ทนายคนดังซัดเละ!! รถกระบะมีแคปกลายเป็นรถมีเวรกรรม นั่งได้เท่าจยย. แต่เสียภาษีแพงกว่า แบบนี้มีเพียงหน่วยงานเดียวที่ตีปีกรับ!!(รายละเอียด)

ทนายความเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องที่รัฐบาลมีนโยบายห้ามประชาชนนั่งบริเวณท้ายกระบะ โดยได้ระบุข้อมูลไว้ว่า...
 

อย่าว่าแต่ห้ามนั่งท้ายกระบะเลยครับ ถ้าเอาตามกฎหมายจริง ๆ รถกระบะมีแคป (ตอนครึ่ง ) ป้ายทะเบียนพื้นสีขาว ตัวหนังสือสีเขียวก็จดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ที่มีที่นั้งเพียง ตอนหน้า คือ ผู้โดยสาร กับคนขับ รวมกันได้ เพียง 2 คน ไม่เหมือนรถกระบะ 4 ประตู ป้ายทะเบียนขาว ตัวหนังสือสีดำ ที่จดทะเบียนเป็น "รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง" รถกระบะแคป ที่ไม่ระบุจำนวนที่นั่ง จึงต้องถือเอาตามที่นั่งจริง คือ 2 ที่นั่ง ส่วนกระบะท้าย และ แคป ไม่ถือว่าเป็นที่นั่งผู้โดยสาร ยิ่งรัฐบาล โดยหัวหน้า คสช.ประกาศบังคับใช้มาตรา 44 ห้ามนั่งกระบะท้าย หรือภายในแคป ตำรวจยิ่งตีปีก รับ!!! ความจริงรถกระบะ ไม่ว่า 4 ประตู หรือ 2 ประตู + แคป ควรเป็นรถเอนกประสงค์ ตามเจตนาผู้ผลิต และผู้ซื้อ ถ้ารัฐบาลจะออกกฎหมายห้าม ก็ควรแก้กฎหมาย หรือกฎระเบียบอื่นๆ ให้สอดคล้องกับ กฎหมายและความเป็นจริง ไม่ใช่ กรมการขนส่งออกระเบียบอย่างอื่น แต่หน่วยงานอื่น ออกระเบียบไม่สอดคล้อง
 

ตอนนี้กลายเป็นว่า รถกระบะมีแคป เป็นรถมีเวรกรรม นั่งท้ายกระบะก็ไม่ได้ นั่งในแคป ก็ไม่ได้ สรุป นั่งได้ 2 คน เท่ารถมอเตอร์ไซด์ แต่เสียภาษี แพงกว่ามอเตอร์ไซด์ หลายเท่า แม้แต่เบี้ยประกันภัย กรมการประกันภัยก็ไม่ได้ช่วยอะไร บริษัทประกันภัย คิดเบี้ยประกันภัยเท่ากับคุ้มครองผู้โดยสาร 10 -12 คน ทั้งๆ ที่กฎหมาย ให้นั่งโดยสารได้ไม่เกิน 2 คน รัฐเอาแต่ได้ คนจะตายคือประชาชน
ขอบคุณ : เกิดผล แก้วเกิด

เรียบเรียงโดย

สุกันยา บุญซ้วน : สำนักข่าวทีนิวส์