Home »
สุขภาพ
»
ไม่อยากหัวล้าน ต้องรู้!! 7 พฤติกรรมที่ทำให้ผมร่วงมากขึ้น หลายคนไม่รู้ตัว
ไม่อยากหัวล้าน ต้องรู้!! 7 พฤติกรรมที่ทำให้ผมร่วงมากขึ้น หลายคนไม่รู้ตัว
ผมร่วง เกิดขึ้นกับทุกคน
ซึ่งทั้งนี้อาจเกิดขึ้นจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือการใช้ยา
ซึ่งโดยปกติแล้ว เราจะผมร่วง 100 เส้นต่อวัน นอกจากนี้แล้วพฤติกรรมอื่น ๆ
ในชีงิตประจำวันอาจจะส่งผลให้ ผมร่วงมากขึ้น จะมีอะไรนั้นไปดูกันเลยค่ะ
1.อย่าสระผมโดยตรง
หนังศรีษะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเส้นผมอย่างมาก
ก่อนสระผมให้ใช้แปรงหวีผมที่เปียก
ให้สิ่งสกปรกและฝุ่นละอองต่างๆลอยขึ้นมาและในขณะเดียวกัน
ให้ล้างหนังศรีษะและเส้นผมไปด้วย
2.ล้างครีมนวดไม่หมด
หลายคนเชื่อว่าการชโลมครีมนวดลงบนผมและล้างออกไม่หมดจะช่วยให้ครีมนวดเคลือบเส้นผมเอาไว้
ในความเป็นจริงครีมนวดผมที่เหลืออยู่จะทำให้ฝุ่นเกาะได้อย่างง่ายดายเพราะเส้นผมเหนียว
และยังทำให้รูขุมขนบนหนังศีรษะอุดตันซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบ
3.โรยแชมพูบนผมที่เปียก
คนส่วนใหญ่ตอนที่ผมเปียกน้ำก็จะเทแชมพูลงบนศรีษะเลย
รู้มั้ยว่าแบบนี้ไม่ได้เป็นการสระผมที่สะอาดนะ
ก่อนที่จะใส่แชมพูให้ใช้น้ำอุ่นราดผมและหนังศรีษะก่อนประมาณ 1 นาทีขึ้นไป
มันเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นเลยทีเดียว
จากนั้นเทแชมพูลงบนฝ่ามือและหยดน้ำลงไปให้เกิดฟองนิดนึงจากนั้นค่อยๆชโลมลงบนผมของคุณและล้างทำความสะอาดปกติ
4. ห้ามรีบเข้านอนขณะผมยังเปียก เวลาผมเปียก
หนังกำพร้าของเส้นผมอยู่ในสภาพที่เปิดอยู่
ในตอนนี้ผมจะเปราะบางมากรับแรงเสียดทานไม่ได้ ถ้าคุณเข้านอนขณะผมยังเปียก
จะสามารถทำให้หนังกำพร้าของเส้นผมเกิดบอบช้ำ
ซึ่งอาจทำให้ผมร่วงหรือแห้งแตกได้
5.ใช้เล็บเกาหนังศรีษะระหว่างสระผม
ในเล็บมือของเรานั้นมีแบคทีเรียอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
เมื่อหนังศรีษะมีรอยขีดข่วนอาจจะทำให้ติดเชื้อได้
ดังนั้นเวลาสระผมให้ใช้นิ้วมือนวดหนังศรีษะเบาๆ
6. สระผมเสร็จก็ห้ามรีบออกไปข้างนอกทันที
จากการศึกษาพบว่าปริมาณรังสียูวีที่ได้รับของเส้นผมจะมากกว่าสองเท่าของใบหน้า
รังสียูวีจะทำให้หนังกำพร้าของเส้นผมบางและร่วงได้
ดังนั้นการที่สระผมเสร็จก็รีบออกไปข้างนอกทันที
จะทำให้ผมร่วงหรือแห้งแตกได้ ก่อนที่จะออกจากห้อง
เราควรใส่หมวกหรือใช้ร่มเพื่อกันรังสียูวี
7.ลงครีมนวดจนถึงรากผม
เนื่องจากแชมพูสระผมเป็นตัวช่วยให้รูขุมขนเปิดออก
หากใช้ครีมนวดชโลมจนถึงรากผมอาจจะทำให้มีการอุดตันเกิดขึ้น
แนะนำให้ชโลมปลายผมหรือบริเวณที่เลยติ่งหูลงไป จะได้ไม่โดนถึงหนังศรีษะ
แหล่งที่มา : bangpunsara.com