Home »
ข่าว
»
กกพ.เตรียมคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้า ให้ผู้จ่ายค่าไฟตรงทุกเดือน
กกพ.เตรียมคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้า ให้ผู้จ่ายค่าไฟตรงทุกเดือน
น.ส.นฤภัทร์
อมรโฆษิต เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)
เปิดเผยว่า สำนักงาน กกพ.ได้หารือกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)
และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
เพื่อคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย
(บ้านที่อยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก)
ตามมาตรฐานสัญญาให้บริการผู้ไช้ไฟรายย่อยที่มีผลบังคับใช้เมื่อปี 2559
โดยเดิมก่อนหน้านี้เห็นชอบร่วมกันจะจ่ายเฉพาะอัตราดอกเบี้ยทุก
5 ปี เริ่มคำนวณปี 2558-2562 เริ่มจ่ายปี 2563
โดยคิดในอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย
ซึ่งพบว่าแต่ละรายจะได้คืนอัตราต่ำมากเช่น 20 บาท
จึงเห็นชอบว่าควรจะคืนเงินประกันสำหรับผู้ที่จ่ายค่าไฟต่อเนื่องเป็นเวลา 1
ปี หรือลูกค้าชั้นดี โดยเตรียมเสนอเรื่องนี้ให้กับ
กกพ.พิจารณาดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม
ผู้ที่จะยื่นใช้ไฟใหม่ก็จะต้องจ่ายเงินค่าประกันการใช้ไฟเช่นเดิม
ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าภาคประชาชนของ
กฟน.และ กฟภ.ติดมิเตอร์ประมาณ 22 ล้านราย คิดเป็นวงเงินรวมประมาณ 20,000
ล้านบาท
และปกติเมื่อมีการขอใช้ไฟกับการไฟฟ้าจะต้องวางเงินค่าประกันการใช้ไฟ
2,000-4,000 บาท/ราย ส่วนรายใหญ่ที่เป็นภาคอุตสาหกรรมนั้น
การวางเงินประกันในรูปแบบอื่นๆ เช่นแบงก์การันตี จึงไม่เป็นปัญหาอะไร
ส่วนกรณีราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำปี
2562 จะมีผลต่อทิศทางค่าไฟตลอดปี 2563 มากน้อยเพียงใดนั้น
ยังคงต้องติดตามต่อไปว่าจะมีผลสะท้อนมายังราคาก๊าซธรรมชาติ
ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าว่าจะเป็นอย่างไร
ซึ่งเบื้องต้นมีทิศทางขาลงเล็กน้อย
แต่ยังต้องคำนึงถึงอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทและการใช้ไฟฟ้าภาพรวมด้วย
เพราะหากการส่งออกได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า
ก็ทำให้ปริมาณใช้ไฟฟ้าต่อหน่วยลดลงย่อมมีผลต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าต่อหน่วยเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้
ค่าไฟฟ้างวดแรก (ม.ค.-เม.ย.63) กกพ.ได้ประกาศตรึงค่าเอฟที
หรือค่าไฟฟ้าอัตโนมัตไปแล้ว ต่อเนื่องจากกการตรึงค่าไฟฟ้าตลอดทั้งปี 2562
และ กกพ.เสนอใช้โครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานเดิมออกไปอีก 1 ปี
หลังพบข้อดีทำให้สามารถดึงเงินที่ลงทุนไม่เป็นไปตามแผนของ 3 การไฟฟ้า (call
back) ดูแลค่าไฟประชาชนจนสามารถตรึงค่าเอฟทีตลอด 16
เดือนต่อเนื่องจนถึงงวดล่าสุด (ม.ค.-เม.ย.63) คิดเป็นมูลค่ากว่า 18,000
ล้านบาท โดยเตรียมปรับค่าไฟฐานใหม่เริ่มปี 2564
นอกจากนี้ยังมีการวางแผนป้องกันการสะสมพลังงาน 2561-2564
การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการใช้ทรัพยากรของประเทศเป็นอย่างมากและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปโดยใช้งบประมาณงบประมาณตามแผน
5,000 ล้านบาทหรือเงินปีละ 1,000 ล้านบาทในการดำเนินงาน
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com