7 เทคนิคการเลือกรองเท้าวิ่งที่ถูกต้องสำหรับผู้ชายที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งที่เหมาะกับเท้าของตัวเอง สวมใส่สบาย วิ่งนาน ๆ แล้วไม่เจ็บไม่เมื่อย
เท่าที่สังเกตดูในปัจจุบันนักวิ่งหน้าใหม่บางคนมักใส่รองเท้าผ้าใบธรรมดาหรือรองเท้าสำหรับใส่ออกกำลังทั่ว ๆ ไป วิ่งออกกำลังอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งในความเป็นจริง การใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะกับการวิ่งอาจทำให้เท้าเจ็บหรือทำให้วิ่งได้ไม่เต็มที่ เพราะรองเท้าเหล่านั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับแรงกระแทก สวมใส่ได้นานโดยไม่เมื่อย รวมไปถึงน้ำหนักที่มากเกินไปนั่นเอง ดังนั้นการเลือกรองเท้าวิ่งจึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ ซึ่งกระปุกดอทคอมได้นำวิธีเลือกรองเท้าที่ถูกต้องมาฝากนักวิ่งมือใหม่และนักวิ่งขาประจำที่คิดอยากเปลี่ยนรองเท้ามาฝากกันด้วยครับ
เริ่มจากเช็กรูปเท้าของตัวเองก่อนว่าเป็นแบบไหน เพราะแต่ละคนรูปเท้าจะต่างกัน คุณอาจใส่รองเท้าแบบเดียวกับคนอื่นไม่ได้ โดยวิธีการสังเกตง่าย ๆ ตามภาพตัวอย่างด้านบน ดังนี้
- หากคุณเป็นคนฝ่าเท้าสูง มีการวางเท้าแบบปกติและข้อเท้าตั้งตรง ให้เลือกรองเท้าวิ่งแบบ Neutral ก็จะช่วยให้วิ่งได้สบายยิ่งขึ้น
- ส่วนคนที่มีฝ่าเท้าปกติ โดยมีการวางเท้าและข้อเท้าอยู่ในลักษณะเดียวกันกับข้อข้างต้น แนะนำให้เลือกรองเท้าวิ่งแบบ Stability ซึ่งรองรับแรงกระแทกได้ดี
- สำหรับคนที่ฝ่าเท้าสูงบวกกับมีข้อเท้าโก่งออกด้านข้าง ส่งผลให้ลงน้ำหนักไปที่ฝ่าเท้าด้านนอกมากกว่าด้านในอย่างเห็นได้ชัด ควรเลือกรองเท้าวิ่งประเภท Cushioned ที่มาพร้อมตัวซัพพอร์ตเท้าซึ่งช่วยลดแรงกระแทกและทำให้การวางเท้าอยู่ในลักษณะปกติ
- ขณะที่คนเท้าแบนจะมีลักษณะของข้อเท้าเอียงเข้าด้านใน ทำให้ฝ่าเท้าด้านนอกยกสูงกว่าด้านใน ให้เลือกรองเท้าวิ่งแบบ Motion Controlled เพราะเป็นรองเท้าที่ดีไซน์มาเพื่อคนเท้าแบนโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของเท้าให้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่แน่ใจว่ารูปเท้าของตัวเองเป็นแบบไหนละก็ คุณสามารถเช็กแบบออนไลน์ได้เช่นกัน โดยทำผ่านเว็บไซต์ runnersworld และ roadrunnersports ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวจะแนะนำรองเท้าวิ่งที่เหมาะกับคุณแบบคร่าว ๆ ให้ด้วย
2. พิจารณาตามรูปแบบการวิ่ง
รูปแบบการวิ่งของคนแบ่งออกเป็น 6 ลักษณะของการวางเท้า ได้แก่
2.1 Normal - คือการวางเท้าทั่วไปของคนส่วนใหญ่ที่ทิ้งน้ำหนักลงที่ส้นเท้าและตรงกลางของปลายเท้า จึงเลือกใส่ได้ทั้งรองเท้าวิ่งแบบ Neutral และ Stability
2.2 Supination - สำหรับการวางเท้าในลักษณะนี้ จะเน้นน้ำหนักไปที่ส้นและปลายเท้าด้านนอก เนื่องจากมีฝ่าเท้าสูง ดังนั้นควรเลือกรองเท้าวิ่งแบบที่มีแผ่นซัพพอร์ตเท้าด้านในหรือที่เรียกว่า Cushioned
2.3 Mild Overpronation - ส่วนการวางเท้าแบบนี้ น้ำหนักจะลงไปที่ส้นเท้าด้านนอกกับปลายเท้าฝั่งนิ้วโป้งจนถึงตรงกลาง โชคดีที่สามารถใส่รองเท้าวิ่งได้ทั้งแบบ Neutral และ Stability
2.4 Moderate Overpronation - คนที่มีฝ่าเท้าแบนมักจะมีลักษณะของการวางเท้าแบบเน้นลงน้ำหนักที่ปลายเท้าด้านในและส้นเท้าด้านนอก แนะนำให้เลือกรองเท้าแบบ Motion Controlled
2.5 Severe Overpronation - เป็นลักษณะการวางเท้าของคนเท้าแบนเช่นเดียวกัน แต่น้ำหนักจะเน้นไปที่ปลายเท้าและส้นเท้าด้านใน หากใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม ก็อาจได้รับบาดเจ็บได้ ซึ่งรองเท้าที่เหมาะกับคุณก็คือรองเท้าวิ่งแบบ Motion Controlled
3. ซื้อรองเท้าที่ร้านขายรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ
ใครที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งดี ๆ สักคู่อยู่ละก็ แนะนำว่าให้เลือกไปร้านที่ขายรองเท้าประเภทนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากมีพนักงานขายที่มีความรู้เกี่ยวกับรองเท้าวิ่งที่สามารถแนะนำรองเท้าที่เหมาะสมกับคุณได้นั่นเอง แต่หากแถวบ้านไม่มีร้านขายรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ ก็สามารถเข้าร้านขายอุปกรณ์กีฬาแทนได้เช่นกัน
4. เวลาที่เหมาะสมกับการเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง
เนื่องจากในช่วงระหว่างวัน เป็นช่วงที่เราเดินไปไหนมาไหนอยู่ตลอด จึงทำให้เท้าขยายตัวอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ช่วงเย็นหรือหัวค่ำเป็นเวลาที่เหมาะกับการซื้อรองเท้าวิ่งที่สุด เพราะคุณจะได้รองเท้าที่พอดีกับเท้าคุณจริง ๆ ไม่ใช่พอใส่วิ่งแล้วบีบเท้าจนวิ่งไม่ได้
5. ไม่แนะนำให้ซื้อรองเท้าคู่ที่พอดีเกินไป
บางคนอาจคิดว่าการเลือกซื้อรองเท้าไซส์ที่พอดีกับรูปเท้าของตัวเองแบบเป๊ะ ๆ จะช่วยให้วิ่งได้ดี ทว่าการเสียดสีของผิวหนังกับรองเท้า อาจทำให้เกิดอาการเจ็บแสบผิวหนังบริเวณเท้าได้ ดังนั้น แนะนำให้เลือกรองเท้าที่มีส่วนปลายยาวกว่านิ้วโป้งประมาณครึ่งนิ้ว ก็จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ดี
6. ทดสอบความยืดหยุ่นของรองเท้าวิ่ง
รองเท้าวิ่งที่ดีควรมีความยืดหยุ่นที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ซึ่งคุณสามารถทดสอบได้ง่าย ๆ เพียงออกแรงดึงปลายรองเท้าด้านหน้าเข้ามาด้านในเบา ๆ หากรองเท้างอตามภาพด้านซ้าย แสดงว่าเป็นรองเท้าวิ่งที่เหมาะสม แต่ถ้างอมาก ๆ แบบภาพด้านขวาให้เลี่ยงไว้จะดีกว่า เพราะอาจทำให้เท้าบาดเจ็บได้นั่นเอง
7. เลือกตามความรู้สึกของตัวเอง
ไม่ว่าใครจะแนะนำรองเท้าวิ่งให้คุณได้ดีขนาดไหน สุดท้ายแล้ว ควรเลือกคู่ที่ใส่แล้วรู้สึกดีและสบายเท้า แนะนำให้ลองรองเท้าวิ่งหลาย ๆ คู่ เดินหรือวิ่งเบา ๆ ภายในร้าน เพื่อดูว่าสบายเท้าหรือไม่ จนกว่าจะได้คู่ที่ถูกใจ
เป็นยังไงบ้างกับวิธีเลือกรองเท้าวิ่งที่เรานำมาฝากกัน ใครที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งดี ๆ สักคู่ก็ลองพิจารณาจากวิธีข้างต้นได้เลย ส่วนใครที่อยากลองวิ่ง แต่ยังไม่รู้ว่าควรวิ่งแบบไหน ก็คลิกไปชมวิธีการวิ่งที่ถูกต้องที่นี่
ข้อมูลจาก fix.com และ rei.com
ภาพจาก Boston Marathon Winner และ fix.com
เท่าที่สังเกตดูในปัจจุบันนักวิ่งหน้าใหม่บางคนมักใส่รองเท้าผ้าใบธรรมดาหรือรองเท้าสำหรับใส่ออกกำลังทั่ว ๆ ไป วิ่งออกกำลังอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งในความเป็นจริง การใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะกับการวิ่งอาจทำให้เท้าเจ็บหรือทำให้วิ่งได้ไม่เต็มที่ เพราะรองเท้าเหล่านั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับแรงกระแทก สวมใส่ได้นานโดยไม่เมื่อย รวมไปถึงน้ำหนักที่มากเกินไปนั่นเอง ดังนั้นการเลือกรองเท้าวิ่งจึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ ซึ่งกระปุกดอทคอมได้นำวิธีเลือกรองเท้าที่ถูกต้องมาฝากนักวิ่งมือใหม่และนักวิ่งขาประจำที่คิดอยากเปลี่ยนรองเท้ามาฝากกันด้วยครับ
1. เช็กรูปเท้าของตัวเอง
เริ่มจากเช็กรูปเท้าของตัวเองก่อนว่าเป็นแบบไหน เพราะแต่ละคนรูปเท้าจะต่างกัน คุณอาจใส่รองเท้าแบบเดียวกับคนอื่นไม่ได้ โดยวิธีการสังเกตง่าย ๆ ตามภาพตัวอย่างด้านบน ดังนี้
- หากคุณเป็นคนฝ่าเท้าสูง มีการวางเท้าแบบปกติและข้อเท้าตั้งตรง ให้เลือกรองเท้าวิ่งแบบ Neutral ก็จะช่วยให้วิ่งได้สบายยิ่งขึ้น
- ส่วนคนที่มีฝ่าเท้าปกติ โดยมีการวางเท้าและข้อเท้าอยู่ในลักษณะเดียวกันกับข้อข้างต้น แนะนำให้เลือกรองเท้าวิ่งแบบ Stability ซึ่งรองรับแรงกระแทกได้ดี
- สำหรับคนที่ฝ่าเท้าสูงบวกกับมีข้อเท้าโก่งออกด้านข้าง ส่งผลให้ลงน้ำหนักไปที่ฝ่าเท้าด้านนอกมากกว่าด้านในอย่างเห็นได้ชัด ควรเลือกรองเท้าวิ่งประเภท Cushioned ที่มาพร้อมตัวซัพพอร์ตเท้าซึ่งช่วยลดแรงกระแทกและทำให้การวางเท้าอยู่ในลักษณะปกติ
- ขณะที่คนเท้าแบนจะมีลักษณะของข้อเท้าเอียงเข้าด้านใน ทำให้ฝ่าเท้าด้านนอกยกสูงกว่าด้านใน ให้เลือกรองเท้าวิ่งแบบ Motion Controlled เพราะเป็นรองเท้าที่ดีไซน์มาเพื่อคนเท้าแบนโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของเท้าให้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่แน่ใจว่ารูปเท้าของตัวเองเป็นแบบไหนละก็ คุณสามารถเช็กแบบออนไลน์ได้เช่นกัน โดยทำผ่านเว็บไซต์ runnersworld และ roadrunnersports ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวจะแนะนำรองเท้าวิ่งที่เหมาะกับคุณแบบคร่าว ๆ ให้ด้วย
2. พิจารณาตามรูปแบบการวิ่ง
รูปแบบการวิ่งของคนแบ่งออกเป็น 6 ลักษณะของการวางเท้า ได้แก่
2.1 Normal - คือการวางเท้าทั่วไปของคนส่วนใหญ่ที่ทิ้งน้ำหนักลงที่ส้นเท้าและตรงกลางของปลายเท้า จึงเลือกใส่ได้ทั้งรองเท้าวิ่งแบบ Neutral และ Stability
2.2 Supination - สำหรับการวางเท้าในลักษณะนี้ จะเน้นน้ำหนักไปที่ส้นและปลายเท้าด้านนอก เนื่องจากมีฝ่าเท้าสูง ดังนั้นควรเลือกรองเท้าวิ่งแบบที่มีแผ่นซัพพอร์ตเท้าด้านในหรือที่เรียกว่า Cushioned
2.3 Mild Overpronation - ส่วนการวางเท้าแบบนี้ น้ำหนักจะลงไปที่ส้นเท้าด้านนอกกับปลายเท้าฝั่งนิ้วโป้งจนถึงตรงกลาง โชคดีที่สามารถใส่รองเท้าวิ่งได้ทั้งแบบ Neutral และ Stability
2.4 Moderate Overpronation - คนที่มีฝ่าเท้าแบนมักจะมีลักษณะของการวางเท้าแบบเน้นลงน้ำหนักที่ปลายเท้าด้านในและส้นเท้าด้านนอก แนะนำให้เลือกรองเท้าแบบ Motion Controlled
2.5 Severe Overpronation - เป็นลักษณะการวางเท้าของคนเท้าแบนเช่นเดียวกัน แต่น้ำหนักจะเน้นไปที่ปลายเท้าและส้นเท้าด้านใน หากใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม ก็อาจได้รับบาดเจ็บได้ ซึ่งรองเท้าที่เหมาะกับคุณก็คือรองเท้าวิ่งแบบ Motion Controlled
3. ซื้อรองเท้าที่ร้านขายรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ
ใครที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งดี ๆ สักคู่อยู่ละก็ แนะนำว่าให้เลือกไปร้านที่ขายรองเท้าประเภทนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากมีพนักงานขายที่มีความรู้เกี่ยวกับรองเท้าวิ่งที่สามารถแนะนำรองเท้าที่เหมาะสมกับคุณได้นั่นเอง แต่หากแถวบ้านไม่มีร้านขายรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ ก็สามารถเข้าร้านขายอุปกรณ์กีฬาแทนได้เช่นกัน
4. เวลาที่เหมาะสมกับการเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง
เนื่องจากในช่วงระหว่างวัน เป็นช่วงที่เราเดินไปไหนมาไหนอยู่ตลอด จึงทำให้เท้าขยายตัวอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ช่วงเย็นหรือหัวค่ำเป็นเวลาที่เหมาะกับการซื้อรองเท้าวิ่งที่สุด เพราะคุณจะได้รองเท้าที่พอดีกับเท้าคุณจริง ๆ ไม่ใช่พอใส่วิ่งแล้วบีบเท้าจนวิ่งไม่ได้
5. ไม่แนะนำให้ซื้อรองเท้าคู่ที่พอดีเกินไป
บางคนอาจคิดว่าการเลือกซื้อรองเท้าไซส์ที่พอดีกับรูปเท้าของตัวเองแบบเป๊ะ ๆ จะช่วยให้วิ่งได้ดี ทว่าการเสียดสีของผิวหนังกับรองเท้า อาจทำให้เกิดอาการเจ็บแสบผิวหนังบริเวณเท้าได้ ดังนั้น แนะนำให้เลือกรองเท้าที่มีส่วนปลายยาวกว่านิ้วโป้งประมาณครึ่งนิ้ว ก็จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ดี
6. ทดสอบความยืดหยุ่นของรองเท้าวิ่ง
รองเท้าวิ่งที่ดีควรมีความยืดหยุ่นที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ซึ่งคุณสามารถทดสอบได้ง่าย ๆ เพียงออกแรงดึงปลายรองเท้าด้านหน้าเข้ามาด้านในเบา ๆ หากรองเท้างอตามภาพด้านซ้าย แสดงว่าเป็นรองเท้าวิ่งที่เหมาะสม แต่ถ้างอมาก ๆ แบบภาพด้านขวาให้เลี่ยงไว้จะดีกว่า เพราะอาจทำให้เท้าบาดเจ็บได้นั่นเอง
7. เลือกตามความรู้สึกของตัวเอง
ไม่ว่าใครจะแนะนำรองเท้าวิ่งให้คุณได้ดีขนาดไหน สุดท้ายแล้ว ควรเลือกคู่ที่ใส่แล้วรู้สึกดีและสบายเท้า แนะนำให้ลองรองเท้าวิ่งหลาย ๆ คู่ เดินหรือวิ่งเบา ๆ ภายในร้าน เพื่อดูว่าสบายเท้าหรือไม่ จนกว่าจะได้คู่ที่ถูกใจ
เป็นยังไงบ้างกับวิธีเลือกรองเท้าวิ่งที่เรานำมาฝากกัน ใครที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งดี ๆ สักคู่ก็ลองพิจารณาจากวิธีข้างต้นได้เลย ส่วนใครที่อยากลองวิ่ง แต่ยังไม่รู้ว่าควรวิ่งแบบไหน ก็คลิกไปชมวิธีการวิ่งที่ถูกต้องที่นี่
ข้อมูลจาก fix.com และ rei.com
ภาพจาก Boston Marathon Winner และ fix.com