เก็บเอาไว้ทำกิน วิธีน้ำเต้าหู้สูตรโบราณ การันตีขายดีไม่ต่ำกว่า 20 โลต่อวัน

เก็บเอาไว้ทำกิน วิธีน้ำเต้าหู้สูตรโบราณ การันตีขายดีไม่ต่ำกว่า 20 โลต่อวัน

ในทุกๆเช้าและในช่วงเวลาตอนเย็นหลังเลิกงาน ระหว่างที่เราเดินกลับบ้าน เรามักจะเจอกับร้านน้ำเต้าหู้เป็นประจำ เรามักจะชินกับภาพคนขายน้ำเต้าหู้ และเราก็เลือกที่จะซื้อกิน เพราะว่ามีราคาถูกไม่แพง ถุงนึงประมาณ 5-6 บาท ถ้าใส่เครื่องก็เพิ่มไปอีก 1-2 บาท

เราเลือกซื้อกินเพราะว่าเราติดใจในรสชาติความอร่อยของน้ำเต้าหู้ แต่บางร้านก็รู้สึกว่าหวานเกินไป รู้สึกว่าไม่ค่อยกลมกล่อม ถ้าเราทำเองได้ที่บ้านจะดีกว่าไหม จะประหยัดกว่าไหม และได้รสชาติที่ตรงตามความต้องการของเราอีกด้วย

สำหรับในวันนี้เรียกได้ว่าเป็นวันดี เราจะมาขอบอกบุญ สูตรการทำน้ำเต้าหู้ คุณสามารถเก็บเอาไว้ทำเองได้ที่บ้าน หรือจะนำไปประกอบเป็นอาชีพของคุณก็ย่อมได้เช่นเดียวกัน

วันนี้เรามาดูวิธีการทำน้ำเต้าหู้สูตรโบราณกัน จะมีวิธีและขั้นตอนอย่างไรบ้างและทำความเข้าใจกันได้เลยนะคะ

สูตรในการทำน้ำเต้าหู้

1. ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม(เป็นถั่วผ่าซีกแล้วก็ได้)

2. น้ำตาลทรายขาวละเอียด 350 กรัม

3. เกลือเสริมไอโอดีน ป่น 1 ช้อนชา

4. น้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

1 ผ้าขาวบาง 2 ผืน เอาไว้กรองกากถั่งเหลือง

2 เครื่องปั่น(เอาไว้ปั่นถั่วเหลืองที่แช่น้ำแล้ว)

3 หม้อ หรือกะละมัง 2 ใบ

ขั้นตอนการทำ

1 เริ่มจากแช่ถั่งเหลืองไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง

2 หลังจากนั้นนำถั่วกรองด้วยตะกร้าพลาสติกขนาดเล็กเพื่อให้สะเด็ดน้ำ

3 ขั้นตอนต่อไปก็นำถั่วเหลืองเข้าเครื่องปั่น เวลาปั่นให้ใส่ถั่วเหลืองประมาณครึ่งโถก็พอ แล้วใส่น้ำสะอาดที่เตรียมไว้โดยใส่พอท่วมเม็ดถั่ว ใช้เวลาปั่นครั้งละประมาณ 2-3 นาทีถั่วก็จะละเอียด

4 นำไปใส่ในหม้อ หรือกะละมังที่เตรียมไว้โดยใช้ผ้าขาวบางกรองกากถั่วเหลือง พอเราปั่นถั่วเหลืองเหลืองจนหมด นำน้ำเต้าหู้ที่ได้จากการกรองครั้งแรก นำไปกรองโดยขาวบางอีกที

5 เสร็จจากขั้นตอนนี้เราก็เอาน้ำเต้าหู้ไปตั้งไฟให้เดือดเปิดไฟให้แรงเลยครับถ้าจะให้หอมก็ใส่ใบเตยซัก 2 ใบ โดยเราต้องคนไปเรื่อยๆ และคอยตักฟองออกให้หมด หรือจะตำๆ ก่อนนิดนึงก็ได้ครับ

6 พอน้ำเต้าหู้เดือด เราหรี่ไฟลงมาแล้วก็ใส่น้ำตาล (แต่สำหรับคนที่จะนำไปขายก็ไม่ต้องใส่น้ำตาล เราค่อยไปเติมน้ำตาลเวลาที่ลูกค้าสั่ง)ใส่เกลือป่น จากนั้นก็เพิ่มไฟให้แรงอีกครั้ง คอยคนไปเรื่อย ๆ พอน้ำเต้าเดือดก็ปิดไฟ ยกน้ำเต้าหู้ไปเทใส่หม้ออีกใบ เพื่อให้ความร้อนลดลง เพื่อจะทานได้ง่ายขึ้น

จบไปแล้วครับกับขั้นตอนการทำน้ำเต้าหู้ ง่ายมากเลยครับ คราวนี้เรามาดูกันว่าต้นทุนต่อการทำ สำหรับถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม ว่าเราต้องใช้ต้นทุนเท่าไหร่

– ถั่วเหลืองซีก 1 กก. ราคา 40 บาท

– น้ำตาลทราย 350 กรัม ราคา ประมาณ 8 บาท

– เกลือ 1 บาท

– ใบเตย 2 บาท

– ค่าแก๊ซประมาณ 9 บาท

– รวมเป็นเงินประมาณ 60 บาท

จากถั่วเหลือง 1 กก. พอกลายเป็นน้ำเต้าหู้แล้วถ้าขายเป็นถุง ๆ ละ 7 บาท จะได้ประมาณ 30-35 ถุง คิดเป็นเงินประมาณ 210-245 บาท

เพราะฉะนั้นจะได้กำไรขั้นต่ำที่ประมาณ 150 บาท ต่อถั่วเหลือง 1 กก. ที่เราเห็นแม่ค้าตามตลาดใหญ่ ๆ ที่เขาขายมานาน เขาทำวันละ 20-40 กก. กำไรวันละ 2-3 พันบาทต่อวันเลยนะครับ

บางคนมีไอเดียหน่อยก็ใส่เครื่องปรุงหลายชนิดมาก ราคาก็อัพขึ้นไปอีกถุงละหลายบาท บางคนก็มีไอเดียในการใส่แก้วภาชนะที่สีสันลวดลายสวยงาม บางคนคิดการใหญ่ก็ขยายสาขาหลายสาขา มองหาทำเลที่คนเดินผ่านเยอะ ๆ ย่านตลาดนัด ตลาดสด หน้าเซเว่น หน้าโรงเรียน ย่านชุมชนที่คนเยอะ ๆ ใช้เวลาสร้างฐานลูกค้าซักหน่อย อดทน ขยัน ช่วงแรกอาจจะมีลูกค้าไม่มากแต่พอผ่านไปซักระยะคุณจะมีฐานลูกค้าแน่นอน อย่าลืมนะครับคนที่เขาขายได้กำไรวันละสองสามพันบาทเขาก็เริ่มแบบคุณนี่แหละ

ในปัจจุบันนี้เราจะต้องหาอะไรที่สร้างความแตกต่าง เพื่อเป็นช่องทางในการทำกิน ช่องทางในการสร้างเงินให้กับตัวเรา อย่างเช่นถ้าลูกค้าซื้อ 3 ถุง เราก็ทำคูปองให้ 1 ใบ เมื่อลูกค้าซื้อครบ และได้คูปอง 10 ใบก็สามารถนำคูปองนั้นมาแลกเป็นน้ำเต้าหู้ของเราได้

เพื่อที่จะเป็นการเอาใจลูกค้า ได้พูดได้คุยกับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เรียกได้ว่าดีทั้งสองฝ่าย ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คุณลองเอาแนวคิดและวิธีการทำน้ำเต้าหู้เหล่านี้ไปใช้กันดูนะคะ บอกเลยว่าจะต้องมีประโยชน์กับคุณแน่

เรียบเรียงโดย : Postsod

ขอขอบคุณ : number1money