นิตยสารไทม์ยกให้ โดนัลด์ ทรัมป์
ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเป็นบุคคลแห่งปี 2016 ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 90
ที่นิตยสารมีการจัดอันดับบุคคลแห่งปี โดยระบุว่า ทรัมป์ทำให้พลเมืองสหรัฐแบ่งออกเป็น
2 ฝ่าย และมีอิทธิพลอย่างมากทั้งต่อผู้ที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนทรัมป์
โดยกลุ่มผู้สนับสนุนมองว่า
ชัยชนะของทรัมป์เป็นการเอาชนะความไม่เท่าเทียมทางชนชั้น
และนำพาสหรัฐสู่ยุคแห่งความเปลี่ยนแปลง ขณะที่ผู้ไม่สนับสนุนมองว่า
ทรัมป์เป็นผู้ทำลายบรรทัดฐานสังคมแบบเดิม
ซึ่งสร้างความเกลียดชังทั้งการเหยียดเชื้อชาติและเพศสภาพ
รวมถึงปลุกปั่นกระแสชาตินิยมมีความรุนแรงยิ่งขึ้น
ไทม์ ระบุว่า
นับตั้งแต่สงครามอิรัก ชาวอเมริกันมีความรู้สึกว่าสหรัฐกำลังย่ำแย่ลง
ซึ่งส่งผลให้ผู้สมัครหลายคน เช่น เบอร์นี แซนเดอร์
ผู้สมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมเครต ประณามความละโมภของบรรดาเศรษฐี หรือ
มาร์โค รูบิโอ ผู้สมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกัน ระบุว่า
สหรัฐกำลังสูญเสียอเมริกันดรีมไป
แม้โอบามาจะพาเศรษฐกิจประเทศฟื้นจากวิกฤตเศรษฐกิจปี
2008 ซึ่งส่งผลให้อัตราว่างงานของสหรัฐพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 10%
เมื่อเดือนต.ค. 2009 ลงลงเหลือ 4.6% ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม โรเบิร์ต
ชาปิโร นักเศรษฐศาสตร์หนึ่งในทีมหาเสียงของบิล คลินตัน ในปี 1992 ระบุว่า
ระหว่างปี 2001-2012 ครอบครัวผู้มีรายได้ปานกลาง
ซึ่งมีหัวหน้าครอบครัวเป็นผู้ไม่มีการศึกษาระดับปริญญากำลังล้มเหลว
รวมถึงชาวอเมริกันส่วนมากยังมีรายได้น้อยกว่าค่ากลาง
แต่ไม่มีคุณสมบัติขอรับการช่วยเหลือจากรัฐในฐานะผู้มีรายได้น้อย
ด้านทรัมป์ กล่าวขอบคุณนิตยสารไทม์ผ่านการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ในรายการ ทูเดย์ ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี
"ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง มันมีความหมายสำหรับผมมาก" ทรัมป์ กล่าว
ที่มา : Posttoday