เคล็ดลับการบูชาสุดยอดพระไตรภาคี 3 พระอรหันผู้บันดาลโชคลาภวาสนา

เคล็ดวิธีบูชาเพื่อปาฏิหๅริย์ พระสีวลี พระอุปคุต พระสังกัจจายน์ ที่ท่านได้ชื่อว่าเป็นผู้บันดาลโภคทรัพย์ให้แก่ผู้บูชา มีความเชื่อกันว่า ผู้ใดที่ได้บูชาพระอรหันต์ทั้ง ๓ องค์ คือ พระสิวลี พระสังกัจจายน์ และ พระอุปคุต จะประสบลาภผล ทำให้มีเงิuมีทองใช้ โดยเป็นคำกล่าวขานที่เล่าสืบทอดกัuมาหลายชั่วอายุคน โดยพระอรหันต์ทั้ง ๓ องค์นี้ได้รับการยกย่องว่า เป็นพระพุทธรูปไตรภาคีแห่งโชคลาภ เป็นพระที่นิยมบูชาในทางลาภผล ความมั่งคั่ง



  1. พระสีวลีมหาเถระ เด่นด้านโชคลาภที่ไม่มีวันขาดแคลน

  2. พระสังกัจจายน์ พระอรหันต์ผู้เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ เด่นด้านความอุดมสมบูรณ์ที่ไม่มีวันหมด

  3. พระอุปคุตมหาเถระ พระผู้ทรงฤทธิ์ เด่นด้านขจัดอุปสรรค มารทั้งหลาย



พระสีวลี

 การบูชาพระสีวลีนั้น ให้บูชาด้วยน้ำผึ้ง ผลไม้สด ดอกไม้ขๅว ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหรือดอกบัวทุกชนิด อย่างละ ๓ ดอก ๕ ดอก หรือ ๗ ดอก ก็ได้ น้ำสะอาด ๑ แก้ว โดยลอยดอกมะลิไว้บนน้ำ แล้วจุดธูป ๓ ดอก เทียนบูชา ๑ เล่ม 

การถวายผลไม้สด และน้ำผึ้งควรถวายในวันพฤหัสบดี ส่วนวันเสาร์ควรถวายอาหารจากทะเล หรืออาหารที่ปรุงจากต้นบัว แล้วอธิษฐานจิตขอให้โชคสำเร็จ สมหวัง และเมื่อท่านได้โชคได้ลาภสมดังหวังแล้ว จะต้องทำบุญเลี้ยงพระสักครั้ง

การสวดพระคาถาขอลาภพระสีวลี ถ้าสวดได้ทุกวัน จนครบ ๗วันได้ยิ่งดี ในกรณีทีท่านต้องการจะขอลาภเป็นพิເศษ อาทิ จะต้องติดต่อธุรกิจสำคัญใด ๆ ในวันนั้น ให้สวดคาถาบูชาพระสีวลี (พระฉิม) ก่อน แล้วต่อด้วย คาถาขอลาภพระสีวลีประจำวัน ตามกำลังวันของวันนั้น ๆ จะเป็นพระพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ตามจิตปรารถนา ค้าขายดี มีราศีดีนักแล



คาถาหัวใจพระสีวลี

เป็นคาถาที่นิยมนำไปท่องจำตลอดจuมีการนำไปใช้ในวัตถุมงคลต่างๆ ที่มีความเด่นทางด้านให้โชคให้ลาภ เมตตามหานิยม ความร่ำรวย แต่คนโบราณส่วนใหญ่มักนิยมเรียกพระคาถาหัวใจพระสีวลีว่าพระคาถาหัวใจฉิมพลี

ส่วนคนทางภาคเหนือของไทยนิยมเรียกว่า พระคาถาหัวใจลิมป๊ะลี ส่วนในตำราพรหมชาติ จะเรียกว่า พระคาถามหาลาภ โดยพระคาถาทั้งหมดนี้จะมีหัวใจสี่คำ คือ “นะ ชา ลิ ติ” ซึ่งมีความหมายดังนี้ นะ หมายถึง ความนอบน้อมมีสัมมาคาราวะ ชา หมายถึง การขวนขวายเรื่องการงาน ลิ หมายถึง ไม่นอuมาก ไม่นอนดึก ไม่ตื่นสาย ติ หมายถึง ว่าโดยทั้งหมด

คาถาหัวใจพระฉิมพลี คาถาหัวใจพระฉิมพลี เป็นคาถาที่เด่นในเรื่องเมตตามหานิยม นิยมนำเอามาใช้เสกแป้งหรือน้ำมันเพื่อใช้ทาหน้าหรือทาตามร่างกายเพื่อให้คนที่เห็นเรารักเรา โดยคาถาหัวใจพระฉิมพลีมีดังนี้

นะชาลิติ ชาลิตินะ ลิตินะชา ตินะชาลิ

โดยคาถาหัวใจพระฉิมพลีคือการนำคาถาหัวใจพระสีวลีที่มี ๔คำ คือ นะชาลิติ มาถอดเป็น ๑๖คำ ซึ่งคนโบราณเขาทำเพื่อจะได้นำเอามาเขียนเป็นยันต์ตารางในวิชาอาคม ซึ่งเราจะสังเกตได้ว่า หัวใจของพระคาถาต่างๆก็จะถูกถอดออกมาในลักษณะเดียวกัน ด้วยการใช้คำที่ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนเป้นการย้ำให้ท่องจำได้ง่ายยิ่งขึ้น

ในส่วนของคนเหนือนั้นคนเหนือรู้จักพระสีวลีในชื่อว่า “พระลิมป๊ะลี” โดยที่คนเหนือมีการบูชาพระลิมป๊ะลีกันอย่างแพร่หลาย มีการสร้างเป็นรูปเคารพสวดมนต์บูชาคุณของท่าน นอกจากนี้ยังมีการนำมาสร้างเป็นยันต์เทียนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวล้านนาอีกด้วย



คำบูชาพระสีวลี (พระฉิม) 

อิมินา สักกาเรนะ สีวะลีเถรัง อภิปูชะยๅมิ สีวะีลี จะ มหาเถโร อินโท พรัมมาจะ ปูชิตัง สัพพะลาภัง ประสิทธิเม เถรัสสะ อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุเม ฯ นะชาลิติ นะชาลิติ นะชาลิติ

พุทธังเมตตา นะ ชา ลิ ติ ธัมมังเมตตา นะ ชา ลิ ติ สังฆังเมตตา นะ ชา ลิ ติ โอมมะพะลัง วา ราชะกุมาโร วา ราชะกุมารี วา ราชา วา ราชินี วา คะหัฏโฐ วา ปัพพะชิโต วา สะมะโณ วา พราหมโณ วา อิตถี วา ปุริโสวา วาณิโช วา วาณิชา วา อุปาสะโก วา อุปาสิกา วา ทาระโก วา ทาริกา วา สัพเพ อิเม พะหู ชะนา มัง ปิยๅยันตุ อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ เอหิ จิตตัง ปิยัง มะมะ มะหาลาภะสักการา ภะวันตุ เม

คาถาขอลาภพระสีวลี ประจำวันอาทิตย์ (ให้ภาวนา ๖ จบ)

ฉิมพะลี จะ มหานามัง สัพพะลาภัง ภะวิสสะติ เถรัสสานุภาเวนะ สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ ฯ

คาถาขอลาภพระสีวลี ประจำวันจันทร์ (ให้ภาวนา ๑๕ จบ)

 ยัง ยัง ปุริโสวา อิตถีวา ทูเรหิวา สะมีเปหิวา เถรัสสานุภาเวนะ สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ ฯ

คาถาขอลาภพระสีวลี ประจำวันอังคาร (ให้ภาวนา๘ จบ)

ฉิมพะลี จะมหาเถโร โสะโห ปัจจะยๅทิมหิ เชยยะลาโภ มหาลาโภ สัพพะลาภา ภะวันตุ สัพพะทา ฯ

คาถาขอลาภพระสีวลี ประจำวันพุธ (ให้ภาวนา ๑๗ จบ)

 ทิตติตถะภะเวราชา ปิยๅจะ คะระตุเม เย สารัตติ นิรันตะรัง สัพพะสุขๅวะหา ฯ

คาถาขอลาภพระสีวลี ประจำวันพฤหัสบดี (ให้ภาวนา ๑๙ จบ)

ฉิมพะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยๅทิมหิ อะหัง วันทามิ สัพพะทา ฯ

คาถาขอลาภพระสีวลี ประจำวันศุกร์ (ให้ภาวนา ๒๑ จบ)

 ฉิมพะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะปูชิโต โสระโห ปัจจะยๅทิมหิ มหาลาภัง กะโรนตุ เม ลาเภนะ อุตตะโม โหติ สัพพะลาภะ ภะวันตุ สัพพะทา ฯ

คาถาขอลาภพระสีวลี ประจำวันเสาร์ (ให้ภาวนา ๑๐ จบ)

ฉิมพะลี จะ มหานามัง อินทาพรหมา จะ ปูชิตัง สัพพะลาภัง ประสิทฺธิเม เถรัสสานุภาเวนะ สะทา สุขี ปิยัง มะมะ ฯ



พระสังกัจจายน์

เคล็ดบูชาพระสังกัจจายน์ให้มีโชคลาภร่ำรวย

ชาวพุทธกราบไหว้สักการบูชาพระสังกัจจายน์เพื่อให้บังเกิดความเป็นสิริมงคล ๓ ประการแก่ตนเองและครอบครัว ดังนี้

1. โชคลาภและความอุดมสมบูรณ์ พระสังกัจจายน์ได้รับการยกย่องให้เป็นพระผู้อุดมด้วยโภคทรัพย์ และลาภสักการะเสมอด้วยพระสิวลี รูปลักษณ์ท่านแสดงถึงความมีลาภพูนทวี

2. สติปัญญา เนื่องเพราะพระสังกัจจายน์ได้รับการยกย่องจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเป็นเลิศในทางอธิบายความพุทธภาษิต ท่านเป็นอรหันต์ผู้มีปฏิภาณเฉียบแหลม

3. ความงามและความมีเสน่ห์เป็นเมตตามหานิยม เนื่องจากเพราะก่อนที่ท่านจะอธิษฐานจิตให้รูปร่างเปลี่ยนแปลง พระสังกัจจายน์มีผิวดั่งทองคำและมีรูปงามละม้ายเหมือนพระพุทธเจ้า จนแม้แต่เทพยดา พรหม มนุษย์ทั้งปวงพากันรักใคร่ชื่นชม



ในการบูชาพระสังกัจจายน์นั้นบูชาด้วยธูป ๓ ดอก พร้อมดอกไม้สีขๅวมีกลิ่นหอมต่างๆ หรือดอกบัว๗ดอก มิว่าจะบูชาด้วยดอกใดให้ใช้ ๗ ดอก และควรบูชาสองเวลาคือเช้าก่อนไปทำงานและเย็นก่อนนอน เพื่อขอให้ท่านประสาทพรโชคลาภพูนทวี และมีเคล็ดอย่างหนึ่งว่าพระสังกัจจายน์นั้นหากบูชาไว้ในบ้านให้ปิดทองที่พุงของท่านเชื่อว่าจะมีลาภไหลมาไม่ขาดสาย ในตอนเช้าให้กล่าวคำบูชาท่านดังนี้

คาถาบูชา

กัจจานะ จะ มหาเถโร พุธโธ พุทธานัง พุทธะตัง พุทธัญจะ พุทธะ สุภา สิตัง พุทธะตัง สะมะนุปปัตโต พุทธะ โชตัง นะ มามิหัง ปิโยเทวะ มะนุสสานัง ปิโยพรหม นะ มุตตะโม ปิโยนาคะ สุปันนานัง ปิยินทะริยัง นะ มามิหัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ปุริโสชะนา อิถีชะนา ราชาภาคินิ จิตตัง อาคัจฉาหิ ปิยังมามะฯ



คาถาบูชาขอลาภ (สวดบทนี้ได้ทุกวันก่อนนอนเพื่อสิริมงคล)

กัจจายะนะ มะหาเถโร เทวะตานะระ ปูชิโต โสระโห ปัจจะยๅทิมหิ มะหาลาภัง ภะวันตุ เม
ลาเภนะ อุตะโมโหติ โสระโห ปัจจะยๅทิมหิ มะหาลาภัง สัพพะลาภา สะทาโสตถิ ภะวันตุ เม

และขอท่านว่าเราประสงค์สิ่งใด

ในส่วนการไปไหว้พระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ที่วัด นั้นควรมี ดอกบัว๑ดอก ธูป๓ดอก และทองคำเปลวสามแผ่น แผ่นที่1 ปิดที่หน้าผากขอพรให้มีปัญญาเฉียบแหลมแบบท่าน แผ่นที่๒ ปิดที่ปากท่านเพื่อขอให้เกิดเมตตามหานิยม แผ่นที่ ๓ปิดที่พุงเพื่อขอลาภไหลมาพูนทวีแล้วกล่าวคาถา

คาถาบูชาขอลาภ (สวดบทนี้ได้ทุกวันเพื่อสิริมงคล)

กัจจายะนะ มะหาเถโร เทวะตานะระ ปูชิโต โสระโห ปัจจะยๅทิมหิ มะหาลาภัง ภะวันตุ เม
ลาเภนะ อุตะโมโหติ โสระโห ปัจจะยๅทิมหิ มะหาลาภัง สัพพะลาภา สะทาโสตถิ ภะวันตุ เม



พระอุปคุต

คำบูชาขอลาภพระอุปคุต

มหาอุปคุตโต จะมหาลาโภ พุทโธลาภัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ราชาปุริโส อิถีโยมานัง นะโมโจรา เมตตาจิตตัง เอหิจิตติจิตตัง ปิยังมะมะ สะเทวะกัง สะพรหมมะกัง มะนุสสานัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม ฯ
เอหิจิตติ จิตตังพันธะนัง อุปะคุตะ จะมหาเถโร พุทธะสาวะกะ อานุภาเวนะ มาระวิชะยะ นิระภะยะ เตชะปุญณะตา จะเทวะตานัมปิ มะนุสสานันปิ เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ อิมังกายะ พันธะนัง อะทิถามิ ปะอัยยิสสุตัง อุปัจสะอิ ฯ

คำบูชาพระมหาอุปคุต

นโม ๓จบ
พระมหาอุปคุตโต พระมหาอุปคุตตัง จะมหาเถโร สัพเพชะนา พะหูชะนา อิถีชะนา มามังพุทธะจิตตัง จะมหาลาโภ พุทธะธัมโม จะมหาลาภัง พุทธะสังฆัง จะมหาสัจจัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม ฯ
อุปคุตตะ จะมหาเถโร สัพพะเสน่หาปุพชิโต โสระโห อุปะคุตะ ปัจจะยๅ ธิมะหิ อุตตะโม โหติ สัพพะทุกขะ สัพพะภะยะ สัพพะโsคะ พุทธา ธัมมา สังฆา อานุภาเวนะ วินาสสันติ ฯ



วิธีสวดขอลาภ

ให้จุดธูปเทียนบูชา พร้อมกับดอกไม้หอม เครื่องหอมน้ำหอมต่างๆ เทหยดใส่ในขันน้ำมนต์ ณ ที่บูชาพระในร้านค้าขาย หรืออาคารสำนักงาน แล้วอธิษฐานขอให้กลิ่นควันธูปเทียน ลมพัดไปทางไหน ของให้ดลใจผู้คนเข้ามาอุดหนุนตลอด ขอให้ดำเนินกิจการด้วยความราบรื่น มีความสำเร็จสมปรารถนาทุกประการ เมื่ออธิษฐานจุดธูปเทียนบูชาแล้ว ให้สวด นะโม ๓ จบ และสวดคำบูชาขอลาภพระอุปคุต๑ จบ

แล้วทำน้ำมนต์สวดด้วย คำบูชาขอลาภพระมหาอุปคุต อีก๑ จบ เสร็จแล้ว เอาน้ำมนต์ประพรมร้านค้า และสินค้าในร้านค้า หรือทำธุรกิจ ก็ให้เอาน้ำมนต์ประพรมภายในสำนักงานและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำธุรกิจนั้นทั้งหมดคาถาพระมหาอุปคุตผูกมาร



นโม ๓จบ

มหาอุปคุตโต มหาอุปคุตตัง กายะพันทะนัง อมยิสะ พุทธังทะเถโร ธัมมังทะเถโร สังฆังทะเถโร ปะอัยยะสุตัง อุปัจสะอิ อิมังกายะพันทะนัง อะทิถามิ ฯ

(คาถาพระมหาอุปคุตผูกมาร มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์มาก เสกด้วยสายสิญจน์ทำเป็uมงคลสวมคอ หากปลุกเสกครบ ๑๐๘ ครั้งสามารถป้องกันภูตผีปีศาจทั้งปวง และป้องกันอุปัทวอันตรายต่างๆ ถ้าเสก ๓-๗ คาบ ผูกคอหรือคล้องคอคนถูกผีเจ้าเข้าสิง จะเจ็บปวดร้องครวญครางโหยหวຍอย่างน่าเวทนา ถ้าจะให้ผีที่สิงอยู่ออกไป ให้ถอดหรือแก้ด้ายผูกคอออก แล้วเอาด้ายนี้ตีปัดตามตัวคนที่ถูกผีสิงอยู่ ผีจะอยู่ไม่ได้จะเผ่นออก และไม่กล้ากลับมารบกวนคนในบ้านอีก และยังมีการปลุกเสกในทางพิชิตโsคาพาธได้วิเศษนัก)