วันนนี้เรามีเคล็ดลับ ดีๆมาฝาก เวลาปวดหัว หลายคนคงคิดว่า กินยา
แก้ปวดดีกว่าเดียวก็หาย มันก็จริงที่กินยาแล้วหายแน่นอน
แต่ถ้ากินยามากไปจะมีผลกระทบในระยะยาว
ลองชมเทคนิคดีๆที่เรานำมาฝากท่านๆที่มีอาการปวดหัวบ่อยๆ
ด้วยวิธีฃการนวดกดจุดจากแพทย์แผนจีน ซึ่งใช้เวลาในการกดจุดเพียงแค่ 5
นาทีเท่านั้น ก็สามารถขจัดปัญหาไปได้อย่างหายห่วง
ก่อนที่จะเริ่มนวดกดจุดนั้น คุณจำเป็นจะต้องอยู่ในท่าและลักษณะผ่อนคลาย การกดจุดในแต่ละครั้งไม่ควรใช้เวลานานมากเกินไป โดยการกดจุดในแต่ละครั้งใช้เวลาเพียง 30 วินาที – 1 นาทีต่อ1จุดก็พอแล้ว หลังจากกดไปแล้ว 5-10 นาที อาการปวดหัวก็จะค่อยๆทุเลาลงตามลำดับ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าต้องกดตรงไหนบ้างนะ
จุดหยินหยาง:การกดจุดนี้จะต้องกดตรงไปกลางหน้าผาก ตรงกลางระหว่างคิ้ว จุดนี้ช่วยให้เพิ่มความสมดุลในร่างกาย การหายใจ สมองปลอดโปร่ง และช่วยในเรื่องของความดัน
จุดจ่านจู :กดลงไปตรงใต้หัวคิ้ว โดการกดจุดนี้ช่วยให้การทำงานของตับทำงานได้ดีขึ้น และช่วยบรรเทาอาการเมื่อยล้าทางสายตาได้
จุดหยิงเซียง :กดลงไปในตำแหน่งที่เว้นระยะมาจากปีกจมูกออกไปทั้งซ้ายและขวาให้ห่างออกไปอย่างละ 1 เซนติเมตร การกดจุดนี้ช่วยบรรเทาอาการจมูกอักเสบ,บรรเทาความเครียดและยังสามารถลดอาการปวดหัวและปวดฟันได้
จุดทานจู้:จุดนี้ให้กดลงไประหว่างท้ายทอยตามภาพ จุดนี้ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก เมื่อยล้าตา ปวดหู และช่วยบรรเทาอาการปวดหัวจากไมเกรนได้
จุดลวี่กู่ : จุดนี้ให้กดบริเวณด้านบนของหู โดยเว้นระยะมา 1.5 นิ้ว การกดจุดนี้มีส่วนช่วยบรรเทาในเรื่องอาการเมื่อยล้าทางสายตา อาการวิงเวียนหูอื้อ การอาเจียน และโรคกระเพาะได้
จุดเหอกู่ :จุดนี้อยู่ที่ด้านหลังของมือ เป็นจุดที่อยู่ตรงกลางระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ การกดจุดนี้ช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง อาการปวดฟัน และลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่คอได้
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.liekr.com/post_150409.html
ก่อนที่จะเริ่มนวดกดจุดนั้น คุณจำเป็นจะต้องอยู่ในท่าและลักษณะผ่อนคลาย การกดจุดในแต่ละครั้งไม่ควรใช้เวลานานมากเกินไป โดยการกดจุดในแต่ละครั้งใช้เวลาเพียง 30 วินาที – 1 นาทีต่อ1จุดก็พอแล้ว หลังจากกดไปแล้ว 5-10 นาที อาการปวดหัวก็จะค่อยๆทุเลาลงตามลำดับ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าต้องกดตรงไหนบ้างนะ
จุดหยินหยาง:การกดจุดนี้จะต้องกดตรงไปกลางหน้าผาก ตรงกลางระหว่างคิ้ว จุดนี้ช่วยให้เพิ่มความสมดุลในร่างกาย การหายใจ สมองปลอดโปร่ง และช่วยในเรื่องของความดัน
จุดจ่านจู :กดลงไปตรงใต้หัวคิ้ว โดการกดจุดนี้ช่วยให้การทำงานของตับทำงานได้ดีขึ้น และช่วยบรรเทาอาการเมื่อยล้าทางสายตาได้
จุดหยิงเซียง :กดลงไปในตำแหน่งที่เว้นระยะมาจากปีกจมูกออกไปทั้งซ้ายและขวาให้ห่างออกไปอย่างละ 1 เซนติเมตร การกดจุดนี้ช่วยบรรเทาอาการจมูกอักเสบ,บรรเทาความเครียดและยังสามารถลดอาการปวดหัวและปวดฟันได้
จุดทานจู้:จุดนี้ให้กดลงไประหว่างท้ายทอยตามภาพ จุดนี้ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก เมื่อยล้าตา ปวดหู และช่วยบรรเทาอาการปวดหัวจากไมเกรนได้
จุดลวี่กู่ : จุดนี้ให้กดบริเวณด้านบนของหู โดยเว้นระยะมา 1.5 นิ้ว การกดจุดนี้มีส่วนช่วยบรรเทาในเรื่องอาการเมื่อยล้าทางสายตา อาการวิงเวียนหูอื้อ การอาเจียน และโรคกระเพาะได้
จุดเหอกู่ :จุดนี้อยู่ที่ด้านหลังของมือ เป็นจุดที่อยู่ตรงกลางระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ การกดจุดนี้ช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง อาการปวดฟัน และลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่คอได้
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.liekr.com/post_150409.html