คุณนายกับพ่อค้าขายไข่ และคุณค่าของเงิน 5บาท
เชื่อว่าหลายๆคนที่เคยไปซื้อข้าวของในตลาด
กับพ่อค้า แม่ค้า แล้วมักจะขอต่อราคา แต่เวลาที่
ไปซื้อของในห้างกลับไม่เคยต่อราคา และเต็มใจที่จะซื้อแม้ว่าราคาจะสูงกว่า
และวันนี้เรามีบทความดีๆมาให้อ่าน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของหลายๆ
คนได้อย่างดีทีเดียว
“ไข่ไก่ขายยังไง?” พ่อค้าชรา ก็ตอบว่าฟองละ 5 บาทครับ
คุณนายก็บอกว่า ฉันต้องการซื้อไข่ 6 ฟอง 25 บาทได้ไหม (ที่จริงควรจะ
30 บาท) ชายชราตอบว่า แล้วแต่คุณนายเถอะ
อยากซื้อเท่าไหร่จ่ายเท่าไหร่ก็ตามสะดวก
วันนี้อาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีของผมก็ได้ เพราะตั้งแต่เช้า
ยังขายไข่ไม่ได้เลย
แล้วคุณนายก็หิ้วไข่ 6 ฟอง เดินไปขึ้นรถเก๋งที่มีเพื่อนๆ
นั่งอยู่แล้ว ด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องว่า
สามารถซื้อไข่ได้ในราคาถูกกว่าที่พ่อค้าขาย
หลังจากนั้นคุณนายและผองเพื่อนก็ไปภัตตาคารแห่งหนึ่ง สั่งอาหารมา
และกินกันอย่างเพลิดเพลิน แต่ก็ไม่หมด ยังเหลืออีกมากมายเยอะแยะ
จนในที่สุดก็เรียกทางร้านมาเช็คบิล ราคาทั้งหมด 1400 บาท คุณนาย
ยื่นเงินไปให้ 1500 แล้วบอกว่า “ไม่ต้องทอนนะคะ...
เงินแค่นี้มันธรรมดามากสำหรับเจ้าของภัตตาคาร
แต่สำหรับพ่อค้าชราที่ยืนขายไข่ ถ้าเขารู้มันอาจจะเจ็บปวดมากก็ได้นะ
จุดสำคัญคือว่า ทำไมเราชอบโชว์ว่า
เวลาเราซื้อของจากพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นชาวบ้านลำบากอยู่แล้ว
เรามักต่อรองราคาและรู้สึกพึงพอใจ
ถ้าหากว่าเราต่อราคาได้ถูกกว่าราคาที่เขาขาย.. คุณคิดว่าแปลกไหมล่ะ ?
หลายคนมักไม่เคยได้ต่อรองราคาสินค้าราคาแพงๆ เหล่านั้น ที่วางขายในห้าง
ในร้านอาหารใหญ่ๆ ที่เขาตั้งราคาไว้สูงเรียบร้อยหมดแล้ว
ลองอ่านนี้ดูอีกหน่อย..ผมมักจะชอบซื้อของจากคนจนๆ และให้ราคาสูง
ทั้งๆที่ไม่ได้ต้องการสินค้าเหล่านั้น
..แค่ต้องการให้เงินแก่พวกเขาเพื่อนำไปใช้เลี้ยงครอบครัวเขา
ถามว่าทำไมผมทำแบบนั้น "มันเป็นการทำบุญ ที่มีคุณค่ามาก ..
(ที่จริงก้อแบบว่า มันเป็นการช่วยเขา
ที่ทำให้เขาไม่ต้องรู้สึกว่าเขาเสียศักดิ์ศรีครับ ผมรู้ว่า ส่วนใหญ่
คุณไม่ส่งต่อ ไม่แชร์ข้อความเหล่านี้หรอก แต่ลองทำดูซะหน่อยสิ...
เงินเล็กน้อยของคุณอาจจะเป็นชีวิตของเขาเลยก็ได้นะ
สำหรับใครที่ได้อ่านบทความนี้ก็ลองย้อนกลับมามองดูตัวเราเองด้วยว่า
เงินที่้รายอมจ่ายให้ห้างร้านอาหารหรูๆ หรือร้านกาแฟแพงๆ
แล้วไม่เคยไปต่อราคาเลยสักคำ แต่พอไปซื้อของกับพ่อค้าแม่ค้า
ที่หาเช้ากินค่ำกลับต่อราคาเค้า ทั้งๆที่เงิน 5 บาท 10
บาทนั้นมีคุณค่ากับพวกเค้าเหล่านั้นมากๆ
ขอขอบคุณที่มาจาก : เดือน สุครีพย์