สอนทำไข่เค็มไว้กินเอง แบบง่ายๆ ไม่ต้องไปซื้อมากินเลย!

สอนทำไข่เค็มไว้กินเอง แบบง่ายๆ ไม่ต้องไปซื้อมากินเลย!

สิ่งที่ต้องเตรียม


1. ไข่เป็ดล้างสะอาด เช็ดให้แห้ง 30 ฟอง

2. เกลือเม็ด 2 ถ้วยตวง

3. น้ำสะอาด 8 ถ้วยตวง

4. เหล้าขาว

5. สารส้ม 1 ก้อน ขนาดเท่านิ้วหัวแม่โป้ง

6. ถ้วยที่ใช้ตวงเกลือ กับน้ำ ปริมาตรราวๆ 270 ml

7. โหลแห้ว หรือโหลกระเบื้อง หรือโหลพลาสติค

8. ถุงพลาสติคใบใหญ่

9. ทัพพีโปร่ง

10. หม้อต้ม

วิธีการทำ


1. นำเกลือเม็ดกับน้ำเปล่ามาต้มรวมกันจนเกลือละลายหมด ก็ปิดไฟเตา

2. จากนั้นกรองน้ำเกลือด้วยผ้าขาวบางสักรอบนึงเผื่อว่ามีสิ่งสกปรกติดมาด้วย

3. ทำการพักไว้ให้น้ำเกลือเย็นสนิท

4. จากนั้นนำไข่เป็ดมาล้างทำความสะอาดโดยการนำน้ำใส่กาละมัง หยิบไข่เป็ดใส่ลงในน้ำและใช้ฟองน้ำถูเบาๆทีละฟองให้สะอาดจากนั้นล้างน้ำอีกรอบแล้วก็เช็ดให้แห้ง

5. พอแห้งนำไข่มาเรียงใส่ลงในโหลแห้ว หรือโหลกระเบื้อง หรือโหลพลาสติค

6. จากนั้นนำเหล้าขาวใส่ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยน้ำเกลือที่เย็นสนิทแล้ว (ข้อสังเกตุคุณจะเห็นว่าไข่ลอยขึ้นมาตุ๊บป่องๆบริเวณผิวน้ำ หากปล่อยไว้อย่างนี้ไข่จะเน่า ดังนั้นเราจึงต้องทำให้ไข่จมอยู่ใต้น้ำโดยการนำถุงพลาสติคใบใหญ่ๆมา1ใบ ใส่น้ำเปล่าลงไปพอประมาณ มัดปากถุงให้สนิทแบบเหี่ยว แล้ววางทับลงไปบนไข่ก็จะทำให้ไข่ดองเค็มของเราทั้งหมด จมลงไปอยู่ใต้ผิวน้ำ)

7. จากนั้นทำการปิดฝาให้สนิท(หากปิดฝาแล้วน้ำล้นออกมา ก็เทน้ำเกลือออกไปได้)

8. ทำการดองไว้ประมาณ 25 วัน

9. พอครบ 25 วัน ทำการเปิดฝาออก แล้วค่อย ๆ ใช้ทัพพีโปร่งตักไข่ออกมาใส่หม้อที่จะใช้ต้ม

10. ทำการหย่อนสารส้มใส่ลงไป 1 ก้อนเล็ก

11. เติมน้ำเปล่าลงไปพอท่วมไข่สัก 1 นิ้ว

12. นำหม้อตั้งเตาไฟใช้ไฟกลาง รอจนน้ำเดือดก็เริ่มจับเวลาโดยใช้เวลาต้มไข่เค็มประมาณ 15 นาที (ระหว่างต้มก็คนบ้างเป็นระยะ)

13. พอครบ 15 นาที ก็ตักไข่เค็มขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำและเย็นลง ก็เป็นอันพร้อมเสิร์ฟ

ปล.

1. สูตรนี้น้ำเกลือค่อนข้างอ่อน จึงใช้เวลาดองนานนิดนึง แต่ถ้าชอบเค็มจัด ดองไว้ ลดน้ำเหลือ 6-7 ถ้วย แล้วดองสัก 3 สัปดาห์ก็พอ

2. อายุการเก็บรักษาไข่เค็มถ้าอยู่ในอุณหภูมิห้องได้ประมาณ 20 วัน แต่ถ้าอยู่ในตู้เย็นก็ประมาณ 1 เดือน

หลังจากที่ได้อ่านกันแล้ว ใครอยากรับประทานไข่เค็มก็ลองทำตามสูตรด้านบนได้เลย รับรองอร่อยฟินจนต้องบอกต่อ จะทำไว้ทานเองในครอบครัวหรือทำเป็นอาชีพก็ยังได้


ที่มา...http://www.littleza.com/2016/04/blog-post_71.html