สุดยอดนายตำรวจเลือดกะเหรี่ยง เริ่มจากเด็กดอยจนๆ เลี้ยงวัวในป่า อดมื้อกินมื้อ โดนคนดูถูก กัดฟันสู้จนสอบติดตำรวจ..

การต่อสู้ชีวิตนั้น เป็นเรื่องที่เราทุกคนต่างต้องทำ ต้องดินรนเพื่อนำไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น อย่างเช่นเรื่องนี้ ที่เพจ ฮา กะเหรี่ยง เมื่อครั้งวันที่ 7 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา ได้โพสต์ภาพสุดประทับใจของนายตำรวจท่านหนึ่ง สวมชุดตำรวจเต็มยศนั่งข้างผู้หญิงที่แต่งกายชุดกะเหรี่ยง ร.ต.อ.ภาณุพัฆน์ เป็นปกาเกอะญอ อยู่ที่ บ้านแม่ตื่น อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ตอนเด็กๆที่บ้านมีฐานะยากจน บางวันต้องอดมื้อกินมื้อ และต้องทำงานหนักมาตั้งแต่ยังเล็ก ทั้งรับจ้างเลี้ยงวัว เลี้ยงควาย ไม่มีแม้กระทั่งรองเท้าใส่ หนังสือก็ไม่ได้เรียน จนเมื่ออายุประมาณ 13-14 ปี ได้เข้ามาทำงานก่อสร้างที่เมืองเชียงใหม่

ผมนี่แหละกะเหรี่ยง สิ่งที่ชายผู้นี้ภูมิใจในชาติพันธ์ตัวเอง “จากเด็กดอยธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่ได้มีโอกาสดีๆอย่างใครเขา ไม่ได้มีโอกาสได้เรียนหนังสือในโรงเรียนดีๆ ไม่ได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตแบบสุขสบายได้เรียนเพียงแค่ กศน แต่เขาเลือกที่จะมีความฝัน และก็อยากจะทำความฝันนั้นให้เป็นจริง โดยที่ไม่ให้ความจนมาทำให้เขาหยุดที่จะฝันได้ เพราะเขาคอยมีพ่อแม่เป็นกำลังใจสำคัญให้เขาได้สู้ และพยายามฝึกฝนตัวเอง จนในที่สุดวันนี้ความฝันของเขาก็ได้เป็นจริง ได้เป็นตำรวจอย่างที่ใจหวัง ร.ต.อ. ภาณุพัฆน์ ชัยสร้างสรรค์รองสารวัตรงานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองลำพูน และได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับพ่อแม่
ขอหนึ่งแชร์เพื่อสร้างกำลังใจให้กับคนที่ท้อถอย

ระหว่างทำงานต้องแบกหามของหนักจนเป็นไส้เลื่อน จนอายุ 17 ปี วันหนึ่งแบกของขึ้นชั้น 7 ไม่ไหว และยังโดนดูถูก พร้อมกับโดนไล่ให้ไปเรียนการศึกษานอกโรงเรียนจึงเป็นแรงฮึดและแรงกระตุ้นในใจ วันรุ่งขึ้นจึงไปสมัครเรียนกศน. ระหว่างเรียนมีช่วงหนึ่งกลับไปอยู่บ้าน ระหว่างเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ก็เอาหนังสือไปอ่านกลางทุ่งนาจนเรียนจบชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3

จากนั้นเมื่อตอนปี 45 ได้สมัครเป็นทหารเกณฑ์ ทั้งที่ตอนนั้นคนสมัครเต็มหมดแล้ว แต่ไปยกมือไหว้ขอเป็น เพราะอยากสอบเป็นนายสิบ อยากรับราชการ จนเขายอมรับเป็นทหาร 2 ปี ระหว่างนั้นก็ได้เรียนการศึกษานอกโรงเรียนไปด้วยจนจบ ม.6 เมื่อปลดทหารมาก็ไปสมัครเป็นรปภ.ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้เงินเดือนประมาณ 4,000-4,500 บาท แต่พอทำไปคิดว่ามีปัญหาเรื่องเงื่อนเวลา จึงไปสมัครเป็นอาสาสมัครทหารพราน จำได้ดีว่าเงินเดือนทหารพรานออกเดือนแรก ตนเอาไปสมัครเรียนนิติศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ใช้เวลาเรียน 4 ปี จนเรียนจบเมื่อปี 53 เห็นประกาศสอบตำรวจชั้นประทวน เลยสมัคร ปรากฎว่าสอบได้ และได้รับการบรรจุที่ สถานีตำรวจภูธรบางกรวย จังหวัดนนทบุรี แล้วถูกย้ายไปอยู่สุวรรณภูมิ จนเมื่อปี 56 มีการเปิดสอบตำรวจชั้นสัญญาบัตร จึงตั้งใจอ่านหนังสือและสามารถสอบได้ที่ตำรวจภูธรภาค 5 ลงบรรจุครั้งแรกที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน ก่อนเมื่อปีที่แล้วจะย้ายมาอยู่ที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน

สุดท้ายนายตำรวจเลือดกะเหรี่ยง บอกถึงแรงผลักในชีวิต ที่ทำให้มาถึงทุกวันนี้เพราะตัวเองจริงๆ โดยมีพ่อแม่คอยให้กำลังใจ ตอนเป็นเด็กนั้นใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาก การจะเดินทางมาเมืองเชียงใหม่ตอนนั้นยังเป็นถนนลูกรัง ต้องใช้เวลาเดินทางเป็นวัน แต่ก็ฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างจนสามารถทำตามความฝันให้เป็นจริงได้ ถามว่าท้อไหม เหนื่อยไหม บอกเลยว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเจอ ถ้าวันนั้นตนไม่ตัดสินใจเรียน ก็คงไม่ต่างจากคนอื่นๆ และไม่ได้รับราชการตามปณิธานที่ตั้งไว้ เพราะอยากให้พ่อแม่มีสวัสดิการ และทุกวันนี้เมื่อมีโอกาสกลับบ้านจะบอกน้องๆที่ปัจจุบันมีโอกาสเยอะกว่าคนรุ่นนั้น ว่าหากมีโอกาสต้องไขว่คว้ามันไว้ อย่าทิ้งโอกาสตรงนั้น และจะบอกเสมอให้ทุกคนตั้งใจเรียน และทำทุกสิ่งให้ดีที่สุด ส่วนที่เอาเรื่องมาลงเพจ ก็เพราะอยากให้กำลังใจและแรงบันดาลใจน้องๆคนรุ่นหลังให้ตั้งใจเรียน หรือหากใครมีปัญหาก็จะบอกเขาว่าอย่าท้อถอย

ที่มา reportdays