อยากให้อ่านเรื่องนี้ จากเป็นหนี้ทำให้มีเงินเก็บเป็นแสน
อยากให้อ่านเรื่องนี้ จากเป็นหนี้ทำให้มีเงินเก็บเป็นแสน
มีเรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงของคนๆหนึ่งที่ได้นำมาเล่าให้กับทุกคนได้อ่านกัน
และหลายคนอาจจะเคยอ่านเจอเรื่องนี้กันมาแล้ว
สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านอยากให้อ่านจบจบแล้วคุณจะได้ข้อคิดอะไรหลายอย่างจากเรื่องนี้
โดยเป็นคนมีหนี้ ท่ ว ม ตั ว ท่ ว ม หั ว
จนสุดท้ายปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตก็ทำให้มีเงินเก็บหลักแสนแล้ว
เรื่องราวนี้จะเป็นอย่างไรมาอ่านพร้อมกันได้เลย
โดยเรื่องก็เริ่มที่เล่าว่า “ช่วงที่เขาได้อยู่กับภรร ย า
คนเก่านั้นได้ทำงานเป็นพนักงานขายของในห้าง
และได้รู้จักกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่หนี้สินเยอะมาก
และแน่นอนพนักงานอีกหลายคนก็หนี้เยอะเหมือนกัน”
โดยคำพูดเขาจะเป็นอีกแบบก็ประมาณนี้ ซึ่งก็เล่าต่อว่า
พนักงานส่วนมากนั้นก็จะเป็นหนี้บัตรเครดิต จากการผ่อนโน่น ผ่อนนี่
บางเดือนก็ไม่เหลือเงินเลย
ซึ่งเขาเองก็ก่อหนี้ตัวเองไม่ต่างจากพนักงานคนอื่น ๆ
โดยการผ่อนโทรศัพท์มือถือที่อยากจะได้ด้วยบัตร และต่อมาก็เป็นกระเป๋า
โดยเขามีบัตรเครดิตเยอะมาก มีมากกว่า 2 ใบด้วย จนทำให้ในระยะเวลา 4
ปีนั้นต้องทำงานหาเงินเพื่อใช้หนี้บัตรเครดิตอย่างเดียวเลย
แน่นอนว่าหนี้ต่าง ๆ ที่ผ่อนอะไรมานั้นก็ก่อด้วยตนเองทั้งนั้น
แต่แล้วก็เหมือนมีอะไรดลใจที่ทำให้เขาอยากจะมีชีวิตใหม่
โดยเริ่มต้นทำแบบนี้
1 ทิ้งบัตรเครดิตทุกใบไปเลย
2 คืนรถยนต์ที่ผ่อนมากว่าปี
3 ออกจากอพาร์ตเม้น เดือนละ 6,000 บาท ไปเช่าห้องพักเดือนละ 800 บาทแบบห้องน้ำรวม
4 ปรับ วิ ถี ชี วิ ตจากที่เคยทานชาบู สเ ต็ กกับเพื่อน ๆ ทุกสัปดาห์
เปลี่ยนไปหาไข่ต้ม 1 ฟอง ละลายพริกน้ำป ล า แถมยังถือไปทานที่ทำงานด้วย
พอตอนกลับบ้านก็ลูกชิ้น 1 ไม้ ข้าวเหนียว 5 บาท น้ำดื่มหยอดตู้กิน
ซึ่งในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเขาแบบนี้ทำให้เพื่อนในที่ทำงานเริ่มจะตีตัวออกห่าง
เนื่องจากเขาหรูหราแบบเดิมไม่ได้แล้ว ไม่มีรถขับ ไม่กินหรู ไม่สั ง ส ร ร
ค์ ทุกอย่างเปลี่ยนหมด ห่อข้าวไปกิน น้ำหาของฟรีในห้าง
เย็นกลับบ้านไปมื้อเย็นก็เป็น บะหมี่บ้าง ลู ก ชิ้ นบ้าง ไข่เจียว
สลับกันไป แต่ละเมนูนั้นล้วนประหยัดงบที่สุด
เขาเริ่มใช้ชีวิตแบบนี้เป็นปี ๆ เลย และเริ่มมีเงินเก็บ 30,000 – 40,000
บาท จากที่ตอนแรกนั้นติดลบแถมยังเป็นหนี้มหาศาลเลย
เขาเริ่มที่จะเก็บเงินมากขึ้นเดือนไหนค่าคอมเยอะยิ่งเก็บเยอะ
และแม้จะไม่เป็นหนี้แล้วแต่ก็ยังใช้ชีวิตแบบเดิมเลย
และอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของชีวิตเขาก็มาถึง
โดยเขาตากผ้าห่มไว้แต่ดันโดนขโมยไป
แต่เขาไม่อยากจะซื้อผ้าห่มด้วยเงินสดเลยใช้วิธีการผ่อนกับแขกที่ขายแถว ๆ
นั้น โดยร้านขายในราคา 1,500 บาท แล้วก็ยังให้เขาผ่อนนาน 10 เดือน เดือนละ
350 บาทเท่านั้นเอง ต่อวันก็วันละไม่กี่สิบบาทเท่านั้น
พอเขาพิจารณาผ้าห่มที่ผ่อนมานั้น ด อ ก เ บี้ ยเท่าตัวเลย
จึงได้ขายผ้าห่มให้กับเพื่อนร่วมงานแบบเงินผ่อน
เพราะว่าพนักงานห้างชอบการผ่อนของอยู่แล้ว
พอคิดได้แบบนั้นก็ไปร้านจำหน่ายชุดเครื่องนอนเลย
ไปขอแคตตาล้อคมาดูว่ามีแบบไหนบ้าง จากนั้นก็เอาไปให้เพื่อนร่วมงานสั่ง
และวันเดียวก็มีคนซื้อหลายสิบชุด โดยมีเงินดาวน์ 500 บาท ผ่อนไป 300
บาทต่อเดือน นาน 10 เดือน ต้นทุน 1,500 บาท ก็ได้กำไรเท่าตัวเหมือน แ ข ก
ที่เอามาขายให้เขาแล้ว
พอมีคนรู้จักเยอะว่าเขาขายผ้าห่ม
ขายชุดเครื่องนอนแบบเงินผ่อนก็มีการบอกต่อกันไปเรื่อย ๆ
เพื่อมาช่วยซื้อชุดเครื่องนั้น เขาก็ขายได้หลายร้อยชุดเหมือนกัน
แต่ก็มีทั้งคนที่โกงบ้าง หนีบ้าง ไม่จ่ายบ้าง แต่ว่ายังได้กำไรอยู่ดี
ทุกวันนี้ชีวิตของเขาดีขึ้นถึงขั้นปล่อยเงินกู้ให้กับผู้จัดการได้
ชีวิตเขามีความสุขดีแม้ไม่มีบัตรเครดิต
แล้วพอมีเงินเยอะเขาก็สามารถกลับมาสุขสบายแบบแท้จริงได้ มีเงินผ่อนบ้าน
ผ่อนรถได้แบบสบาย ๆ ไม่เครียดเลย
จากคนที่เคยเป็น ห นี้เงินผ่อนมากมายจนไม่มีเงินเก็บ
เพียงแค่ปรับวิถีการใช้ชีวิตใหม่
จัดการด้านการเงินตัวเองให้ดีพร้อมกับหาทางเพิ่มรายได้
เพียงเท่านี้หนี้สินก็หมดได้แถมยังมีเงินเก็บมากมายในการสร้างอนาคตด้วยนะ
หากคุณเป็นหนี้ตอนนี้ลองปรับเปลี่ยนที่ตัวเองนะ เริ่มไม่ยาก
เริ่มที่ความคิดก่อนเลยทำให้มันเป็นบวกและคิดหาท า ง ร อ
ดให้กับตัวเองเดี๋ยวเรื่องดีๆ น่าสนใจมันก็เข้ามา