เมื่อได้เข้าใจ ก็จะมีความสุข ใจสงบมากขึ้นเยอะ

เมื่อได้เข้าใจ ก็จะมีความสุข ใจสงบมากขึ้นเยอะ

เชื่อว่าทุกๆท่านก็เคยเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเรามีความรู้สึกที่ว่าน้อยใจ ไม่พอใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น จนทำให้ความสุขในชีวิตของตัวคุณเองค่อยๆที่จะลบเลือนหายไป ซึ่งในวันนี้เราได้มีแนวความคิดที่จะเปลี่ยนความคิดของคุณให้เป็นคนที่ใจเย็น หากคุณเข้าใจ จะรู้สึกไม่อยา กโก ร ธใครเลย

เรื่องราวมีอยู่ว่า ที่วัดแห่งหนึ่ งมีพระรูปหนึ่ ง ท่านใดปลูกต้นกล้วยไม้เอาไว้ คอยดูแลรดน้ำดูแลเป็นอย่างดี เฝ้ามองเห็นการเจริญเติบโตในทุกวัน แต่มาวันหนึ่ งหลว งพ่อท่านมีธุระที่จะต้องไปต่างจังหวัดนานเป็นเวลาหลายวัน จึงได้ฝากให้เณ รที่วัดช่วยดูแลต้นกล้วยไม้แทนระหว่างที่ไม่อยู่ ซึ่งเณ รผู้นี้ก็ได้ดูแลใส่ใจต้นกล้วยไม้เป็นอย่างดี คอยรดน้ำเช้าเย็น

เวลาได้ผ่ านไปหลายวัน เณ รมีธุระต้องออกไปนอกวัด ก่อนที่จะไปจึงได้นำกระถางต้นกล้วยไม้ไปไว้ที่บริเวณริมหน้าต่าง เพื่อที่จะได้รับแสงแดด แต่ในวันนั้นเองก็ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ลมพายุพัดกระถางต้นกล้วยไม้ตกลงมาแตก ดอกที่กำลังจะเบ่งบานก็หักออกจากก้านจนหมด เมื่อเณ รกลับมาที่วัดและได้เห็นภาพกล้วยไม้ตรงหน้าก็ตกใจอย่างมาก และคิดในใจว่าจะต้องถูกหลว งพ่อท่านตำหนิเอาแน่ๆ

และเมื่อหลว งพ่อได้เดินทางกลับมาจากวัด เณ รก็ได้เล่าความจริงทั้งหมดให้กับหลว งพ่อท่านได้ฟัง และเตรียมใจที่จะโดนดุ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นกับมีความตรงกันข้าม พ่อท่านไม่ได้ว่าอะไรเลย จึงทำให้เณ รรู้สึกยิ่งกังวลใจเป็นอย่างมาก

หลว งพ่อท่านหันมายิ้มและพูดออกมาว่า “ ข้าปลูกกล้วยไม้เอาไว้ชื่นชม…ไม่ได้ปลูกเอาไว้เพื่อที่จะโ ก รธใคร” เมื่อนั้นได้ฟังในก็เข้าใจในสิ่งที่ท่านสอนในทันที ถึงแม้จะเป็นเพียงคำง่ายๆแต่กลับเป็นคำที่ลึกซึ้ง มองเห็นสัจธรรมในชีวิตของคนเรา หากได้มาจากปล่อยวางไม่เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง ไม่ยึดติดกับสิ่งของ ก็จะได้เห็นความสุขที่แท้จริง

เหมือนกับมนุษย์คนเราทุกคนต่างก็ต้องเคยทำในเรื่องที่ผิดพลาดในชีวิตกันบ้าง บางเรื่องเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่จำเป็นต้องเก็บมาคิดหรือเป็นกังวลใจ จะต้องมานั่งโกรธข้ามวันข้ามเดือน ถนอมน้ำใจรักษาน้ำใจในตอนนี้ ดีกว่าจะต้องมานั่งบอกรักในตอนที่เขาไม่ได้ยิน ไม่รับรู้ เราควรปล่อยวาง และความสุขแท้จริงก็จะอยู่ตรงหน้าคุณ

ขอบคุณข้อมูลจาก : bitcoretech