Home »
สาระ ความรู้
»
หลายคนไม่เคยรู้! สมุนไพรและผลไม้ 5 ชนิดนี้ ที่ทำให้ไตเสื่อม เสี่ยงไตพัง
หลายคนไม่เคยรู้! สมุนไพรและผลไม้ 5 ชนิดนี้ ที่ทำให้ไตเสื่อม เสี่ยงไตพัง
หลายคนไม่เคยรู้! สมุนไพรและผลไม้ 5 ชนิดนี้ ที่ทำให้ไตเสื่อม เสี่ยงไตพัง
ในร่างกายของเรามีอวัยวะที่สำคัญอยู่มาก วันนี้เราจะมาพูดถึง
อวัยวะที่เรียกว่า “ไต” หน้าที่ของไตคือ กรองของเสีย
และขับของเสียประเภทของโปรตีนและควบคุมระดับปริมาณน้ำในร่างกายของเรา
รวมไปถึงเกลือแร่ออกจากเลือด เป็นตัวผลิตฮอร์โมนควบคุมแคลเซียม
ฮอร์โมนกระตุ้นสร้างเม็ดเลือดแดง หากไตทำงานผิดปกติหรือไตมีความเสื่อม
อาจจะทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง กระดูกพรุนได้
และยังทำให้เกิดการเสียสมดุลในร่างกายของตามมา
ปัจจุบันเราสามารถดูแลสุขภาพได้หลายวิธี เช่นด้วยการออกกำลังกาย
ตรวจร่างกายประจำปี หรือทานอาหารเสริม ไม่ว่าจะแผนปัจจุบันหรือสมุนไพร
ก็ได้รับความนิยมทั้งนั้น
แต่ใครจะรู้ว่าพืชสมุนไพรหรือผลไม้บางชนิดก็ไม่ได้มีแต่ด้านดีอย่างเดียว
ถ้าไม่รู้จักเลือกรับประทานให้เหมาะสมกับตนเองหรือสุขภาวะของตนเอง
ก็เท่ากับเราทำร้ายตัวเองนะคะ ลองมาดูกันหน่อยว่าสมุนไพรตัวไหนบ้างที่เหมาะ
หรือไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคไต หรือมีโอกาศทำลายไตของเรา
1. หญ้าหนวดแมว (Java Tea)
เป็นที่รู้จักในวงการแพทย์แผนโบราณว่ามีฤทธิ์กระตุ้นการขับปัสสาวะ
ช่วยขับนิ่วในทางเดินปัสสาวะและไต หญ้าหนวดแมวประกอบด้วยสารสำคัญแร่ธาตุ
อาทิ โปแทสเซียม (600-700 มิลลิกรัมต่อ100กรัม) สารจำพวก Lipophilic
flavones สารจำพวกซาโปนินและน้ำมันหอมระเหย
เนื่องจากหญ้าหนวดแมวมีปริมาณโปแทสเซียมที่สูงมาก
จะส่งผลเสียต่อผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
การที่มีโปแทสเซียมสูงทำให้ไตทำงานหนักในการกรองและขับของเสียออกมาทางปัสสาวะ
และถ้าไม่สามารถขับออกมาได้จะเกิดการคั่งของโปแทสเซียมในร่างกายเป็นอันตรายต่อหัวใจ
ทำให้เสียชีวิตได้
โดยปกติผู้ป่วยกลุ่มนี้จะได้รับยาที่ควบคุมระดับโปรแทสเซียมในเลือดให้อยู่ในค่าที่เหมาะสมที่สุด
2. มะเฟือง (star fruit)
นำมาใช้เป็นยาสมุนไพร แก้ไข้ แก้ไอ ช่วยขับปัสสาวะ
แต่มะเฟืองเป็นผลไม้ที่มีสารออกซาเลต (Oxalic acid) ในปริมาณมาก
เมื่อเรารับประทานในปริมาณมากหรือรับประทานในขณะท้องว่าง
ทำให้สารออกซาเลตถูกดูดเข้ากระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว และถูกขับทางไต
สารชนิดนี้จะไปจับตัวกับแคลเซียมในไต ทำให้เกิดนิ่วในเนื้อไตและท่อไต
ส่งผลให้เกิดไตเสื่อม และไตวายเฉียบพลันได้
ดังนั้นทั้งคนปกติหรือผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะเฟืองในปริมาณมาและติดต่อกันเป็นเวลานานจะดีที่สุด
ภาวะไตวายจากการรับประทานมะเฟืองไม่ค่อยพบในคนปกติ
แต่จะเกิดกับผู้ที่ไตผิดปกติอยู่แล้ว
3. หญ้าไผ่น้ำ (river spiderwort)
มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ และลดการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ บรรเทาอาการบวม
หญ้าไผ่น้ำไม่เหมาะกับการใช้กับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
เพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก ไตเสื่อม และเกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้เร็วขึ้น
4. ลูกเนียง หรือ ชะเนียง (djenkol bean)
เป็นพืชตะกูลถั่วที่นิยมทานกันมาทางภาคใต้ของไทย
ใช้ลูกอ่อนปอกเปลือกจิ้มน้ำพริกหรือใช้เป็นเครื่องเคียงอาหารรสเผ็ด
ในลูกเนียงประกอบด้วยแป้งร้อยละ 70 โปรตีนร้อยละ 15 ธาตุเหล็ก แคลเซียม
วิตามินบี 1และ 12 กรดแจงโคลิค (djenkolic acid)
เป็นกรดอะมิโนที่มีกำมะถันสูงมากและเป็นพิษต่อร่างกาย
กำมะถันจะไปทำลายระบบประสาทของไตให้เสื่อมลง มักเกิดอาการภายใน 2-14
ชั่วโมง ภายหลังรับประทานจะมีอาการปวดตามบริเวณขาหนีบ ปัสสาวะลำบาก และมาก
บางรายไม่ปัสสาวะ ปัสสาวะเป็นเลือด ทำให้ไตวายเฉียบพลัน ความดันโลหิตสูง
การลดพิษในลูกเนียงโดยการนำมาหั่นเป็นแผ่นบางๆตากแดดให้หมาดก่อนนำมารับประทานหรือต้มในน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนตเป็นเวลา
10นาที จะทำให้กรดแจงโคลิคลดลง 50 %
5. ใบยอ
จากกระแสในโลกโซเซียล ว่าน้ำใบยอสามารถรักษาโรคไตได้
แท้จริงใบยอไม่สามารถรักษาได้ และยังทำลายไตอีกด้วย
ใบยอมีธาตุฟอสฟอรัสสูงมาก เป็นอันตรายต่อไต
เพราะไตไม่สามารถนำฟอสฟอรัสออกมาใช้ได้ตามปกติ
จึงเกิดการสะสมตัวอยู่ในกระแสเลือด ส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆตามมา
อย่างโรคนิ่วในไต และนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลันได้
เห็นไหมค่ะว่าพืช ผลไม้ หรือสมุนไพร ที่เราทานๆกันอยู่ประจำ
หรือนำมาใช้เป็นยาสมุนไพร บางชนิดก็มีอันตรายต่อโรคทางไต
ทำให้ไตเสื่อมได้ค่ะ
หากเรามีโรคประจำตัวอยู่การรับประทานสมุนไพรก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีกว่านะคะ
เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของตัวเราเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจสาระน่ารู้ พืชผักผลไม้เพื่อสุขภาพที่ดี