วัดแห่งนี้ไม่รับบริจาค พระสงฆ์อยู่ด้วยความพอเพียง เก็บเงินไว้เลี้ยงดูครอบครัวได้บุญเหมือนกัน

โดยในวันนี้เราจะพาทุกคนนั้นไปพบกับ พระอาจารย์ปรีดา ฉนฺทกโร หรือ หลวงปู่ทุย เจ้าสำนักวัดป่าดานวิเวก หรือวัดดงศรีชมภู จังหวัดบึงกาฬ ผู้ที่เป็นพระสงฆ์อยู่ด้วยความพอเพียงและไม่รับการบริจาคอย่างไรโดยสาเหตุนั้นจะเป็นอย่างไรเราลองมาดูกันเลยดีกว่า

โดยแต่เริ่มนั้นสำหรับ หลวงปู่ทุย นั้นท่านเป็นคนที่รักธรรมชาติและหลังจากที่ได้ฝึกกรรมฐานจนสำเร็จ หลวงปู่ขาวจึงได้แนะนำให้ท่านธุดงควัตรมาที่ดงสีชมภูเมื่อปี 2509 หลังจากที่อยู่ที่นี่ได้ 2 ปี ก็ได้ตั้งเป็นวัดป่าดานวิเวกขึ้นในปี 2511 โดยท่านมักจะคอยสอนเทศบอกชาวบ้านว่าอย่าเอาไฟฟ้าเข้าวัดเพราะจะทำให้พระจะต้องมีค่าใช้จ่ายซึ่งพระไม่มีรายได้ฉะนั้นอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าจะดีกว่าและก็คอยตักเตือนว่า โยมมาที่วัดขออย่าทำเสียงดังเพราะมาอยู่ว่าจะต้องเงียบสงบและทำสมาธิฝึกจิตจะได้บุญมากกว่ามานั่งกราบพระ

โดยถ้าหากใครที่ได้เคยพูดคุยกับท่านหรือสนทนาธรรมกับท่านก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าท่านเป็นพระที่สำคัญเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าท่านจะมีความเจ้าระเบียบแต่ก็ยังอยู่ในพระธรรมวินัยเป็นอย่างมากจึงทำให้มีพระเณรหลากหลายอยากจะมาศึกษาพระธรรมกับท่านเพราะชอบใจในข้อวัตรปฏิบัติที่หลวงปู่ได้วางเอาไว้ซึ่งทุกอย่างนั้นทำเพื่อมุ่งสู่ธรรมจริงๆ

ซึ่งหลวงปู่ท่านก็เคยได้บอกกับญาติโยมอีกว่า “โยมไม่ต้องมาบริจาคเงินให้วัด โยมเอาเงินไปดูแลพ่อแม่ได้บุญมากกว่าเอามาให้วัด เรื่องเงินน่ะไม่สำคัญฆราวาสมีศีล 5 เท่านั้นพอ” วัดจะไม่ใช้ไฟฟ้าและระบบน้ำประปา พระและเณรจะช่วยกันไปตักน้ำมาใส่โอ่งสำหรับไว้ใช้ เมื่อไม่มีไฟฟ้าและประปา จึงไม่จำเป็นเลยที่ญาติโยมจะต้องมาบริจาคเงินเข้าวัด เพราะในปัจจุบันเงินทองสำคัญจนทำให้คนลืมว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร บางวัดมุ่งเทศนาชวนเชื่อแต่เรื่องการบริจาคเงิน จนลืมความสำคัญของคำสอน แต่สำหรับหลวงปู่แล้วยังคงเป็นพระธรรมดา และเป็นที่เลื่อมใสของชาวพุทธอยู่เสมอ

เรียกว่าท่านนั้นเป็นพระที่สามารถสระและน่าเคารพนับถือเป็นอย่างมากเข้าสู่พระธรรมอย่างแท้จริงเป็นผู้ที่ตัดกิเลสได้อย่างแท้จริง ที่หาได้ยากในปัจจุบัน น่านับถือเป็นอย่างยิ่ง สาธุ สาธุ สาธุ