สร้างบุญสร้างกุศล ไม่ต้องใช้เงินก็ได้เพียง “ขัดห้องน้ำวัด” ก็เป็นการสร้างบุญอันยิ่งใหญ่แล้ว ช่วยให้ชีวิตเจอแต่เรื่องดีๆ มีโชคเข้ามาตลอด

ถ้าคิดถึงเรื่องการทำบุญ สร้างกุศลก็ย่อมจะคิดถึงวัดเป็นอันดับต้นๆ เลย บางคนก็คิดถึงการถวายสังฆทาน การบริจาคเงินให้วัด ใครบริจาคเยอะก็ได้เยอะซึ่งมันก็เป็นการทำบุญเหมือนกัน แต่ว่าสำหรับคนที่ไม่มีทุนทรัพย์เยอะ ไม่สะดวกในเรื่องการบริจาคก็ยังมีวิธีการสร้างบุญกุศลที่ดีอีกเหมือนกันนะ นั่นคือการใช้แรงกายของเราช่วยเหลือวัด ช่วยเหลือผู้อื่นนั่นเอง เรียกว่า เวยยาวัจจมัย เป็นหนึ่งในบุญกิริยาวัตถุ 10 สำหรับการช่วยเหลือผู้อื่นในงานที่ชอบ ก็คืองานที่ถูก ที่ดีนั่นแหละ ขัดห้องน้ำวัด ล้างห้องน้ำวัดก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน

ขัดห้องน้ำวัด

เวยยาวัจจมัย คืออะไร

ความหมายอธิบายโดยพระไพศาล วิสาโล ได้ให้ไว้ว่า เวยยาวัจจมัยนี้ หมายถึงการทำบุญด้วยการขวนขวาย รับใช้ ช่วยเหลือส่วนรวม การดูแลสิ่งแวดล้อม รักษาสมบัติของสาธารณะ และยังชวนผู้อื่นให้ทำด้วยก็ยิ่งจะดีเหมือนกัน เป็นการทำแบบจิตอาสา เวลาใครเดือดร้อนก็คอยให้การช่วยเหลือ อาสาช่วยงานคนอื่น ถ้าเข้าวัดก็กวาดลานวัด ล้างห้องน้ำ และอื่นๆ ที่ทำได้ ย่อมถือว่าเป็นการบำเพ็ญเวยยาวัจจมัยเหมือนกัน

ขัดห้องน้ำวัด

อานิสงส์จากการขัดห้องน้ำวัด

มีเรื่องที่พระอาจารย์ท่านเล่าให้ฟังถึงอานิสงส์การทำบุญด้วยการขัดห้องน้ำวัดว่า ในสมัยพุทธกาล มหาเศรษฐีสามีภรรยาแห่งพระนครโกสัมพีมีบุตรนามว่า “พากุละ” หลังจากเกิดได้เพียง 5 วัน มารดาบิดาพร้อมด้วยเครือญาติ ได้พา เ ด็ ก น้อยไปอาบน้ำ ที่แม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างที่คนใช้กำลังอาบน้ำให้อยู่นั้น มีปลาตัวใหญ่ว่ายผ่านมา เห็นก็เข้าใจว่าเป็นอาหาร จึงกลืนเข้าไปในท้องแล้วว่ายน้ำหนีไป

สร้างความเสียใจ แก่มารดาและบิดาเป็นอย่างยิ่ง ด้วยอำนาจบุญญาธิการของ เ ด็ ก พากุล เมื่อเข้าไปอยู่ในท้องปลาก็ไม่ได้รับอัดรายแต่อย่างใด กลับนอนสบายเหมือนอยู่บนที่นอนธรรมดา ในทางกลับกัน ปลายักษ์กลับรู้สึก เ ดื อ ด ร้ อ น กระวนกระวาย เที่ยวแหวกว่ายไปตามกระแสน้ำ จนติดตาข่ายของชาวประมงที่อาศัยในนครพาราณสี สามีภรรยามหาเศรษฐีแห่งเมืองพาราณสีซื้อปลายักษ์ตัวนี้ไป

หลังจากเปิดท้องปลา และพบ เ ด็ ก น้อยนอนอยู่ในนั้น ก็เกิดความรักใคร่ราวกับว่าเป็นบุตรของตน จึงเลี้ยงดูพากุละเป็นอย่างดี ข่าวของ เ ด็ ก น้อยในท้องปลาแพร่มาถึงเมืองโกสัมพี หลังเศรษฐีและภรรยาทราบเรื่อง ก็รู้ทันทีว่าเป็นบุตรชายของตน จึงรีบเดินทางมายังกรุงพาราณสีเพื่อขอคืน แต่เศรษฐีแห่งเมืองพาราณสีไม่ยอมคืนให้ พร้อมบอกว่า “เราเป็นผู้ซื้อปลาตัวนี้ ดังนั้นที่อยู่ใน ค ร ร ภ์ ของปลา ก็ถือเป็นสมบัติของเราด้วยเช่นกัน” เมื่อตกลงกันไม่ได้ เศรษฐีทั้งสองฝ่ายจึงได้ถวายฎีกาต่อพระเจ้าพรหมทัตผู้มีปัญญามาก

พระองค์ทรงวินิจฉัยว่า “ เ ด็ ก น้อยผู้นี้เป็นผู้มีบุญญาธิการมาก พ่อแม่เพียงสองคนไม่สามารถเลี้ยงดูเขาได้ จึงตัดสินให้ผู้นี้มีบิดา 2 คนและมารดา 2 คน พร้อมให้ทั้งสองตระกูลช่วยกันเลี้ยงดู โดยผลัดกันเลี้ยงคราวละ 4 เดือน”

ตั้งแต่นั้นเศรษฐีทั้งสองตระกูลก็เลี้ยงดู เ ด็ ก น้อยเป็นอย่างดี พากุละเสวยสุขในทรัพย์สมบัติจนอายุ 80 ปี เป็นเวลาเดียวกับที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาแสดงธรรมที่เมืองโกสัมพี ท่านพากุละจึงตามไปเข้าเฝ้าและฟังพระธรรมเทศนาของพระพุทธองค์ พอฟังจบก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาบรรลุเป็นพระโสดาบันในทันที

ขัดห้องน้ำวัด

จากนั้นท่านพากุละจึงทูลขอบรรพชาอุปสมบท หลังปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเพียง 7 วันก็บรรลุพระอรหันต์ แม้พระพากุละจะมีอายุมากถึง 80 ปีแล้ว แต่ท่านก็ปฏิบัติกิจสงฆ์ เช่น กวาดลานวัด ทำความสะอาดวัด ขัดห้องน้ำไม่เคยขาด อีกทั้งยังไม่เคยบ่นปวดหลัง สร้างความสงสัยในหมู่พระสงฆ์ยิ่งนัก พระอานนท์จึงกราบทูลถามพระพุทธเจ้า จึงทราบว่า เมื่อชาติก่อนพระพากุละก่อกรรมดีไว้มาก ท่านชอบสร้างห้องน้ำถวายวัดบ้าง สร้างห้องน้ำสาธารณะให้ผู้อื่นได้ใช้บ้าง

อีกทั้งยังชอบทำความสะอาดห้องน้ำเป็นนิจ จึงส่งผลให้ท่านเสวยบุญในชาตินี้ พระพากุละดับขันธปรินิพพานด้วยวัย 160 ปี ก่อนนิพพาน ท่านได้เข้าเตโชสมาบัตินั่งนิพพาน ท่ามกลางภิกษุสงฆ์เมื่อท่านนิพพานแล้ว เตโชธาตุก็บังเกิดเป็นไฟไห-ม้สรีระ ร่างกายของท่านให้หมดไป ณ ที่นั้นเอง เวยยาวัจจมัย ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรม พระครูโชติวัตรวิมล เจ้าอาวาสวัดคลองตาลอง สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนครราชสีมา แห่งที่ 20 พูดถึงงานที่วัดแห่งนี้ต้องการอาสาสมัครมาช่วยทำงานว่า ถ้าสนใจจะมาทำบุญแบบลงแรงที่วัดคลองตาลอง

อาตมาอยากให้ช่วยทำความสะอาดห้องน้ำ เพราะห้องน้ำที่วัดมีมากกว่า 500 ห้องเพื่อรองรับผู้ปฏิบัติธรรมที่มีจำนวนมาก บางคอร์สมากัน 3,000 กว่าคนก็มี “การทำบุญด้วยการขัดห้องน้ำนั้น เป็นการทำงานอย่างต่ำแต่ใจสูงผู้ที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่ส่วนใหญ่ถ้าปฏิบัติไม่ได้ อาตมาจะแนะนำให้ไปขัดห้องน้ำ ขัดไปอธิษฐานจิตไปด้วยเผื่อแผ่ให้ตัวเอง ให้พ่อแม่ และคนที่รัก พอขัดสัก 2–3 ห้อง แล้วกลับมานั่งสมาธิจะได้ผลดีขึ้น หรือ เรียกว่าเห็นผลทันตาก็ว่าได้”

อ่านจบแล้วหวังว่าคุณจะมองเห็นการทำบุญ สร้างกุศลแบบที่ง่ายๆ แต่ว่าคนส่วนใหญ่มักจะคิดไม่ถึงกัน ใครที่มีเวลาว่างก็ไปวัดทำกิจกรรมอาสา ล้างห้องน้ำ กวาดลานวัด ช่วยเหลือวัดในด้านอื่น ๆ โดยไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินก็ได้ เพียงแต่มีใจ มีแรงที่ตั้งใจอยากจะทำบุญจริงๆ ยังไงก็ย่อมจะได้บุญแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : giftcoded.info , postsara