จากมีหนี้กลายเป็นมีเก็บเป็นแสน กลับมามีความสุขอีกครั้งใครๆก็ทำได้

จากมีหนี้กลายเป็นมีเก็บเป็นแสน กลับมามีความสุขอีกครั้งใครๆก็ทำได้

มีหลายคนมีหนี้อย่ างแน่นอน แต่ว่าวิธีการจัดการหนี้ของแต่ละคนจะแตกต่างกัน อย ากให้ลองมาอ่านเรื่องราวในบทความนี้ลองดู คุณสามารถนำไปปรับใช้กับตัวเองได้โดยเฉพาะคนที่เป็นหนี้ติดตัวเยอะ ๆ อย่ าเพิ่งท้อ บางทีหนี้มันก็มาจากการใช้ชีวิตของคุณ ลองปรับอะไรบางอย่ างดูสิมันอาจจะช่วยให้คุณกลับมาตั้งตัวได้อีกครั้ง เรื่องราวของชายคนนี้อาจทำให้คุณได้ข้อคิดอะไรกลับมาบ้าง ซึ่งเรื่องของชายคนนี้ก็มีอยู่ว่า

เขาเป็นพนักงานในห้างดังแห่งหนึ่ง แล้วตอนนั้นมีหนี้สินติดตัวก็เหมือน ๆ กับพนักงานทั่วไป ไม่ว่าจะหนี้บัตรเครดิตที่ผ่อนจ่ายของใช้ต่างๆ ในบางเดือนก็แทบจะหมุนเงินไม่ทัน ไม่มีเงินเหลือเก็บเลย โดยเขาได้สร้างหนี้ในปีแรกเป็นการผ่อนมือถือรุ่นใหม่ให้ตัวเองโดยใช้บัตรเครดิต

ส่วนในปีต่อมาเขาก็มีบัตรเครดิตมากกว่า 2 ใบ ช่วงเวลา 4 ปีนั้นเขาทำงานหนักมาก โดยทำโอทีทุกวัน วันหยุดก็ยังทำงานไม่มีพักเลย เพราะว่าต้องหาเงินจ่ายบัตรเครดิต ใช้หนี้ที่ตนเองก่อไว้ หนี้ที่เสียไปกับสิ่งที่ไม่ได้จำเป็นเลย ไม่ว่าจะเป็น มือถือ ทีวี อื่น ๆ ล้วนแต่เป็นของฟุ่มเฟือยทั้งนั้น ซึ่งตอนแรกก็คิดว่ามันจำเป็น แต่ที่ไหนได้ความจริงมันก็แค่อย ากจะมีแบบคนอื่นเขาเท่านั้นเอง

ในวันหนึ่งเขาเลยคิดว่าอย ากจะมีชีวิตใหม่เลยทิ้งบัตรเครดิตทุกใบไปให้หมดเลย รถยนต์ที่ผ่อนไม่ไหวแม้จะทนผ่อนมาหลายปีก็ทำเรื่องคืนรถไป ย้ ายออกจากคอนโดที่เช่าอยู่แพง ๆ เดือนละ 7,000 บาท เปลี่ยนไปอยู่ห้องเช่าเดือนละ 1,500 บาทแถมเป็นห้องน้ำรวมอีกด้วย จากที่ชีวิตเคยกิน ห รูอยู่แพง กินส เ ต็ ก ช า บู กินแต่ของในห้างกับเพื่อน ๆ ทุกอาทิตย์ก็เริ่มเปลี่ยน

เขาเปลี่ยนมาทานเป็นไข่ต้ม 1 ฟองกับพริกน้ำปลาห่อข้าวไปทานที่ทำงาน พอถึงบ้านก็กินลูกชิ้น 1 ไม้กับข้าวเหนียว 5 บาท ส่วนน้ำก็กินในตู้หยอดเหรียญวันละ 1 บาทก็ได้น้ำมาตั้งเยอะแล้ว พอทำแบบนี้ไปนาน ๆ เพื่อนที่เคยกินหรูด้วยกันตลอดก็เริ่มออกห่าง พอเริ่มไม่มีรถขับเหมือนเดิมก็จะไม่เหมือนเดิม เพื่อนชวนแต่เริ่มปฏิเสธเพื่อนก็จะเลิกชวนไปเอง

ซึ่งเมนูอาหารของเขานั้นบ้างก็ทานเป็นไข่ต้ม น้ำฟรี ลูกชิ้น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไข่เจียว สลับ ๆ กันไป อาหารหลากหลายแต่เน้นราคาไม่แพงแต่ก็ทานอิ่มได้เหมือนกัน พอเป็นแบบนี้ก็เริ่มมีเงินเหลือเก็บ 3 – 4 หมื่นบาทเลย และทยอยใช้หนี้เดิมไป

เดือนไหนที่ได้เงินค่าคอมมิชชั่นเยอะหน่อยก็จะคิดก่อนจะซื้อมากขึ้น ไม่ใช่จ่ายฟุ่มเฟือยเหมือนเดิมแล้ว การห่อข้าวไปกินมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรด้วย พอถึงวันหนึ่งเขาตากผ้าห่มไว้แล้วดันถูกขโมยไป ทำให้เขาไม่อย ากจะซื้อผ้าห่มชุดใหม่ด้วยเงินสด เนื่องจากรู้คุณค่าของเงินมากขึ้น เขาเลยตัดสินใจผ่อนผ้าห่มกับคนเร่ขายผ้าแถวบ้านในราคา 1,500 บาท ซึ่งเขาก็ผ่อนไปสบาย ๆ เดือนละ 350 บาท นาน 10 เดือน ก็จะตกวันละ 10 กว่าบาทเท่านั้น

พอเขาผ่อนมาแล้วก็มานอนคิดก็เห็นว่า นี่ ด อ ก เบี้ยมันเท่าตัวเลยนี่หว่าเขาเลยปิ๊งไอเดียธุรกิจใหม่ขึ้นมาได้ โดยการขายผ้าห่มให้กับเพื่อนร่วมงาน พนักงานในห้างนั้นชอบของเงินผ่อนอยู่แล้ว เขาเลยไปยังร้านขายชุดเครื่องนอน ไปขอดูแค็ตตาล็อคชุดเครื่องนอนในแบบต่าง ๆ แล้วก็เอาไปขายให้กับเพื่อนในที่ทำงานแบบเงินผ่อน ซึ่งเขาขายวันเดียวได้ทั้งหลายสิบชุดเลย โดยเขาจะให้ดาวน์ 500 บาท ผ่อนเริ่มต้น 300 บาท นาน 10 เดือน ต้นทุน 1,500 บาท แล้วเขาก็ได้กำไรมาหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

พอเขาขายไปนานเข้าคนก็เริ่มรู้จักมากขึ้น มีการบอกต่อกันปากต่อปากกันไปและชวนกันมาผ่อนของ เพราะว่าผ่อนในราคาหลักร้อยเท่านั้นเองหลายคนก็ยอมจ่ายอยู่แล้ว แต่ก็เจอปัญหาว่ามีคนหนีบ้าง ไม่จ่ายบ้าง โกงบ้าง แต่ยังไงเขาก็ยังมีกำไรอยู่ดี  และระดับผู้จัดการก็ยังมาขอผ่อนของกับเขา

การทำแบบนี้ทำให้มีเงินเพิ่มมากขึ้นอีกทางเพียงพอที่เขาจะมีเงินจ่ายหนี้บัตรเครดิต เขาได้ชีวิตที่สะดวกสบายกลับมา แล้วยังมีเงินสำหรับดาวน์บ้านและรถคันใหม่อีกด้วย และการใช้ชีวิตเรียบง่ายทำให้เขามีความสุขมากขึ้น และแม้ทุกวันนี้เขาจะมีเงินเก็บหลายแสน มีทุกอย่ างที่ควรจะมี แต่เขาก็ยังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบเดิมอยู่และยังคงระมัดระวังการใช้เงินมากขึ้น