จดหมายฉบับที่ 70/2563
บ้านดิโอเรียนทอล เชียงใหม่
วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2563
ถึง ภูริธนันท์
อย่าเพิ่งสงสัยว่าได้จดหมายในวันนี้มาอย่างไร ตามที่ขอไปเมื่อปีที่แล้วผ่านมาได้สองเดือนกว่าเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าจะส่งสูตรการทำหมูพะโล้แบบบ้านนอก(บ้านยวม)มาให้ หอมเครื่องรสหวานมันหนังนิ่มนุ่มเนื้อหนึบ น้ำต้มหมูราดข้าวทานก็ยังอร่อย
เริ่มจาก หาวัสดุเครื่องปรุงขาหมูพะโล้ มีดังนี้ ได้ขาหมูเลาะกระดูก 1 กิโล 160 บาทจากเขียงหมูเจ้เฉียงเจ้านี้เขาเผาให้เรียบร้อยนำมาล้างน้ำขูดหนังให้สะอาดอีกรอบผึ่งลมให้สะเด็ดน้ำ เครื่องพะโล้ประกอบด้วย อบเชย 3 – 4 ก้าน แก้ลม แก้ไข้ แก้อ่อนเพลีย ช่วยขับผายลม โป๊ยกั๊ก 5 ดอก บำรุงธาตุ แก้ธาตุพิการ อาหารไม่ย่อย กระวาน 5-6 ดอก ใบกระวาน 2 ใบ ช่วยขับเสมหะ เม็ดผักชีทุบหยิบมือ รากผักชีกระเทียมบุบ ข่า 2-3 แว่น เปลือกส้มแห้งช่วยทำให้กลิ่นหอม ล้างน้ำให้สะอาดห่อในผ้าขาวบางรอไว้ สูตรนี้ไม่ทอดขาหรือเครื่องเทศ(ลืม)
ขั้นตอนการต้มพะโล้ในหม้ออบไอน้ำ ใส่น้ำในหม้อประมาณครึ่งหม้อต้มให้เดือด ใส่เกลือลงไป 2 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะให้ออกหวาน ซีอิ้วขาว ครึ่งถ้วย ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ พอน้ำเดือดนำห่อเครื่องพะโล้ในผ้าขาวบางใส่ลงหม้อ นำขาหมูที่ผึ่งสะเด็ดน้ำแล้วลงต้มให้เดือดสักครู่ค่อยๆตักฟองมันออกช่วยให้หนังสีสวย ตอนนี้จะมีกลิ่นหอมฟุ้งออกมา ชิมดูรสน้ำพะโล้เค็มหวานตามชอบ ปิดฝาหม้ออบไอน้ำใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ปิดไฟทิ้งไว้สักครู่จึงค่อยเปิดฝา กลิ่นหอมของเครื่องพะโล้แบบบ้านๆจะหอมฟุ้งไปทั่วทั้งห้องครัวถ้าไม่มีกลิ่นแสดงว่าผิดสูตรใช้ซ่อมลองจิ้มๆดูที่หนังจะนุ่มไม่เหนียวไม่เละ ตักออกมาใส่หม้อหุงข้าวเปิดไฟให้อุ่นได้ทั้งวัน
อย่าลืมต้มไข่แช่น้ำพะโล้ไว้ด้วยสักสามสี่ฟองใส่ไข่ทีหลังกันไข่หนังเหนียว แค่นี้ก็จะได้ขาหมูพะโล้หม้อใหญ่ในราคาไม่ถึง 200 บาท นำออกมาหั่นทานได้นับสิบจาน
ส่วนเครื่องเคียงวันนี้ใช้ผักกาดดองหวานเค็มนำมาหั่นเป็นผักเคียง ซอยพริกขี้หนูสวนเป็นแว่นใส่กระทียมน้ำปลาน้ำตาลมะนาวใช้เหยาะเติมรส ผักคะน้าฮ่องเต้ตัดเอาใบมาผัดเคี้ยวแนมแก้เลี่ยน ล้างต้นหอมผักชีใส่จาน หั่นแตงกวาไว้เพิ่มรสกรอบเย็นในปาก แค่นี้ก็จะได้รายการข้าวขาหมูพะโล้บ้านยวมแล้วละ ภูริธนันท์ ลองทำดูนะ
ขอให้มีความสุขในช่วงหลบภัยจากโรคระบาดไม่ออกไปในที่มีผู้คนแออัดสุขกายสุขใจ สบายกระเป๋าทำอาหารทานเองที่บ้านประหยัดได้ตั้งเยอะ
โชคดีมีสุข
Noohom Ja
อร่อยจริงๆขอบอก
ที่มา https://pantip.com/topic/39701568
บ้านดิโอเรียนทอล เชียงใหม่
วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2563
ถึง ภูริธนันท์
อย่าเพิ่งสงสัยว่าได้จดหมายในวันนี้มาอย่างไร ตามที่ขอไปเมื่อปีที่แล้วผ่านมาได้สองเดือนกว่าเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าจะส่งสูตรการทำหมูพะโล้แบบบ้านนอก(บ้านยวม)มาให้ หอมเครื่องรสหวานมันหนังนิ่มนุ่มเนื้อหนึบ น้ำต้มหมูราดข้าวทานก็ยังอร่อย
เริ่มจาก หาวัสดุเครื่องปรุงขาหมูพะโล้ มีดังนี้ ได้ขาหมูเลาะกระดูก 1 กิโล 160 บาทจากเขียงหมูเจ้เฉียงเจ้านี้เขาเผาให้เรียบร้อยนำมาล้างน้ำขูดหนังให้สะอาดอีกรอบผึ่งลมให้สะเด็ดน้ำ เครื่องพะโล้ประกอบด้วย อบเชย 3 – 4 ก้าน แก้ลม แก้ไข้ แก้อ่อนเพลีย ช่วยขับผายลม โป๊ยกั๊ก 5 ดอก บำรุงธาตุ แก้ธาตุพิการ อาหารไม่ย่อย กระวาน 5-6 ดอก ใบกระวาน 2 ใบ ช่วยขับเสมหะ เม็ดผักชีทุบหยิบมือ รากผักชีกระเทียมบุบ ข่า 2-3 แว่น เปลือกส้มแห้งช่วยทำให้กลิ่นหอม ล้างน้ำให้สะอาดห่อในผ้าขาวบางรอไว้ สูตรนี้ไม่ทอดขาหรือเครื่องเทศ(ลืม)
ขั้นตอนการต้มพะโล้ในหม้ออบไอน้ำ ใส่น้ำในหม้อประมาณครึ่งหม้อต้มให้เดือด ใส่เกลือลงไป 2 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะให้ออกหวาน ซีอิ้วขาว ครึ่งถ้วย ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ พอน้ำเดือดนำห่อเครื่องพะโล้ในผ้าขาวบางใส่ลงหม้อ นำขาหมูที่ผึ่งสะเด็ดน้ำแล้วลงต้มให้เดือดสักครู่ค่อยๆตักฟองมันออกช่วยให้หนังสีสวย ตอนนี้จะมีกลิ่นหอมฟุ้งออกมา ชิมดูรสน้ำพะโล้เค็มหวานตามชอบ ปิดฝาหม้ออบไอน้ำใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ปิดไฟทิ้งไว้สักครู่จึงค่อยเปิดฝา กลิ่นหอมของเครื่องพะโล้แบบบ้านๆจะหอมฟุ้งไปทั่วทั้งห้องครัวถ้าไม่มีกลิ่นแสดงว่าผิดสูตรใช้ซ่อมลองจิ้มๆดูที่หนังจะนุ่มไม่เหนียวไม่เละ ตักออกมาใส่หม้อหุงข้าวเปิดไฟให้อุ่นได้ทั้งวัน
อย่าลืมต้มไข่แช่น้ำพะโล้ไว้ด้วยสักสามสี่ฟองใส่ไข่ทีหลังกันไข่หนังเหนียว แค่นี้ก็จะได้ขาหมูพะโล้หม้อใหญ่ในราคาไม่ถึง 200 บาท นำออกมาหั่นทานได้นับสิบจาน
ส่วนเครื่องเคียงวันนี้ใช้ผักกาดดองหวานเค็มนำมาหั่นเป็นผักเคียง ซอยพริกขี้หนูสวนเป็นแว่นใส่กระทียมน้ำปลาน้ำตาลมะนาวใช้เหยาะเติมรส ผักคะน้าฮ่องเต้ตัดเอาใบมาผัดเคี้ยวแนมแก้เลี่ยน ล้างต้นหอมผักชีใส่จาน หั่นแตงกวาไว้เพิ่มรสกรอบเย็นในปาก แค่นี้ก็จะได้รายการข้าวขาหมูพะโล้บ้านยวมแล้วละ ภูริธนันท์ ลองทำดูนะ
ขอให้มีความสุขในช่วงหลบภัยจากโรคระบาดไม่ออกไปในที่มีผู้คนแออัดสุขกายสุขใจ สบายกระเป๋าทำอาหารทานเองที่บ้านประหยัดได้ตั้งเยอะ
โชคดีมีสุข
Noohom Ja
อร่อยจริงๆขอบอก
ที่มา https://pantip.com/topic/39701568