แนะนำ 10 เส้นทางเที่ยวด้วยรถไฟ
มีทั้งเส้นทางใกล้กรุงเทพฯ และเส้นทางไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ
ของเมืองไทยในภาคเหนือจรดภาคใต้ เช็กสิ
เคยมีประสบการณ์กับเส้นทางไหนกันมาบ้าง
การเดินทางท่องเที่ยวในไทย ปัจจุบันมีวิธีการเดินทางในหลากหลายรูปแบบ ทั้งรถโดยสารประจำทาง รถตู้โดยสารประจำทาง เครื่องบิน เรือ และรถไฟ แต่ถ้าถามว่าการเดินทางวิธีไหนที่จะเป็นประสบการณ์สุดพิเศษ คงต้องบอกว่าการเดินทางด้วยรถไฟนี่แหละที่ตอบโจทย์สุด ๆ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี ก็ยังมีเสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย ลองนึกถึงบรรยากาศที่มีลมเย็น ๆ ตีหน้า สองข้างทางเป็นวิวสวย ๆ ของเมืองไทย มีอาหารอร่อย ๆ ให้ได้กินตลอดทั้งวันทั้งคืน อิ่มท้องจะแตก แต่ก็ยังหยุดกินไม่ได้ ^^ ไหนจะเป็นเสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมทาง เสียงไก่ขันยามเช้า เสียงติ๊ก ๆ ของเครื่องตัดตั๋วของพนักงานเก็บตั๋วบนรถไฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่คุณจะไม่ได้พบเห็นจากการเดินทางในแบบอื่น ๆ และถ้าใครนึกถึงหรืออยากไปสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ วันนี้เรามี 10 เส้นทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟสุดฮิตมาฝากกันค่ะ มีเส้นทางไหนบ้างไปดูกัน
1. หัวหิน
ภาพจาก Vicky Jirayu / Shutterstock.com
เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางของการเดินทางด้วยรถไฟที่ฮอตฮิตตลอดกาลจริง ๆ สำหรับหัวหิน ดินแดนตากอากาศชายทะเลที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีที่นี่ก็มีเสน่ห์ไม่ลบเลือน และยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ผุดขึ้นมาอีกมาย ทั้งตลาดน้ำ สวนน้ำ คอมมูนิตี้มอล และแหล่งช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ไม่เพียงเท่านั้นหัวหินยังมีร้านอาหารทะเลอร่อย ๆ ร้านกาแฟสวยเก๋ และร้านขนมหวานให้ไปลิ้มลองอีกเพียบ และที่สำคัญสถานีรถไฟหัวหินยังสวยงาม น่าไปเที่ยวถ่ายภาพสุด ๆ
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ และปลายทางหัวหิน จะมีรถไฟให้เลือก 4 ประเภท คือ ธรรมดา, เร็ว ด่วน, ด่วนพิเศษ และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่ 08.05 น. - 22.50 น.
ราคาค่าโดยสาร : 44-1,052 บาท
2. ปราณบุรี
ปราณบุรี เป็นอีกหนึ่งเมืองตากอากาศชายทะเลที่สวยงามไม่แพ้หัวหิน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวทะเลแบบเงียบสงบจริง ๆ คุณจะได้ตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นตรงปลายขอบฟ้า กับผืนทะเลสุดกว้างใหญ่ มีเพียงเสียงคลื่นกระทบผืนทรายให้ได้ยินเพื่อกระตุ้นให้ตื่นจากภวังค์ นอกจากนี้ในปราณบุรียังมีที่เที่ยวปราณบุรีสวย ๆ ให้ได้เยือนมากมาย อาทิ หมู่บ้านปากน้ำปราณบุรี, เขื่อนปราณบุรี, หาดเขากะโหลก, วนอุทยานปราณบุรี, ค่ายธนะรัชต์, ตลาดเก่าเมืองปราณ เป็นต้น
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางปราณบุรี จะมีรถไฟเพียงประเภทเดียวคือ เร็ว และมีเพียงรอบเดียวต่อวัน ออกจากกรุงเทพฯ 15.35 ถึงปราณบุรี 20.34 น.
ราคาค่าโดยสาร : 98-491 บาท
3. พระนครศรีอยุธยา
พระนครศรีอยุธยา ไม่ได้เป็นจุดหมายปลายทางสุดฮิตของการนั่งรถไฟเที่ยวเฉพาะคนไทยเท่านั้น ชาวต่างชาติเองก็ยังใช้บริการกันอย่างล้นหลาม เพราะใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง และตั๋วโดยสารยังราคาย่อมเยา สถานีรถไฟก็อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวในเมืองอยุธยา เดินทางไปเที่ยวส่วนไหนก็สะดวก ในเมืองอยุธยาก็มีที่เที่ยวสวย ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา, วัดมหาธาตุ, วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดใหญ่ชัยมงคล, วัดไชยวัฒนาราม เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้น อยุธยายังขึ้นชื่อว่ามีร้านอาหารที่มีเมนูกุ้งแม่น้ำที่อร่อยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยอีกด้วย เที่ยวก็ดี อาหารก็อร่อย แบบนี้ไม่ควรพพลาดเลยค่ะ
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางอยุธยา จะมีรถไฟให้บริการหลากหลายประเภท ได้แก่ ชานเมือง, ธรรมดา, เร็ว, ด่วน, ด่วนพิเศษ และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่ 04.20-22.45 น.
ราคาโดยสาร : 15-916 บาท
4. กาญจนบุรีและน้ำตกไทรโยค
ถ้าพูดถึงการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ ชื่อแรก ๆ ที่นึกออกก็คือ กาญจนบุรี เพราะที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ "ทางรถไฟสายมรณะ" นั่นเอง ซึ่งเด็กรุ่นใหม่หลาย ๆ คนก็อยากที่จะไปเห็นเส้นทางนี้กันสักครั้ง ซึ่งโดยส่วนมากแล้วนักท่องเที่ยวมักที่จะนั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ (สถานีต้นทางธนบุรี) ไปยังปลายทางคือ น้ำตกไทรโยครน้อย โดยเส้นทางนี้จะผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแคว และถ้ำกระแซด้วย ที่สถานีสะพานข้ามแม่น้ำแควรถไฟจะจอดประมาณ 10 นาที ให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปถ่ายรูปและเดินชมรอบ ๆ หรือใครจะลงที่สถานีนี้เพื่อเที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรีก่อนไปเยือนน้ำตกไทรโยคน้อยกับขบวนรถไฟในรอบถัดไปก็ได้
ส่วนที่น้ำตกไทรโยคน้อย นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมน้ำตก นั่งกินข้าวริมน้ำตก แล้วไปพักผ่อนตามรีสอร์ทริมแม่น้ำแควน้อย หรือถ้าใครอึดมากพอ ก็สามารถนั่งรถโดยสารประจำทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ได้วันนั้นเลยค่ะ
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ (สถานีธนบุรี) ปลายทางน้ำตก จะมีรถไฟให้บริการประเภทเดียว คือ ธรรมดา โดยจะมีสองรอบ คือ 07.50 น. และ 13.55 น.
ราคาค่าโดยสาร : 39 บาท
5. ลพบุรี และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
จังหวัดลพบุรี เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายแบบ ยิ่งช่วงปลายปียิ่งน่าท่องเที่ยว เพราะทุ่งทานตะวันจะบานสะพรั่งไปทั่วทั้งหุบเขา อากาศก็เย็นสบาย น่าท่องเที่ยวมาก ๆ นอกจากนี้ก็ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ ให้ได้ไปเช็กอินกัน อาทิ สวนรุกขชาติน้ำตกวังก้านเหลือง, โอเอซิสฟาร์ม, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์, พระนารายณ์ราชนิเวศน์, วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ, พระปรางค์สามยอด เป็นต้น และหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของลพบุรีที่จะไม่พุดถึงไม่ได้เลย ก็คือ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีทุ่งทานตะวันให้ได้ชมกันในช่วงหน้าหนาวด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ยังมีเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งมักจะเปิดให้ใช้บริการเฉพาะโอกาสพิเศษเท่านั้น และในปีนี้ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 - มกราคม 2561 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ รถไฟเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางลพบุรี จะมีรถไฟให้บริการหลายแบบ คือ ชานเมือง, ธรรมดา, เร็ว, ด่วน, ด่วนพิเศษ และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่เวลา 04.20 - 22.00 น.
ราคาค่าโดยสาร : 28-973 บาท
6. เมืองโพธาราม และราชบุรี
จังหวัดราชบุรี เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ซ่อนสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ไว้เพียบเลยค่ะ ในเมืองราชบุรี หรือเมืองโพธารามต่างก็มีแหล่งที่เที่ยวหลากหลายแบบ ใครที่ชอบความเป็นเมืองเงียบ ๆ ชอบเดินชมเมืองกับบ้านเรือนเก่าแก่ จะต้องถูกใจราชบุรีแน่นอน ในเมืองโพธารามก็มีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ เพียบ อาทิ สุนทรีแลนด์ แดนตุ๊กตา, Secret Space, พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน, วัดพระศรีอารย์ เป็นต้น
ส่วนในเมืองราชบุรีก็มีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติราชบุรี, วัดอรัญญิกาวาส, ร้านกาแฟอาตี๊ โกปี้, ก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม่ม, อุทยานหินเขางู, Tao Hong Tai : d Kunst, โรงงานเซรามิค เถ้าฮงไถ่, วัดมหาธาตุ, เขาแก่นจันนทร์, ร้านโซวเจ็งหลี เป็นต้น
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางโพธาราม มีรถไฟให้บริการ 2 แบบ คือ ธรรมดา และเร็ว มี 2 รอบ คือ 09.20 น. และ 15.35 น. ส่วนต้นทางกรุงเทพฯ - ปลายทางราชบุรี มีรถไฟให้บริการ 4 แบบ คือ ธรรมดา, เร็ว, ด่วนพิเศษ และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่เวลา 08.05-22.50 น.
ราคาค่าโดยสาร : เส้นทางโพธาราม เริ่มต้น 21-338 บาท และเส้นทางราชบุรี เริ่มต้น 25-960 บาท
7. ปากช่องและเขาใหญ่
ปากช่อง เป็นอำเภอที่สวยงามมากที่สุดของจังหวัดนครราชสีมา ด้วยเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นอุทยานที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย และยังมีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ ในตัวเมืองปากช่องเองก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวดี ๆ ร้านอาหารอร่อย ๆ ให้ไปเยือนอีกมากมาย และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่รายล้อมรอบ ๆ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อีกนับไม่ถ้วน เรียกได้ว่าเป็นเมืองสวรรค์ของธรรมชาติเลยล่ะ
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางปากช่อง มีรถไฟให้บริการ 5 แบบ คือ ธรรมดา, เร็ว, ด่วน, ด่วนพิเศษ และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่ 05.45 - 22.45 น.
ราคาค่าโดยสาร : 36-1,011 บาท
8. อุบลราชธานี
จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติอุดมสมบูรณ์สุด ๆ มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติหลากหลายแบบ รวมทั้งยังเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ ดังจะเห็นได้จากการพบหลักฐานเกี่ยวกับยุคโบราณมากมาย ช่วงหน้าหนาวก็ยังมีทุ่งดอกไม้ให้ไปยลกันอย่างจุใจ เที่ยวอุบลฯ จนอื่มใจแล้วอยากจะข้ามไปเที่ยวฝั่งประเทศลาวก็ทำได้ ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะค่ะ ที่เที่ยวอุบลราชธานีเด่น ๆ อาทิ สามพันโบก, หาดชมดาว, อุทยานแห่งชาติผาแต้ม, ภูอานม้า, วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว, วัดพระธาตุหนองบัว, เขมราฐ, หาดหงส์, ล่องแพเขื่อนสิรินธร, อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย, ขัวน้อย, อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นต้น
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางอุบลราชธานี มีรถไฟให้บริการ 4 แบบ คือ เร็ว, ด่วน, ด่วนพิเศษ และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่เวลา 05.45 - 22.45 น.
ราคาค่าโดยสาร : 205-1,520 บาท
9. สุราษฎร์ธานี
จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของเมืองไทย เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะเป็นที่ตั้งทั้งเกาะสวย ๆ และภูเขาอันโดดเด่น เมื่อมาถึงสุราษฎ์ธานีแล้วคุณสามารถเลือกได้ว่าจะไปเที่ยวทะเล หรือภูเขา หากไปทะเลก็มีทะเลให้เลือกมากมาย ทั้งเกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน หมู่เกาะอ่างทอง ฯลฯ หรือถ้าจะไปเที่ยวภูเขาแบบสวยปังก็มุ่งตรงไปได้เลยที่เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลานนั่นล่ะ หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่าเขาสกนั่นเอง บอกเลยว่าเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันคงไม่พอสำหรับจังหวัดนี้ ใครมีโอกาสไปเที่ยวแล้วก็วางแผนเที่ยวให้หมดไปเลย
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางสุราษฎร์ธานี มีรถไฟให้บริการ 4 แบบ คือ เร็ว, ด่วน, ด่วนพิเศษ, และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่เวลา 08.05 - 22.50 น.
ราคาค่าโดยสาร : 217-1,579 บาท
10. เชียงใหม่
เชียงใหม่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังสวยงามตลอดกาลจริง ๆ ไม่ว่าจะไปเที่ยวฤดูกาลไหนก็มีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ไปเยือนไม่รู้เบื่อ เพียงแค่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ก็มีทั้งวัดวาอาราม ตลาดกลางคืน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ให้เลือกไปเที่ยวชมไม่ซ้ำแบบ ไหนจะอำเภออื่น ๆ อีกที่มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสวยงามอลังการไว้รอ เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดที่หาความสุขได้จากธรรมชาติและวัฒนธรรมในทุกตารางนิ้วจริง ๆ
แหล่งท่องเที่ยวเชียงใหม่ที่น่าสนใจ อาทิ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์, เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล, อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า, อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์, ดอยอ่างขาง, วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร, วัดพันเตา, วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร, ถนนคนเดินวัวลายและประตูท่าแพ, วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร, อุทยานหลวงราชพฤกษ์, นิมมานเหมินทร์ เป็นต้น
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางเชียงใหม่ มีรถให้บริการ 4 แบบ คือ ด่วน, ด่วนพิเศษ, เร็ว และด่วนพิเศษ CNR
ราคาค่าโดยสาร : 271-1,653 บาท
* ด่วนพิเศษ CNR คือ รถไฟใหม่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
*** สามารถตรวจสอบเที่ยวรถไฟและราคาตั๋วได้ที่ railway.co.th
***** บางเส้นทางมีรถไฟฟรี
******* สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 1690
มีแต่เส้นทางน่าเที่ยวทั้งนั้นเลยค่ะ ซึ่งแต่ละเส้นทางก็มีรถไฟให้เราเลือกหลากหลายแบบ หลากหลายประเภทที่นั่ง ได้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ใครยังไม่เคยนั่งรถไฟ ต้องไปลองกันสักครั้งนะคะ :)
หมายเหตุ : ราคาและรอบเวลาเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อนการเดินทาง
ขอขอบคุณข้อมูล
railway.co.th
การเดินทางท่องเที่ยวในไทย ปัจจุบันมีวิธีการเดินทางในหลากหลายรูปแบบ ทั้งรถโดยสารประจำทาง รถตู้โดยสารประจำทาง เครื่องบิน เรือ และรถไฟ แต่ถ้าถามว่าการเดินทางวิธีไหนที่จะเป็นประสบการณ์สุดพิเศษ คงต้องบอกว่าการเดินทางด้วยรถไฟนี่แหละที่ตอบโจทย์สุด ๆ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี ก็ยังมีเสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย ลองนึกถึงบรรยากาศที่มีลมเย็น ๆ ตีหน้า สองข้างทางเป็นวิวสวย ๆ ของเมืองไทย มีอาหารอร่อย ๆ ให้ได้กินตลอดทั้งวันทั้งคืน อิ่มท้องจะแตก แต่ก็ยังหยุดกินไม่ได้ ^^ ไหนจะเป็นเสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมทาง เสียงไก่ขันยามเช้า เสียงติ๊ก ๆ ของเครื่องตัดตั๋วของพนักงานเก็บตั๋วบนรถไฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่คุณจะไม่ได้พบเห็นจากการเดินทางในแบบอื่น ๆ และถ้าใครนึกถึงหรืออยากไปสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ วันนี้เรามี 10 เส้นทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟสุดฮิตมาฝากกันค่ะ มีเส้นทางไหนบ้างไปดูกัน
ภาพจาก Vicky Jirayu / Shutterstock.com
เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางของการเดินทางด้วยรถไฟที่ฮอตฮิตตลอดกาลจริง ๆ สำหรับหัวหิน ดินแดนตากอากาศชายทะเลที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีที่นี่ก็มีเสน่ห์ไม่ลบเลือน และยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ผุดขึ้นมาอีกมาย ทั้งตลาดน้ำ สวนน้ำ คอมมูนิตี้มอล และแหล่งช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ไม่เพียงเท่านั้นหัวหินยังมีร้านอาหารทะเลอร่อย ๆ ร้านกาแฟสวยเก๋ และร้านขนมหวานให้ไปลิ้มลองอีกเพียบ และที่สำคัญสถานีรถไฟหัวหินยังสวยงาม น่าไปเที่ยวถ่ายภาพสุด ๆ
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ และปลายทางหัวหิน จะมีรถไฟให้เลือก 4 ประเภท คือ ธรรมดา, เร็ว ด่วน, ด่วนพิเศษ และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่ 08.05 น. - 22.50 น.
ราคาค่าโดยสาร : 44-1,052 บาท
2. ปราณบุรี
ปราณบุรี เป็นอีกหนึ่งเมืองตากอากาศชายทะเลที่สวยงามไม่แพ้หัวหิน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวทะเลแบบเงียบสงบจริง ๆ คุณจะได้ตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นตรงปลายขอบฟ้า กับผืนทะเลสุดกว้างใหญ่ มีเพียงเสียงคลื่นกระทบผืนทรายให้ได้ยินเพื่อกระตุ้นให้ตื่นจากภวังค์ นอกจากนี้ในปราณบุรียังมีที่เที่ยวปราณบุรีสวย ๆ ให้ได้เยือนมากมาย อาทิ หมู่บ้านปากน้ำปราณบุรี, เขื่อนปราณบุรี, หาดเขากะโหลก, วนอุทยานปราณบุรี, ค่ายธนะรัชต์, ตลาดเก่าเมืองปราณ เป็นต้น
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางปราณบุรี จะมีรถไฟเพียงประเภทเดียวคือ เร็ว และมีเพียงรอบเดียวต่อวัน ออกจากกรุงเทพฯ 15.35 ถึงปราณบุรี 20.34 น.
ราคาค่าโดยสาร : 98-491 บาท
3. พระนครศรีอยุธยา
พระนครศรีอยุธยา ไม่ได้เป็นจุดหมายปลายทางสุดฮิตของการนั่งรถไฟเที่ยวเฉพาะคนไทยเท่านั้น ชาวต่างชาติเองก็ยังใช้บริการกันอย่างล้นหลาม เพราะใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง และตั๋วโดยสารยังราคาย่อมเยา สถานีรถไฟก็อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวในเมืองอยุธยา เดินทางไปเที่ยวส่วนไหนก็สะดวก ในเมืองอยุธยาก็มีที่เที่ยวสวย ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา, วัดมหาธาตุ, วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดใหญ่ชัยมงคล, วัดไชยวัฒนาราม เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้น อยุธยายังขึ้นชื่อว่ามีร้านอาหารที่มีเมนูกุ้งแม่น้ำที่อร่อยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยอีกด้วย เที่ยวก็ดี อาหารก็อร่อย แบบนี้ไม่ควรพพลาดเลยค่ะ
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางอยุธยา จะมีรถไฟให้บริการหลากหลายประเภท ได้แก่ ชานเมือง, ธรรมดา, เร็ว, ด่วน, ด่วนพิเศษ และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่ 04.20-22.45 น.
ราคาโดยสาร : 15-916 บาท
4. กาญจนบุรีและน้ำตกไทรโยค
ภาพจาก BaLL LunLa / Shutterstock.com
ถ้าพูดถึงการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ ชื่อแรก ๆ ที่นึกออกก็คือ กาญจนบุรี เพราะที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ "ทางรถไฟสายมรณะ" นั่นเอง ซึ่งเด็กรุ่นใหม่หลาย ๆ คนก็อยากที่จะไปเห็นเส้นทางนี้กันสักครั้ง ซึ่งโดยส่วนมากแล้วนักท่องเที่ยวมักที่จะนั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ (สถานีต้นทางธนบุรี) ไปยังปลายทางคือ น้ำตกไทรโยครน้อย โดยเส้นทางนี้จะผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแคว และถ้ำกระแซด้วย ที่สถานีสะพานข้ามแม่น้ำแควรถไฟจะจอดประมาณ 10 นาที ให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปถ่ายรูปและเดินชมรอบ ๆ หรือใครจะลงที่สถานีนี้เพื่อเที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรีก่อนไปเยือนน้ำตกไทรโยคน้อยกับขบวนรถไฟในรอบถัดไปก็ได้
ส่วนที่น้ำตกไทรโยคน้อย นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมน้ำตก นั่งกินข้าวริมน้ำตก แล้วไปพักผ่อนตามรีสอร์ทริมแม่น้ำแควน้อย หรือถ้าใครอึดมากพอ ก็สามารถนั่งรถโดยสารประจำทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ได้วันนั้นเลยค่ะ
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ (สถานีธนบุรี) ปลายทางน้ำตก จะมีรถไฟให้บริการประเภทเดียว คือ ธรรมดา โดยจะมีสองรอบ คือ 07.50 น. และ 13.55 น.
ราคาค่าโดยสาร : 39 บาท
5. ลพบุรี และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
จังหวัดลพบุรี เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายแบบ ยิ่งช่วงปลายปียิ่งน่าท่องเที่ยว เพราะทุ่งทานตะวันจะบานสะพรั่งไปทั่วทั้งหุบเขา อากาศก็เย็นสบาย น่าท่องเที่ยวมาก ๆ นอกจากนี้ก็ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ ให้ได้ไปเช็กอินกัน อาทิ สวนรุกขชาติน้ำตกวังก้านเหลือง, โอเอซิสฟาร์ม, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์, พระนารายณ์ราชนิเวศน์, วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ, พระปรางค์สามยอด เป็นต้น และหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของลพบุรีที่จะไม่พุดถึงไม่ได้เลย ก็คือ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีทุ่งทานตะวันให้ได้ชมกันในช่วงหน้าหนาวด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ยังมีเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งมักจะเปิดให้ใช้บริการเฉพาะโอกาสพิเศษเท่านั้น และในปีนี้ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 - มกราคม 2561 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ รถไฟเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางลพบุรี จะมีรถไฟให้บริการหลายแบบ คือ ชานเมือง, ธรรมดา, เร็ว, ด่วน, ด่วนพิเศษ และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่เวลา 04.20 - 22.00 น.
ราคาค่าโดยสาร : 28-973 บาท
6. เมืองโพธาราม และราชบุรี
จังหวัดราชบุรี เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ซ่อนสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ไว้เพียบเลยค่ะ ในเมืองราชบุรี หรือเมืองโพธารามต่างก็มีแหล่งที่เที่ยวหลากหลายแบบ ใครที่ชอบความเป็นเมืองเงียบ ๆ ชอบเดินชมเมืองกับบ้านเรือนเก่าแก่ จะต้องถูกใจราชบุรีแน่นอน ในเมืองโพธารามก็มีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ เพียบ อาทิ สุนทรีแลนด์ แดนตุ๊กตา, Secret Space, พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน, วัดพระศรีอารย์ เป็นต้น
ส่วนในเมืองราชบุรีก็มีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติราชบุรี, วัดอรัญญิกาวาส, ร้านกาแฟอาตี๊ โกปี้, ก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม่ม, อุทยานหินเขางู, Tao Hong Tai : d Kunst, โรงงานเซรามิค เถ้าฮงไถ่, วัดมหาธาตุ, เขาแก่นจันนทร์, ร้านโซวเจ็งหลี เป็นต้น
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางโพธาราม มีรถไฟให้บริการ 2 แบบ คือ ธรรมดา และเร็ว มี 2 รอบ คือ 09.20 น. และ 15.35 น. ส่วนต้นทางกรุงเทพฯ - ปลายทางราชบุรี มีรถไฟให้บริการ 4 แบบ คือ ธรรมดา, เร็ว, ด่วนพิเศษ และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่เวลา 08.05-22.50 น.
ราคาค่าโดยสาร : เส้นทางโพธาราม เริ่มต้น 21-338 บาท และเส้นทางราชบุรี เริ่มต้น 25-960 บาท
7. ปากช่องและเขาใหญ่
ปากช่อง เป็นอำเภอที่สวยงามมากที่สุดของจังหวัดนครราชสีมา ด้วยเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นอุทยานที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย และยังมีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ ในตัวเมืองปากช่องเองก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวดี ๆ ร้านอาหารอร่อย ๆ ให้ไปเยือนอีกมากมาย และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่รายล้อมรอบ ๆ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อีกนับไม่ถ้วน เรียกได้ว่าเป็นเมืองสวรรค์ของธรรมชาติเลยล่ะ
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางปากช่อง มีรถไฟให้บริการ 5 แบบ คือ ธรรมดา, เร็ว, ด่วน, ด่วนพิเศษ และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่ 05.45 - 22.45 น.
ราคาค่าโดยสาร : 36-1,011 บาท
8. อุบลราชธานี
ภาพจาก Miraki Samaru / Shutterstock.com
จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติอุดมสมบูรณ์สุด ๆ มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติหลากหลายแบบ รวมทั้งยังเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ ดังจะเห็นได้จากการพบหลักฐานเกี่ยวกับยุคโบราณมากมาย ช่วงหน้าหนาวก็ยังมีทุ่งดอกไม้ให้ไปยลกันอย่างจุใจ เที่ยวอุบลฯ จนอื่มใจแล้วอยากจะข้ามไปเที่ยวฝั่งประเทศลาวก็ทำได้ ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะค่ะ ที่เที่ยวอุบลราชธานีเด่น ๆ อาทิ สามพันโบก, หาดชมดาว, อุทยานแห่งชาติผาแต้ม, ภูอานม้า, วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว, วัดพระธาตุหนองบัว, เขมราฐ, หาดหงส์, ล่องแพเขื่อนสิรินธร, อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย, ขัวน้อย, อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นต้น
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางอุบลราชธานี มีรถไฟให้บริการ 4 แบบ คือ เร็ว, ด่วน, ด่วนพิเศษ และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่เวลา 05.45 - 22.45 น.
ราคาค่าโดยสาร : 205-1,520 บาท
9. สุราษฎร์ธานี
จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของเมืองไทย เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะเป็นที่ตั้งทั้งเกาะสวย ๆ และภูเขาอันโดดเด่น เมื่อมาถึงสุราษฎ์ธานีแล้วคุณสามารถเลือกได้ว่าจะไปเที่ยวทะเล หรือภูเขา หากไปทะเลก็มีทะเลให้เลือกมากมาย ทั้งเกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน หมู่เกาะอ่างทอง ฯลฯ หรือถ้าจะไปเที่ยวภูเขาแบบสวยปังก็มุ่งตรงไปได้เลยที่เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลานนั่นล่ะ หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่าเขาสกนั่นเอง บอกเลยว่าเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันคงไม่พอสำหรับจังหวัดนี้ ใครมีโอกาสไปเที่ยวแล้วก็วางแผนเที่ยวให้หมดไปเลย
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางสุราษฎร์ธานี มีรถไฟให้บริการ 4 แบบ คือ เร็ว, ด่วน, ด่วนพิเศษ, และด่วนพิเศษ CNR มีรอบตั้งแต่เวลา 08.05 - 22.50 น.
ราคาค่าโดยสาร : 217-1,579 บาท
10. เชียงใหม่
เชียงใหม่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังสวยงามตลอดกาลจริง ๆ ไม่ว่าจะไปเที่ยวฤดูกาลไหนก็มีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ไปเยือนไม่รู้เบื่อ เพียงแค่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ก็มีทั้งวัดวาอาราม ตลาดกลางคืน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ให้เลือกไปเที่ยวชมไม่ซ้ำแบบ ไหนจะอำเภออื่น ๆ อีกที่มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสวยงามอลังการไว้รอ เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดที่หาความสุขได้จากธรรมชาติและวัฒนธรรมในทุกตารางนิ้วจริง ๆ
แหล่งท่องเที่ยวเชียงใหม่ที่น่าสนใจ อาทิ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์, เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล, อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า, อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์, ดอยอ่างขาง, วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร, วัดพันเตา, วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร, ถนนคนเดินวัวลายและประตูท่าแพ, วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร, อุทยานหลวงราชพฤกษ์, นิมมานเหมินทร์ เป็นต้น
เส้นทางรถไฟ : ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางเชียงใหม่ มีรถให้บริการ 4 แบบ คือ ด่วน, ด่วนพิเศษ, เร็ว และด่วนพิเศษ CNR
ราคาค่าโดยสาร : 271-1,653 บาท
* ด่วนพิเศษ CNR คือ รถไฟใหม่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
*** สามารถตรวจสอบเที่ยวรถไฟและราคาตั๋วได้ที่ railway.co.th
***** บางเส้นทางมีรถไฟฟรี
******* สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 1690
มีแต่เส้นทางน่าเที่ยวทั้งนั้นเลยค่ะ ซึ่งแต่ละเส้นทางก็มีรถไฟให้เราเลือกหลากหลายแบบ หลากหลายประเภทที่นั่ง ได้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ใครยังไม่เคยนั่งรถไฟ ต้องไปลองกันสักครั้งนะคะ :)
หมายเหตุ : ราคาและรอบเวลาเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อนการเดินทาง
ขอขอบคุณข้อมูล
railway.co.th