แบบนี้สิไอดอล “น้องดา” สาวเผ่าม้งผู้ใฝ่ดี จบวิศวะ มทร.ด้วยเกรด 3.58 สุดภูมิใจจะได้ส่งน้อง 2 คนเรียน..

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก สำหรับนางสาวธมลวรรณ แซ่ว่าง หรือ น้องดา อายุ 24 ปี อดีตเด็กสาวชาวม้งผู้ใฝ่ดี ฟันฝ่าอุปสรรคมากมายในชีวิตผลักดันตนเองและทำทุกวิถีทางเพื่อการเรียนในมหาวิทยาลัย ขณะนี้ได้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร 4 ปี เป็นบัณทิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมสิ่งทอ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรีแล้ว โดยเริ่มต้นการทำงานที่ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่น ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการส่วนการผลิตก่อนหน้านี้น้องดาสำเร็จการศึกษาชั้นม.ปลายจากโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.13 ที่บ้านประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ ในครอบครัวมีพี่น้อง 21 คน ซึ่งพ่อมีภรรยา 3 คน น้องดาเป็นลูกของแม่คนที่ 2 หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมชั้นปีที่ 6 ที่บ้านไม่อยากให้เรียน อยากให้แต่งงานมีครอบครัว แต่ด้วยอยากเรียนหนังสือ…

เมื่อเรียนจบจึงหางานทำ เพื่อหาค่าเทอมเรียน หยุดเรียนไป 1 ปี โดยเข้าทำงานโรงงานแห่งหนึ่งกับพี่สาวในกรุงเทพมหานครน้องดาคิดเสมอว่า “ต้องเรียนให้สูงที่สุด และต้องนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาหมู่บ้านซึ่งชนเผ่ายึดอาชีพการปักผ้า”อยากจะเผยแพร่พัฒนาผ้าลายปักให้เป็นที่รู้จักเมื่อได้มีโอกาสกลับมาเรียนมหาวิทยาลัย น้องดาได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนสมเด็จพ่อ ร.5 (เชียงคำ) เทอมละ 12,000 บาท ทุนให้เปล่าจากกองทุนพัฒนานักศึกษา มทร.ธัญบุรี และเงินจากกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เดือนละ 2,200 บาท เงินส่วนหนึ่งที่ได้มาจะเก็บและช่วยน้องสาวที่กำลังเรียนอยู่ในคณะเดียวกันในระดับชั้นปีที่ 1 มทร.ธัญบุรี ระหว่างที่เรียนรับงานพิเศษจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยฯ มาทำด้วย

นอกจากนี้เมื่อมีเวลาว่างจะหากิจกรรมทำ เข้าไปช่วยงานที่กองพัฒนานักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งแต่ละวันจะใช้เงินวันละ 100 บาท ด้วยความตั้งใจ พยายามทำความเข้าใจกับบทเรียน ซักถามอาจารย์ “ตั้งเป้าหมายและทำให้ได้” หลังจากสำเร็จการศึกษาอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง อยากหางานในคนในหมู่บ้านทำงาน สร้างรายได้ให้คนในหมู่บ้านน้องดา กล่าวว่า สำหรับการวางแผนชีวิตหลังจากสำเร็จการศึกษาในครั้งนี้ ได้วางแผนการจัดการเงินเดือนทุกเดือนไว้แล้วแบ่งออกเป็นค่าใช้จ่ายให้แม่ ค่าที่พักให้น้องสาวที่กำลังเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร. ค่าเล่าเรียนน้องชายอีกสองคน และส่วนหนึ่งเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว รวมถึงเงินออมเพื่ออนาคตต่อไป”

ดาอยากฝากถึงเพื่อน ๆ ทุกคนที่มีโอกาสเรียนหนังสือ หรือคนที่กำลังต่อสู้เพื่อให้ได้โอกาสทางการศึกษา ดาอยากบอกว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคือการศึกษา เพราะการศึกษายิ่งเราได้มีโอกาสเรียนสูง ๆ มีใบปริญญาบัตรเป็นใบเบิกทาง จะทำให้เราได้รู้ว่าโอกาสของการได้งานทำก็มีให้เลือกตามไปด้วย ดังนั้นเมื่อเรามีโอกาสเรียนก็ขอให้ทุ่มเทและตั้งมั่งอย่างเต็มที่ การเรียนที่ว่ายาก ยังไม่ยากเท่ากับการทำงานที่จะต้องประสบกับภาวะความกดดันกับชีวิตจริงที่ทุกคนจะต้องต่อสู้ แต่หากมีการศึกษาเป็นพื้นฐานให้เราได้มั่นใจ บวกกับความอดทน มุ่งมั่น เราจะถึงจุดหมายอย่างภาคภูมิใจเสมอ” น.ส.ธมลวรรณ กล่าว

Cr. siamlife24