“ซองกันชื้น” ที่ใส่มาในถุงขนม ไม่ต้องโยนทิ้ง เก็บไว้ใช้ ช่วยให้ชีวิตคุณสบายขึ้น

“ซองกันชื้น” ที่ใส่มาในถุงขนม ไม่ต้องโยนทิ้ง เก็บไว้ใช้ ช่วยให้ชีวิตคุณสบายขึ้นอีกเยอะ

เชื่อว่าใครก็คงต้องเคยเห็นเจ้า “ซองซิลิกาเจล” หรือ ซองกันชื้น ที่บรรจุเม็ดกลมๆ ใสๆ ที่เรียกว่า silicon dioxide ที่แถมมาทุกครั้ง หลังซื้อขนม หรือข้าวของเครื่องใช้เป็นประจำ หลายคนอาจเลือกที่จะทิ้งพวกมันไป แต่ความจริงแล้วเจ้าซองเล็กๆ นี้มีประโยชน์มากกว่าที่คิด

ขอแนะนำว่าครั้งต่อไป ให้คุณลองเก็บไว้ เพราะซองกันชื้นเหล่านั้นมีประโยชน์กว่าที่คุณคิดและไม่เป็นอันตราย ดังนั้นแล้ว เรามาดูกันเลยดีกว่าว่า เจ้าซองซิลิกาเจลนี้ สามารถนำมาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง มาดูพร้อมกันเลย

1. กำจัดฝ้าหน้ารถ

หากผู้ขับขี่รถยนต์ท่านไหนเคยประสบกับภาวะฝ้าขึ้นกระจกรถเป็นคราบในช่วงอากาศหนาวๆ หรือฝนตกมาบ้างแล้ว การใช้ซองซิลิกาเจลวางไว้คอนโซลหน้ารถ ถือเป็นการแก้ปัญหานี้ได้ เพราะมันจะช่วยลดความชื้นในรถทำให้กระจกรถใสขึ้นนั่นเอง

2. ลดความชื้นและกลิ่นอับในกระเป๋าและรองเท้าเดินทาง

ความชื้นและกลิ่นอับในกระเป๋า น่าจะเป็นสิ่งที่นักเดินทางเผชิญกัน สำหรับการเก็บเสื้อผ้าที่เปียกไปในกระเป๋า แล้วทำให้เสื้อผ้าชื้นอื่นๆ พลอยอับชื้นไปด้วย วิธีการง่ายๆ ก็คือการเก็บเสื้อผ้าที่เปียกนั้นๆ แยกใส่ถุงซิปล็อคหรือถุงที่ปิดแน่นหนาแล้วใส่ซองซิลิกาเจลเข้าไป

เท่านี้นอกจากกันความชื้นออกสู่ภายนอกไปยังข้าวของอื่นๆ แล้ว ยังลดความอับชื้นเสื้อผ้านั้นๆ รวมถึงป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย ทั้งนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับรองเท้าที่พึ่งเปียกชื้นได้มาได้เหมือนกัน

3. เพิ่มอายุการใช้งานเครื่องสำอาง

บางครั้งกระเป๋าเครื่องสำอางของสาวๆ ก็อาจจะมีความชื้นสะสม จนทำให้เครื่องสำอางบางชนิดเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร แต่ปัญหาเหล่านี้กำลังจะหมดไป เพียงแค่ลองใส่ซองซิลิกาเจลในกระเป๋าเครื่องสำอางของคุณ เท่านี้… ก็ช่วยยืดอายุของเครื่องสำอางได้ง่ายๆ แล้ว

4. เอาไปใช้ทำดอกไม้แห้ง

แม้การเก็บรักษาดอกไม้แห้งจะมีหลายวิธี ทั้ง ทับในหนังสือ หรือ การแขวนช่อดอกไม้กลับหัวทิ้งไว้ อีกวิธีของการเก็บรักษาดอกไม้ให้คงสภาพไปนานๆ ก็คือ การเก็บดอกไม้ไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ซิลิกาเจลไว้ เท่านี้ดอกไม้แห้งที่คงคุณภาพของเราก็อยู่กับเราไปนานๆ แล้ว

5. ยืดอายุใบมีดโกนให้ยืนยาว

เพราะซองซิลากาเจล มีไว้ดูดความชื้น อันมีสาเหตุมาจากความเปียกชื้นของน้ำ และทำให้แห้งเร็วขึ้น ดังนั้นการเก็บใบมีดโกนจากการสัมผัสความชื้นในอากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสนิม ในถุงที่บรรจุซองซิลิกาเจลก็จะเป็นการรักษาใบมีดโกนให้ใช้ได้คงทนยาวนานยิ่งขึ้น

6. ป้องกันการเกิดคราบหมองและคราบสนิมเครื่องใช้ที่เป็นโลหะอื่นๆ

ไม่ใช่เพียงใบมีดโกนอย่างเดียวเท่านั้นที่ทำมาจากส่วนประกอบของโลหะที่เป็นเหล็ก โลหะชนิดอื่น แม้บางชนิดจะไม่ทำปฏิกริยาจนเกิดสนิม แต่ก็มีโอกาสเกิดคราบหมองกวนใจได้เหมือนกัน ดังนั้นการใช้ซองซิลิกาเจลดูดความชื้น ก็เป็นวิธีการเก็บรักษาเครื่องเรือนเครื่องใช้จากโลกหะหรือเครื่องเงินให้เงาวับที่ดีอย่างหนึ่งเลย

7. ช่วยเก็บรักษาภาพถ่ายให้อยู่กับเราไปนานๆ

เพราะภาพถ่าย ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรเก็บไว้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก ที่สำคัญคือควรหลีกเลี่ยงการเก็บในพื้นที่อับชื้น เพื่อไม่ให้ภาพถ่ายเหล่านั้นเกิดความเสียหาย ดังนั้นการใส่ซองซิลิกาเจลในที่ๆ เราใช้เก็บรูปภาพก็จะเป็นการช่วยดูดความชื้นไม่ให้ภาพถ่ายของเราซีดจางเลือนลางไปนั่นเอง

8. ขจัดกลิ่นอับเอกสาร/หนังสือเก่า

เหล่าหนอนหนังสือน่าจะเคยประสบกับปัญหาการอับชื้นของหนังสือเก่าที่เก็บไว้นานๆ กันมาบ้าง กลิ่นอย่างเดียวไม่ว่า แต่ปัญหานี้ ยังเป็นการทำให้อายุของหนังสือที่รักหรือเอกสารสำคัญสั้นลงด้วย ดังนั้นการหย่อนซองซิลิกาเจลลงไปในตู้เก็บเอกสารหรือชั้นหนังสือ ก็จะเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้เอกสารและหนังสือเกิดความเสียหายนั่นเอง

9. ช่วยรักษาอายุการใช้งานกล้องถ่ายภาพ

หลายครั้งการแบกกล้องถ่ายงานกลางแจ้งที่มีละอองน้ำ ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่างหนึ่งที่เราเลือกได้ ก็คือ การเลือกสถานที่และวิธีเก็บกล้องดีๆ ที่ไม่อับชื้น การใส่ซิลิกาเจลก็ถือเป็นวิธีที่ช่วยทำให้กล้องของเราไม่ต้องเผชิญกับความชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับเลนส์และตัวกล้องเช่นกัน ดังนั้น อย่าลืมพกซองซิลิกาเจลในกระเป๋าหรือที่เก็บกล้องด้วย ก็จะดีมากๆ

10. ถนอมอาหารแห้งให้ยืนยาวขึ้น

นอกจากซองซิลิกาเจลจะสามารถทำหน้าที่ดูดความชื้นให้กับสินค้าที่มันแถมมาแล้ว เมื่อหมดหน้าที่จากสิ่งๆ นั้น ซองซิลิกาเจลก็ยังสามารถเก็บรักษาถนอมอาหารในครัวเราจากความชื้นได้เหมือนกัน (แต่ไม่ใช่ว่า ให้ฉีกซองนำเม็ด silicon dioxide ไปปรุงกับอาหาร) โดยเราสามารภทำการถนอมอาหารได้ โดยการนำซองซิลิกาเจลมาไว้ในกระปุกอาหารแห้งที่ไม่ต้องการความชื้นนั่นเอง แค่นี้เชื้อราก็ไม่ขึ้นอาหารให้เสียก่อนที่เราจะได้กิน

แหล่งที่มา : siamnews.com