เพาะเลี้ยงปลาสเตอร์เจียน ได้เป็นไข่ปลาล้ำค่า “คาเวียร์” ขายกิโลกรัมละ 50,000 บาท

ปลาสเตอร์เจียน มีถิ่นกำเนิดทางซีกโลกเหนือ อาศัยอยู่ในทะเลสาบ หรือตามปากแม่น้ำ มีลักษณะทั่วไปคล้ายกับปลาฉลาม เป็นปลาน้ำจืด มีหนามแหลมเล็กๆ บริเวณหลัง หัว และบริเวณเส้นลำตัวไว้สำหรับป้องกันตัว มีหนวดด้านหน้าที่ปลายจมูก เป็นปลาไม่มีเกร็ดและไม่มีฟันเหมือนฉลาม ชอบหาอาหารตามพื้นน้ำ เป็นปลาที่ใกล้สูญพันธุ์ แต่ปัจจุบันสามารถนำมาเพาะเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์ได้

ในบ้านเราได้มีการทดลองเลี้ยงปลาชนิด ในโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ในพื้นที่ บ้านนามน หฆู่ที่ 7 (ดอยดำ) ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่

โดยในปี พ.ศ. 2548 สิริกิติ์ พระบรมนาถ ในที่ 9 ได้ทรงมีพระราชดำริให้กรมประมง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการหาแนวทางพัฒนาการเลี้ยงปลาสเตอร์เจียนบนพื้นที่สูง เพื่อเป็นการช่วยให้ประชาชนและชาวเขาเผ่าต่างๆ ได้มีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้

สำหรับในเรื่อง คุณสมพร กันธิยะวงศ์ นักวิชาการประมงปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด เขต 1 (เชียงใหม่) ได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโครงการว่า สิริกิติ์ พระบรมนาถ ในที่ 9 มีพระราชเสาวนีย์ให้กรมประมงหาพันธุ์ปลาที่สามารถเลี้ยงได้บนดอย หรือในที่มีอากาศหนาวเย็uมาเพาะเลี้ยง เพื่อสร้างอาชีพ สร้างช่องทางทำมาหากินให้กับชาวเขาเผ่าต่างๆ ซึ่งปกติทั่วไป บนพื้นที่ที่มีอากาศหนาวจะไม่ค่อยมีใครเลี้ยงปลา เนื่องจากน้ำเย็น ทางเราจึงได้ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อหาพันธุ์ปลาที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศอันหนาวเย็นของที่นี่ ปลาสเตอร์เจียน เป็นปลาที่เหมาะสม และตอบโจทย์มากฝุดฝุด เพราะเป็นปลาที่ชื่นชอบน้ำเย็น จึงถือโอกาสนำเข้าจาก 2 ประเทศ คือประเทศเยอรมนี และรัสเซีย เป็นสายพันธุ์ สเตอร์เจียนไซบีเรีย

การเพาะพันธุ์ปลาสเตอร์เจียน

ปลาสเตอร์เจียน ในบ้านเรายังไม่มีการเลี้ยงมากนัก เพราะยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ จะมีก็แต่ในโครงการของหลวง เนื่องจากข้อจำกัดของสภาพภูมิอากาศ และอุณหภูมิน้ำที่ใช้เลี้ยง หรือก็คือถ้าไม่ได้มีบ้านอยู่บนเขาบนดอยก็หมดสิทธิ์เลี้ยงในการเลี้ยง ด้วยข้อจำกัดเอง ทำให้หลายคuมีความรู้สึกว่าเป็นหลาที่เลี้ยงeๅก และยังเป็นปลาสายพันธุ์จากต่างประเทศ แต่ในความเป็นจริง การเลี้ยงปลาสเตอร์เจียนไม่ใช่เรื่องeๅกeๅก แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงนานถึง 8 ปี ปลาถึงจะมีไข่ ที่เรียกกันว่า ไข่ปลาคาเวียร์ ซึ่งปลาจะเริ่มการเพาะพันธุ์ในช่วงปลายฤดูหนาวก่อนถึงฤดูร้อน ประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือuมีนาคม จะเป็นช่วงเพาะพันธุ์ที่เหมาะฝุดฝุด การเพาะพันธุ์จะใช้วิธีการฉีดกระตุ้นฮอร์โมน ด้วยการผสมเทียม

 

วิธีในการเลี้ยงปลาสเตอร์เจียน

สำหรับวิธีการเลี้ยงไม่ยุ่งeๅก เพราะเป็นปลาที่ไม่มีโ ร ค มีสิ่งที่ต้องระวังเพียงอย่างเดียว คือ อุณหภูมิของน้ำที่ต้องเย็น น้ำที่ใช้เลี้ยงควรมีอุณหภูมิอยู่ที่ 12-20 องศาเซลเซียส ถ้าอุณหภูมิสูงจะทำให้ปลาเครียดและไม่ยอมกินอาหาร เพราะปลาสเตอรืเจียนเป็นปลาเมืองหนาว สำหรับอาหารจะใช้เป็นอาหารเม็ดลอยน้ำ โปรຕีน 45 เปอร์เซ็นต์ ราคากิโลกรัมละ 50 บาท ให้เพียง 2-3 เปอร์เซ็นต์ ของน้ำหนักปลา ให้อาหารวันละ 1 ครั้ง

ทางศูนย์มีบ่อเลี้ยงจำนวน 10 บ่อ เป็นบ่อปูนซีเมนต์ ที่มีขนาด 120 ตารางเมตร มีปลาในบ่อ 1,000 ตัว ใช้วิธีเบี่ยงน้ำจากลำห้วยเข้าบ่อ

ในเรื่องของความสะอาดเป็นอีกสิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หมั่นทำความสะอาดบ่อเลี้ยงบ่อยๆ ไล่น้ำออก ถอดท่อ เพื่อระบายน้ำบางส่วนออกแล้วเติมน้ำใหม่เข้ามา

ระบบน้ำ เป็นแบบระบบธรรมชาติ ใช้น้ำจากความเย็นบนพื้นที่สูง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จะให้ความเย็นต้องเป็นเขตป่า เขตอุทeๅนฯ เท่านั้น เอกชนโดยทั่วไปไม่สามารถทำได้

ระยะเวลาในการเลี้ยง ใช้เวลา 8 ปี จึงจะสมบูรณ์พันธุ์ มีไข่ ทำคาเวียร์ได้ เพาะพันธุ์ต่อได้ แต่ใน 1 รุ่น ไม่ได้มีไข่ออกในระยะ 8 ปี เท่ากันทุกตัว บางตัวใช้เวลา 9 ปี ปะปนกันไป

กระบวนการแปรรูปและการตลาด

การแปรรูปไข่ปลาคาเวียร์ ทางศูนย์มีกระบวนการแปรรูปเอง โดยการนำไข่ปลาผสมกับเกลือ

เกลือที่ใช้เป็นดอกเกลือแกงคุณภาพสูง จากฟาร์มทะเลตัวอย่าง อันเนื่องมาจากพระราชดำริเพชรบุรี จำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ ศิลปาชีพ อีกส่วนรับผลิตตามออเดอร์ลูกค้า เนื่องจากไข่ปลาคาเวียร์ยังใหม่สำหรับคนไทย บางส่วนยังไม่เชื่อมั่นกับรสชาติไข่ที่ผลิตในประเทศไทย

ยังติดรับประทานของนอกอยู่ ลูกค้าของเราส่วนใหญ่เป็นโรงแรม นำไปรังสรรค์เมนูและใช้ประດัUอาหารราคาแพง และมีความเชื่อว่าไข่ปลาคาเวียร์เป็นอาหารของชนชั้นสูง บ่งบอกถึงฐานะ บางตำราเล่าว่าผู้ดีมีเงิuมักนำไข่ปลาคาเวียร์ให้ลูกน้อยรับประทานตอนไม่สบาย เพราะถือว่าเป็นของดีสุดยอดอาหาร คุณสมพร กล่าว

น้ำหนัก-การให้ไข่…ปลา 1 ตัว ให้ใข่ประมาณ 10-15 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว อย่างเช่น ปลาอายุ 8 ปี มีน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ให้ไข่ 1-1.5 กิโลกรัม

มีไข่ออกขายจริงๆ คือ ช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือนเมษายนของทุกปี ในราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 50,000 บาท

แนะนำสำหรับเกษตรกรที่สนใจอeๅกเลี้ยง

คุณสมพร บอกว่า การเพาะเลี้ยงปลาสเตอร์เจียนนับเป็นอาชีพใหม่ที่น่าสนใจ เพราะในประเทศไทยยังมีคนที่มีฐานะอีกมาก คนรวยก็ยังนิยมรับประทาน แต่สิ่งที่ต้องคำนึงคือ การลงทุนที่มากพอสมควร ทั้งในเรื่องของพื้นที่ และอีกสิ่งที่ต้องคำนึงคือ การตลาด ถ้าภาคเอกชน หรือเกษตรกรท่านใดสนใจอeๅกเลี้ยง คือต้องมีลู่ทางการตลาด ไข่ปลาคาเวียร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูง ต้องหาช่องทางขายสินค้าให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายให้ได้ ถ้าไม่มีการตลาดก็จบ เพราะในการเลี้ยงต้องใช้เงินทุนสูง มีระบบน้ำที่ควบคุมอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ส่วนความรู้นั้นคุณสมพรบอกไม่eๅกเลย หมั่นศึกษาหาความรู้ หรือเข้ามาเรียนรู้งานที่ศูนย์ได้ แต่หากท่าuมีตลาดแล้วก็ไม่eๅก ที่ผ่าuมาประเทศไทยจะใช้คาเวียร์ รับประทานคาเวียร์ที่สั่งจากต่างประเทศ มีส่วนน้อยมากที่รู้จักคาเวียร์ที่ผลิตในประเทศไทย ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี และถ้าคนไทยหัuมาซื้อของไทย จะได้ถูกกว่า และได้ช่วยเหลือคนไทยด้วยกันให้มีอาชีพที่ยั่งยืน

สำหรับเกษตรกรที่สนใจอeๅกเพาะเลี้ยงปลาสเตอร์เจียน หรือศึกษาเป็นความรู้ เชิญปรึกษาหรือเยี่ยมชมงานได้ที่ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริดอยดำ อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ โทร. (081) 724-4516

ขอบคุณที่มา : https://bit.ly/2Ic4CPy