ์ต่างประเทศนั้นมีหลากหลายชนิด ทั้งพันธุ์สีส้ม เบนิฮารุกะ โอกินาว่า สายน้ำผึ้งอินโด และฮาวาย ราคาก็จะมีเริ่มต้นตั้งแค่กิโลกรัมละ 60 บาทไปจนถึง 350 บาทเลยทีเดียว

โดยพันธุ์ที่มีราคาสูงสุดคือ สายพันธุ์ฮาวายกิโลกรัมละ 350 บาท ขณะที่มันเทศธรรมดาราคาขณะนี้จะอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 6 – 10 บาท แต่ราคานี้ก็ถือว่าดีกว่ามันสำปะหลังที่ราคาตกอยู่เพียงกิโลกรัมละหนึ่งบาทเศษเท่านั้น

นายวิวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในขณะนี้กระแสมันหวานกำลังมาแรงเป็นที่นิยมชื่นชอบในหมู่ลูกค้าผู้ที่รักในสุขภาพจะนิยมรับประทานมากเป็นพิเศษ

อีกทั้งรสชาติที่หวานหอมจึงทำให้เริ่มมีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งขณะนี้ตนเองกำลังอยู่ในระหว่างการรวมกลุ่มผู้ผลิต และเจรจากับทางตลาดระดับบน คือในส่วนของห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อต่อยอดการตลาดให้มากยิ่งขึ้นด้วย

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เกษตรไทไอดอล , khaosod