Home »
ข้อคิด
»
อย่าเลี้ยงลูกให้ “เรียนอย่างเดียว” แต่ควรสอนให้ลูก “รู้จักหน้าที่” ด้วย
อย่าเลี้ยงลูกให้ “เรียนอย่างเดียว” แต่ควรสอนให้ลูก “รู้จักหน้าที่” ด้วย
การเลี้ยงลูกนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับพ่อแม่มือใหม่
สมัยนี้คู่แต่งงานหลายคู่พอแต่งงานแล้วก็ตัดสินใจมีลูกแค่คนเดียว
เพราะอยากทุ่มเททุกอย่างให้ลูกอย่างเต็มที่ ด้วยปัญหาเศรษฐกิจ
และต้องการอยากเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด จึง พ ย า ย า ม
ทำทุกอย่างเพื่อให้ลุกได้เรียนในที่ดีๆ และมีผลการเรียนมาให้พ่อแม่ชื่นชม
แต่หารู้ไม่ว่า
นอกเหนือจากการเรียนที่สำคัญต่อลูกแล้ว การสอนให้เค้ารู้จักหน้าที่
ก็จัดว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่มีส่วนช่วยพัฒนาไอคิวและอีคิว
ให้ลูกนั้นเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ
มาดูคำแนะนำสำหรับใครที่ต้องการเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดกันดีกว่า กับ 6
เทคนิคเลี้ยงลูกที่ง่ายที่สุด ต่อไปนี้
1.ฝึกลูกให้อยู่ได้ด้วยตัวเอง
ในเมื่อลูกไม่มีพี่น้องไว้คอยช่วยเหลือในอนาคต
เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะต้องฝึกให้เขารู้จักรับผิดชอบ
และช่วยเหลือตัวเองได้เมื่อโตขึ้น
ซึ่งทำได้โดยการให้เขาเรียนรู้จากความผิดพลาด
พ่อแม่ไม่ต้องลงไปช่วยในทุกกรณี
หรือจะลงไปช่วยก็ต่อเมื่อลูกขอความช่วยเหลือ
2.สอนลูกให้ประหยัด อย่าสปอยล์ลูก
การที่พ่อแม่ซื้อของเล่นให้บ่อยๆ
ตามที่ลูกเรียกร้อง
อาจทำให้ลูกน้อยที่น่ารักของคุณกลายเป็นเด็กที่ไม่รู้จักพอ
อยากได้ของเล่นใหม่ๆ ตลอดเวลา
จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะต้องระวังไม่ให้ความรัก
ความทุ่มเทของตนเองกลายเป็นการสปอยด์ลูกให้เสียคนในที่สุด
3.ไม่จับผิดลูก
ในบ้านที่มีกัน
3 คนพ่อแม่ลูก หากพ่อแม่ร่วมมือร่วมใจกันจับผิดลูก
เด็กน้อยคงรู้สึกหัวเดียวกระเทียมลีบ
ในกรณีนี้พ่อแม่ต้องใจกว้างพอที่จะยอมรับว่า ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นได้
และเป็นสิ่งที่ลูกต้องเรียนรู้
อย่าทำให้ลูกรู้สึกเหมือนพ่อแม่รวมหัวกันกลั่นแกล้งเขาเลย
หากพ่อแม่ต้องการวางกฎเกณฑ์ต่างๆ ก็ควรทำด้วยความรักและความเข้าใจในตัวลูก
เพราะในท้ายที่สุดแล้ว สิ่งเหล่านี้จะไปทำ ล า ย
ความมั่นใจในตัวลูกของคุณในที่สุด
4.สอนลูกให้รับผิดชอบ
ถึงแม้จะเป็นลูกคนเดียว
แต่พ่อแม่ก็ไม่ควรเอาใจจนลูกทำอะไรเองไม่ได้
เมื่อถึงวัยที่เหมาะสมก็ควรสอนให้ลูกรู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ตัวเอง
มอบหมายงานบ้านให้รับผิดชอบ เพื่อให้ลูกเรียนรู้การช่วย ความมีน้ำใจ
และความรับผิดชอบ
5.สอนลูกให้รู้จักวางตัว
เด็กน้อยที่เป็นลูกคนเดียวของครอบครัวมีโอกาสที่จะกลายร่างเป็นจอมบงการสูง
นั่นทำให้เขากลายเป็นเด็กที่พร้อมจะก้าวล่วงเข้ามาในเรื่องส่วนตัวของพ่อแม่
หรือผู้ใหญ่คนอื่นๆ หากนิสัยนี้ติดตัวไปในอนาคต
อาจทำให้เขากลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่น่าคบได้พ่อแม่จำเป็นต้องขีดเส้นแบ่งให้ลูกได้รู้ว่า
จุดใดที่ลูกไม่ควรก้าวเข้าไปยุ่มย่ามในชีวิตของคนอื่น
การที่เด็กได้เรียนรู้ถึงเส้นแบ่งเหล่านี้จะทำให้เขาเข้าใจว่าชีวิตของคนอื่นๆ
ก็มีเขตที่เขาต้องให้ความเคารพด้วยเช่นกัน
6.ให้ลูกได้พบปะกับเด็กคนอื่นๆ
เพราะไม่มีพี่น้องให้ได้เล่นด้วย
จึงอาจทำให้เด็กๆ ขาดเพื่อนวัยเดียวกัน ดังนั้นในช่วงก่อนเข้าเรียน
อาจจะต้องพาลูกไปรู้จักเรียนรู้เจอกับเด็กๆ
ในวัยเดียวกันบ้างเพื่อให้ลูกได้ปรับตัวเข้ากับสังคมได้ เช่น
อาจจะพาไปเล่นที่สนามเด็กเล่น พาไปพบปะเพื่อนๆ ที่มีลูกวัยเดียวกับเรา
หรือไปรวมญาติในงานเทศกาลต่างๆ
แล้วเมื่อพอโตเข้าโรงเรียนก็จะทำให้เขาปรับตัวได้ดีขึ้น และไม่ต้องห่วง
เพราะว่าเขาจะมีเพื่อนๆ มากขึ้นเองตามวัย
ขอบคุณข้อมูลจาก : รักจังสยาม